เรือนำเที่ยวล่ม 14 ชีวิตลอยเคว้ง เสียชีวิต 1 เจ็บ 5 เหตุจากพายุพัดแรง

หมวดหมู่ : ตรัง,

อ่าน : 221
เรือนำเที่ยวล่ม ตรัง-ระทึกขวัญ! เรือนำเที่ยวล่ม
เรือนำเที่ยวล่ม 14 ชีวิตลอยเคว้ง เสียชีวิต 1 เจ็บ 5 เหตุจากพายุพัดแรง

ตรัง-ระทึกขวัญ! เรือนำเที่ยวล่ม 14 ชีวิตลอยเคว้ง นักท่องเที่ยวหญิงวัย 68 สำลักน้ำเสียชีวิต 1 รายอีก 5 ราย ยังอยู่รพ. นายท้ายเล่านาทีเชือกบังคับเรือขาดเป็นให้เรือล่ม เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเรือมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวและทำประกันภัยอุบัติเหตุไว้ถูกต้อง สาเหตุจากพายุลมเรือ

เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.วันที่ 4 พ.ค.67 ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสิเกา ได้รับแจ้งเหตุเรือท่องเที่ยวล่มทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณปากร่องคลองฉางหลางพื้นที่หมู่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง จึงได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.สิเกา โรงพยาบาลสิเกา และอาสาสมัครมูลนิธิสว่างภัคดีตรังธรรมสถาน เข้าให้ความช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทราบว่า เรือที่ประสบภัยเป็นประเภทเรือหางยาว ชื่อ เพชรอันดา ทะเบียนเรือ เลขที่675000372 ได้ประสบเหตุเรือล่มบริเวณปากร่องคลองฉางหลาง หมู่ 4 ต.ไม้ฝาด และในเรือลำดังกล่าวมีผู้ประสบภัย จำนวน 14 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นางอัจฉรา ตรีประเสริฐสกุล อายุ 68 ปี เป็นนักท่องเที่ยว อยู่บ้านเลขที่ 75/25 หมู่ 5 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย คือ ด.ญ.พัทรศยา ตรีประเสริฐสกุล อายุ11 ปี ได้รับบาตเจ็บจากการสำลักน้ำเข้าท่วมปอด นายสมนึก แสงแก้ว อายุ 68 ปี นางอุรา แสงแก้ว อายุ 62 ปี ด.ช.ชิติพัทธ์ ตรีประเสริฐสกุล อายุ 12 ปี นายมนตรี ตรีประเสริฐสกุล อายุ 40 ปี ส่วนผู้ประสบเหตุอีก 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือปลอดภัยแล้ว คือ ด.ญ.นุชนิตา หลอดคำ อายุ 10 ปี นางยุพเรศ ตรีประเสริฐสกุล อายุ 40 ปี ด.ช.วชิรศักดิ์หลอดคำ อายุ 13  ปี

นอกจากนี้นางสาวอุทุมพร แสงแก้ว อายุ 40 ปี นายวิสุทธิพงษ์ หลอดคำ อายุ 47 ปี นายนพดล ห้าหยัง อายุ 50 ปี เป็นผู้ควบคุมเรือ นายอติกันต์ วุ่นคง อายุ 17 ปี เป็นผู้ช่วยควบคุมเรือ และนายรณภพ ห้าหยัง อายุ 16 ปี เป็นไกด์นำเที่ยว ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งหมดเป็นเครือญาติกันรวม 3 ครอบครัว เดินทางมาจากอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ต่อมา พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สภ.สิเกา ร.ต.อ.จักรกริช แก้วทอง รอง สว.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว พ.ต.ต.ดุสิทธิ์ วรรณบวร สว.ส.ทท.2 กก.3 บก.ทท.3 เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ กก.9 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ และประสานให้ความช่วยเหลือ ทราบว่าโชคดีระหว่างเกิดเหตุมีเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์เข้าให้การช่วยเหลือไว้ ก่อนจะทยอยนำผู้ประสบภัยขึ้นมาบนฝั่งโดยมีทีมแพทย์พยาบาล รพ.สิเกา หน่วยกู้ภัยสว่างภักดีตรัง หน่วยกู้ชีพ อบต.ไม้ฝาดให้การช่วยเหลือก่อนเร่งนำส่ง รพ.สิเกา อย่างเร่งด่วน

นายนพดล ห้าหยัง อายุ 50 ปี นายท้ายเรือ เล่าถึงนาทีชีวิตว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับเรือกลับจากพานักท่องเที่ยวกำลังจะกลับขึ้นฝั่ง ปรากฏว่าสายเชือกคันโยงเรือที่ใช้บังคับหางท้ายเรือสองข้างขาด ทำให้นักท่องเที่ยวไหลเทมาอยู่ฝั่งเดียวกัน ทำให้เรือเกิดเอียงซ้าย และเกิดล่ม

จากการตรวจสอบในเบื้องต้นปรากฎว่า เรือเพชรอันดา ลำดังกล่าวมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมีการทำประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยว (ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิติไม่เกิน 1,000,000 บาท กรณีบาดเจ็บไม่เกิน 500,000 บาท) ผู้ควบคุมเรือมีใบอนุญาตขับขี่เรือตามกฎหมาย และมีเสื้อชูชีพเพียงพอสำหรับผู้โดยสารทุกคน และในขณะเกิดเหตุนักท่องเที่ยวได้สวมใส่เสื้อชูชีพทุกคน สาเหตุคาดว่ามาจากอุบัติเหตุคลื่นลมแรงและนักท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ควบคุมเรือ

