จังหวัดสงขลา ตั้ง กก.เข้าตรวจสอบ“เหมืองหิน”ทำบ้านร้าว เดือน ม.ค.นี้

สงขลา-จังหวัดสงขลาสั่งตั้ง “คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จริงและประเมินมูลค่าความเสียหายของบ้านและที่ดินกรณีขาวบ้านได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง“ ที่ชาวบ้านหมู่ 1 ต.ทุ่งใหญ่ อ.หาดใหญ่ ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากการระบิดหินของเหมืองหินคอหงส์ ทำให้บ้านแตกร้าว ประชุมร่วมกันนัดลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เดือน ม.ค.นี้

     การออกมาร้องเรียนของชาวบ้านหมู่ที่ 1 ต.ทุ่งใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่เข้าร้องเรียนสื่อมวลชนว่าได้รับความเดือดร้อนจากการะเบิดหินของเหมืองหิน ที่ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ ทำให้บ้านเรือนเกิดการแตกร้าวจำนวนมากและบางจุดมีดินถล่ม ต่อมานายอำเภอหาดใหญ่ได้แนะนำให้ชาวบ้านนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ ส่วนทางเหมืองหินได้มีการระเบิดล่าสุด 2 ครั้งหลังชาวบ้านออกมาร้องเรียน โดยเชิญอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ 

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มาวัดตรวจสอบ ปรากฏว่าแรงสะเทือนอยู่ระดับเกณฑ์ปกติตามกฎหมาย ขณะที่มีขาวบ้าน 4 รายยื่นฟ้องศาลปกครอง และชาวบ้านอีกกว่า 80 ราย ยื่นเรื่องพร้อมเอกสารและภาพถ่ายความเสียหายถึงสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา  เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบความเสียหาย พร้อมทั้งทำหนังสือถึง รมว. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ รมว.ส่งเรื่องต่อให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ตรวจสอบเพื่อแก้ปัญหา ตามที่ นสพ.ไทยแหลมทอง เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น

    ความคืบหน้าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ นางสุปราณี เรืงอดำ ตัวแทนชาวบ้าน หมู่ 1 ต.ทุ่งใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.สงขลา กรณีชาวบ้านได้รับผลกระทบจากทำเหมืองโดยการใช้วัตถุระเบิดเพื่อผลิตแร่ตามประทานบัตร ของ บรษัท บันไดนางศิลา จำกัด ตั้งอยู่ ต.คอหงศ์ อ.หาดใหญ่ ทำให้บัานพักอาศัยของชาว้บานเกิดรอยร้าวชำรุดเสียหายเป็นจำนวนมาก ปรากฏว่า นายเศวต เพชรนุ้ย รอง ผวจ.สงขลา ปฏิบัติราชการแทน ผวจ.สงขลา ได้มีคำสั่งลงวันที่ 15 พ.ย.2567 แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินมูลค่าความเสียหายของบ้านและที่ดิน กรณีชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองของ บริษัท บันไดนางศิลา จำกัด เพื่อให้การตรวจสอบปัญหาเรื่องร้องเรียนเป็นไปด้วยความยุติธรรม เป็นระบบและเกิดความยั่งยืน

     สำหรับคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งต้ังประกอบด้วย อุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา เป็นหัวหนาคณะทำงาน, ผอ.สนง.อุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เขต 1 สงขลา เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน มีคณะทำงานที่เป็นผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ อำเภอเหาดใหญ่, สนง.โยธาธิการและผังเมือง จ.สงขลา, สนง.ที่ดิน จ.สงขลา, สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม จ.สงขลา, สนง.สาธารณสุข จ.สงขลา, เทศบาลตำบลคอหงส์, อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.อ., นอกจากนี้ยังมี ผู้แทน บริษัท เขาบันไดนางศิลา จำกัด ที่ได้รับประทานบัตร, กำนัน ต.ทุ่งใหญ่ อ.หาดใหญ่, ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ทุ่งใหญ่ หน.กลุ่มอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่สนง.อุตสาหกรรม จ.สงขลา, วิศวกรเหมืองแร่ สนง.อุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ เขต 3 สงขลา (ที่ได้รับมอบหมาย) ปลัดอำเภอหาดใหญ่(ที่รับผิดชอบ ต.ทุ่งใหญ่) ปลัดอำเภอหาดใหญ่ (ที่รับผิดชอบ ต.คอหงส์) รวมทั้งตัวแทนผู้ร้องเรียน 4 คนได้แก่ นางสุปราณี เรืองดำ, นางจินดา สาระวิโรจน์, นายวินิจ หิ้นตั้ว และ นายวินัย รัญดร

     ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 2 ม.ค.2568 ว่า ตัวแทนชาวบ้านเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2567 เวลา 13.00 น. นายคณบดี สัมพัชนี อุตสาหกรรม จ.สงขลา หัวหน้าคณะทำงานฯ ได้เรียกประชุมคณะทำงาน ที่ห้องประชุมสนง.อุตสาหกรรม จ.สงขลา ปรากฏว่า มีคณะทำงานเข้าร่วมประขุมจำนวน 20 คน มีกำนัน ต.ทุ่งใหญ่, ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ทุ่งใหญ่ ตัวแทนผู้ร้องเรียน 4 คนได้แก่ นางสุปราณี เรืองดำ, นางจินดา สาระวิโรจน์, นายวินิจ หิ้นตั้ว, นายวินัย รัญดร และตัวแทน บริษัท บันไดนางศิลา จำกัด เข้าร่วมประชุมด้วย โดยมีนายคณบดี เป็นประธานที่ประชุม ในการประชุมตัวแทนบริษัท บันไดนางศิลา จำกัด ชี้แจงว่าการทำเหมืองไม่ได้ส่งผลกระทบแก่ชาวบ้าน แต่หากมีการตรวจสอบว่าความเสียหายเกิดจากการทำเหมืองก็ยินดีเยียวยา ส่วนตัวแทนชาวบ้านยืนยันว่าได้รับผลกระทบจริง และการประชุมจบลงช่วงเย็นประมาณ 16.00 น. มีการกำหนดระยะเวลาเข้าตรวจสอบบ้านที่แตกร้าวเสียหาย ให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ม.ค.2568 เพื่อสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน

     ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับการบอกกล่าวจากตัวแทน บริษัท บันไดนางศิลา จำกัด ว่า ช่วงนี้ทางบริษัทได้หยุดระเบิดหิน  และก่อนหน้านี้บริษัทฯได้เคยเยียวยาให้กับชาวบ้านที่อ้างว่าได้รับผลกระทบความเสียหายจากการระเบิดไป 2 รอบแล้วหลายราย รวมเป็นเงินกว่า 500,000 บาท ซึ่งทุกอย่างมีหลักฐานในการช่วยเหลือทั้งหมด ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.