ที่ดิน 2 จังหวัด เร่งตรวจสอบแนวปลูกยูคาลิตัส ถมคลองสาธารณะ
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 9 ก.ย. 2566, 08:00 น. อ่าน : 498พัทลุง-ที่ดิน 2 จังหวัดเร่งตรวจสอบแนวเขตพื้นที่การปลูกยูคาลิปตัส หลังพบการถมที่คลองสาธารณะ ด้านหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยเผย ก่อนเปลี่ยนแปลงที่ดิน ผู้ถือครองได้ยื่นแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินก่อน แต่ต้องตรวจสอบให้แต่ชัดอีกครั้ง
จากกรณีมีกลุ่มนายทุนนำรถแบคโฮ จำนวน 6 ตัว เร่งปรับพื้นที่ยกคันดินเพื่อปลูกต้นยูคาลิปตัส โดยปลูกไปแล้วกว่า 300 ไร่ และกำลังดำเนินการขุดอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมปลูกยูคาลิปตัสเกือบ 1,000 ไร่ มีการเปลี่ยนแนวทางไหลของน้ำ ทำให้ชาวบ้านที่ทำมาหากินในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ผู้เลี้ยงควายน้ำ ได้รับความเดือดร้อน ด้านตัวแทนนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมออกมาคัดค้านการปลูกยูคาลิปตัสในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากการขุดลอกในพื้นที่ชุมน้ำจะกระทบต่อภาวะโลกร้อน ส่วนใบของยูคาลิปตัสที่มีความร้อนนั้นจะส่งผลต่อสัตว์จำพวกแมลง และสัตว์น้ำ อันตรายต่อพืชน้ำ จากนั้นจะส่งผลกระทบต่อชาวประมงในระยะยาว ในอนาคตหากถึงฤดูน้ำท่วมจะท่วมประมาณ 2 เมตร และท่วมขังเป็นเวลานานแรมเดือน อันจะทำให้น้ำเสียที่เกิดจากใบยูคาลิปตัสจะไหลลงทะเลสาบสงขลา ผลที่ตามมาปลาชนิดต่างๆก็สูญพันธุ์และกระทบกับความยั่งยืน ส่วนเกษตรกรผู้เลี้ยงควายที่เพิ่งได้รับรางวัลให้เป็นมรดกโลกทางเกษตรแรกของประเทศก็จะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย เจ้าหน้าที่กอ.รมน.พัทลุง พนักงานที่ดินของ อ.ระโนด จ.สงขลา พนักงานที่ดินของ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ จนท.สนับสนุนป้องกันและปราบปรามที่ 4 ภาคใต้ แกนนำชาวบ้าน ตัวแทนมูลนิธิชุ่มน้ำทะเลน้อย และตัวแทนกลุ่มนักอนุรักษ์และสิ่งแวดล้อม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเอกสารสิทธิการขุดลอกปลูกต้นยูคาลิปตัสดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.ระโนด จ.สงขลา กับพื้นที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีการขุดคลองและถมคลองสาธารณะในหลายๆจุด โดยเจ้าของที่ดินได้นำเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก. มายืนยันสิทธิ์ในการถือครองในที่ดินดังกล่าวด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าวน่าจะเป็นการกระทำผิดกฎหมาย โดยทางเขตห้ามล่าฯได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ด้าน นายปราโมทย์ แก้วนาม หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย เปิดเผยว่า ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพดินเพื่อการปลูกต้นยูคาลิปตัสนั้น ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวได้แสดงหลักฐานการถือครองที่ดินที่เป็น นส. 3 ก. ต่อเจ้าหน้าที่แล้ว ส่วนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวจะถูกต้องโดยกฎหมายหรือไม่นั้น ในขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบแนวเขตเอกสารสิทธิ์ของพนักงานที่ดินของ อ.ระโนด จ.สงขลา พนักงานที่ดินของ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และฝ่ายปกครองของทั้ง 2 อำเภอ หากการถือครองเอกสารสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวทับเขตล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ก็จะนำเข้าสู่กระบวนการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวต่อไป ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอไป.