พลาย”จัมโบ้”คลั่งตกมัน ใช้งาแทงครวญและกระทืบร่างเละตายอนาถ

นครศรีธรรมราช-สยองช้างพลาย”จัมโบ้”ชักลากไม้ยาง คลั่งตกมันวิ่งตรงเข้ากระทืบควาญช้างร่างเละและใช้งาแทงไส้ทะลัก ตายสยองคาสวนยางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ยิงยาสลบไม่ได้ ต้องปล่อยให้วิ่งหนีเตลิดเข้าป่า เพื่อตามจับภายหลังหายคลุ่มคลั่ง

เหตุสลดใจรายนี้ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2564 เวลา 14.05 น.ร.ต.อ.สิปปกรณ์  แก้วกาญจน์ รอง สว.สภ.พิปูนจ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุช้างคลั่งตกมันไล่เหยียบควาญช้างเสียชีวิต ในสวนยางเชิงเขาห้วยกลาง หมู่ 7 ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วยพ.ต.ท.สุริยัน วิมลเมือง รอง ผกก.สืบสวน และพ.ต.ท.อัชฌาส์ อ่อนศรีแก้ว รอง ผกก.ป. นำกำลังตำรวจสายตรวจ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.พิปูน และจนท.กู้ภัยสยามร่วมใจปู่อินทร์พิปูน-หนองดีและไม้เรียง ไปร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุภายในป่าสวนยาง ใต้โคนต้นยางพบร่างผู้ตายชื่อนายมานิตย์   ธนบัตร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 12 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นควาญช้างมีสภาพศพร่างเละแหลกเหลวถูกแทงไส้ทะลักกะโหลกศีรษะแตกแขนขาหัก และซี่โครงหักหลายซี่ เสื้อผ้าขาดวิ่น โดยเจ้าหน้าที่พบช้างพลายตัวหนึ่งเดินวนเวียนอยู่ใกล้ๆชื่อช้างพลาย”จัมโบ้” อายุ 25 ปี มีอาการตกมันคลุ้มคลั่งเดินวนเวียนในสวนยาง 

ทางตำรวจได้ติดต่อ จนท.ปศุสัตว์ อ.พิปูน เพื่อมายิงสลบ แต่ทำไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากช้างพลายจัมโบ้ ได้วิ่งเตลิดไปมาในสวนยางตลอดเวลา จนท.ปศุสัตว์ไม่สามารถที่จะใช้ยาสลบยิงได้ เป็นที่ผวาของชาวบ้านในพื้นที่ ก่อนที่ช้างพลายจัมโบ้จะหนีหายเข้าป่าสวนยางไปกับความมืด ส่วนร่างนายมานิตย์ จนท.ได้รีบนำร่างที่แหลกเหลวแขนขาหัก ขึ้นรถกู้ภัยไปทำการชันสูตรพลิกศพที่ รพ.พิปูนทันที เนื่องจากเกรงว่าช้างพลายจัมโบ้จะตามมากระทืบซ้ำอีก

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายมานิตย์ ควาญช้างได้นำช้างพลายจัมโบ้จากบ้านที่ ต.บ้านส้องอ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี มารับจ้างชักลากไม้ยางที่บริเวณเชิงเขาห้วยกลาง หมู่ 7 ต.กะทูน อ.พิปูนจ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่เช้าจนกระทั่งเที่ยง นายมานิตย์จึงได้พักกินข้าวใต้ต้นยางที่เกิดเหตุและนั่งสูบใบจากเพื่อพักผ่อน  ปรากฏว่าช้างพลายจัมโบ้เกิดอาการตกมันคลุ้มคลั่ง เดินตรงรี่เข้ามาเหยียบกระทืบและใช้งาแทงร่างนายมานิตย์จนร่างเละแหลกเหลวไส้ทะลักตายสยองดังกล่าว ก่อนที่ช้างพลายจัมโบ้จะเดินวนเวียนในป่าดังกล่าวด้วยอาการตกมันคลุ้มคลั่ง ชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปใกล้ต้องรอให้การตกมันหมดเสียก่อนถึงจะเข้าไปจับภายหลัง ท่ามกลางความหวาดผวาของชาวบ้านในละแวกดังกล่าว.