ขณะเดียวในช่วงเวลา 19.50 น. คืนวันเดียวกัน ที่ รพ.สิเกา จ.ตรัง นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผวจ.ตรัง พร้อมด้วย นายณหทัย สุนทรนนท์ ป้องกันจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวด้วยว่า ในนามของจังหวัดต้องขอแสดงความเสียใจด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ หน่วยรักษาพยาบาล รพ.สิเกา ก็ได้ทำเต็มที่แล้ว ในส่วนของผู้เสียชีวิต 1 ราย ทางโรงพยาบาลได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ก่อนจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัด ซึ่งผู้เสียชีวิตรายนี้อาจจะสำลักน้ำ น้ำอาจจะเข้าปอดเยอะหน่อย ตอนที่ขึ้นมาก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว ส่วนอีก 4-5 คนที่เหลืออาการพ้นขีดอันตราย แต่ยังต้องพักรักษาที่โรงพยาบาลต่อเพื่อรอดูอาการ

ผวจ.ตรัง กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีผู้เสียชีวิตจากการสอบถามจากหลายฝ่าย ตำรวจกำลังแยกทำการสอบสวน ซึ่งข้อเท็จจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนเรือมีครบถูกต้อง ทั้งเรื่องของการจดทะเบียน วัสดุอุปกรณ์ครบถ้วน มีการทำประกันทุกอย่าง ประเด็นที่ 2 เรื่องของผู้เสียชีวิตที่มาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ทุกคนมีเสื้อชูชีพทุกราย แต่ในช่วงที่รอการช่วยเหลืออาจจะสำลักน้ำไป ผู้เสียชีวิตเป็นผู้สูงอายุ อาจเกิดจากสภาพร่างกายหรือการตกใจ ซึ่งอย่างน้อยความผิดทางละเมิด ผู้เสียชีวิตมีประกัน บริษัทจึงอาจไม่ต้องรับผิดชอบตรงนี้ แต่จะดูแลกันยังไงเป็นเรื่องของบริษัทเขาจะจัดการ

ส่วนความผิดทางอาญา แม้ว่าคนเรือ 3 คน จะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น โดยเจตนาหรือโดยประมาทมันก็เป็นความผิด ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่จะสืบสวนทั้งหมดเป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งจะแยกสอบทั้งคนที่รอดชีวิตและคนเรือว่ามีการแก้ปัญหากันยังไง ในส่วนของเจ้าของบริษัทบอกว่ามีเรืออีกลำเป็นสปีดโบ๊ท ยังไม่ทันได้ล้างเรือก็เร่งมาช่วยโดยเร็ว แต่ความรู้สึกของผู้ประสบเหตุมองว่าช้า โดยขอให้ทุกคนที่รอดชีวิตมีสติที่ดีก่อน ซึ่งมีการวางแผนไว้แล้วว่าคดีนี้จะสืบสวนคดียังไง แต่ก็ยังดีใจว่าทุกหน่วยมีการเทคแอคชั่นกัน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงปลายฤดูร้อน ซึ่งจะเข้าหน้าฝน กรมอุตุก็จะเตือนเรื่องพายุทั่วทุกภาคของประเทศ จึงอยากจะขอให้นักท่องเที่ยวที่สามารถมาเที่ยวได้ อาจจะไม่ได้ระวังเท่าที่ควร ก็ควรจะชะลอไว้ก่อน

ผวจ.ตรัง กล่าวอีกว่า พูดตรง ๆ คือวันนี้เป็นวันที่มีคลื่นแรง กรมอุตุเขาก็มีเตือนไว้ ซึ่งคลื่นแรงไม่เฉพาะบนผิวน้ำ ใต้น้ำก็แรงด้วย สังเกตได้ว่าช่วงนี้น้ำจะขุ่น ทำให้คลื่นมีทั้งข้างบนและข้างล่าง ในส่วนของผู้ประกอบการก็ต้องระงับการให้บริการเพราะบางทีมันไม่คุ้ม เพราะฉะนั้น 2 ส่วนนี้ต้องช่วยกัน และจากการพูดคุยกับผู้ประสบภัย บอกว่าใกล้จะถึงฝั่งแล้วมีการเลี้ยวเรือทำให้คนเทไปอยู่ฝั่งเดียวกัน ขณะที่เจ้าของเรือบอกว่าเตือนแล้วว่าให้นั่งเรือทั้งสองฝั่งให้มีน้ำหนักเท่ากันแต่ก็ไม่มีใครฟัง

“สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าสภาพอากาศเป็นหลัก เพราะเรือยังเป็นเรือใหม่มีมาตรฐานการให้บริการพอสมควรแต่จริง ๆ แล้วไม่ควรออกมาให้บริการในช่วงนี้ ถ้าเป็นเรือใหญ่ก็ว่าไปแต่นี่เป็นเรือหางยาว ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจาก อ.หาดใหญ่ ติดต่อบริษัทมาเอง อาจเป็นบริษัทเล็ก ๆ ย่อยๆ ไม่ใช่บริษัทใหญ่ที่มีความพร้อม แต่นี่ก็เพียงพอแล้วมีคนเรือ 2-3 คน และบรรทุกไม่เกินมาตรฐานด้วย แต่คงเป็นจากสภาพดินฟ้าอากาศที่ควบคุมไม่ได้  อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง และเจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง เพื่อตรวจสอบความพร้อมของเรืออีกครั้ง และจะเชิญคนขับและบุคลที่เกี่ยวข้องไปสอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป” . 








อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :