ภูเก็ต - สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ตจับมือ ททท.จัดมหกรรมการท่องเที่ยว “ภูเก็ต...เด็ดทั้งเกาะ” ผนึกกำลังผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ตออกบูธจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ คนสนใจคุกคัก
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานมหกรรมการท่องเที่ยว “ภูเก็ต...เด็ดทั้งเกาะ” ที่ลานพารากอนพาร์ค ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 30 ก.ค.-2 ส.ค.2563 เพื่อส่งเสริม สนับสนุนและฟื้นฟูการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ตอบรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศของภาครัฐ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ตที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีพื้นที่ประชาสัมพันธ์และจำหน่ายสินค้าบริการให้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายโดยตรงในราคาพิเศษ หวังกระตุ้นการใช้จ่ายในสถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัดภูเก็ตในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ รวมถึงเผยยุทธศาสตร์ฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชิงรุกแบบเร่งด่วนภายใต้ “ภูเก็ตโมเดล...ทางรอดท่องเที่ยวไทย” เพื่อเป็นโมเดลนำร่องให้กับการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคได้นำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ท่องเที่ยวต่อไป ทั้งนี้คาดว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้น-จูงใจให้ผู้บริโภคคนไทยและชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทยตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ปรากฏว่าได้รับความสนใจผู้เข้าชมงานคึกคัก
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า สถานการณ์แพร่การระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ตได้ยุติลงแล้ว จังหวัดสามารถควบคุมการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้มีการคลายล็อกดาวน์ และอนุมัติให้เปิดบริการท่าอากาศยานภูเก็ตสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ ตั้งแต่เมื่อกลางเดือน มิ.ย.ที่มาผ่านมานั้น เป็นปัจจัยบวกให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในจังหวัดเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว มีสายการบินภายในประเทศ 5 สายการบิน มีจำนวนเที่ยวบินวันละ 12 เที่ยวบินจากกรุงเทพมหานคร เกาะสมุย เชียงราย และอู่ตะเภา คาดว่าจะเริ่มบินจากพื้นที่อื่นๆ เช่น อุดรธานี เชียงใหม่ในอีกไม่นาน
“สภาพเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตที่ผ่านมาได้รับการขับเคลื่อนจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 14.4 ล้านคนในปี 2562 แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน และนักท่องเที่ยวชาวไทย 4 ล้านคน มีรายได้รวมจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรวม 480,000 ล้านบาท สถานการณ์โควิด 19 จึงส่งผลให้เกิดการชะงักงันของสภาพเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตอย่างมาก ซึ่งสมาคมได้พยายามร่วมกับองค์กรเอกชนต่างๆ และหน่วยงานของภาครัฐที่จะเร่งหามาตรการในการช่วยเหลือ และเยียวยาผู้ประกอบการที่มีอยู่กว่าหลายพันรายในจังหวัดภูเก็ต แม้จะไม่สามารถชดเชยรายได้ที่หายไปจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่อย่างน้อยจะทำให้ผู้ประกอบการอยู่รอดจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวการณ์ปกติ ซึ่งคาดว่าเร็วที่สุด คือ กลางปี 2564” นายภูมิกิตติ์ กล่าว
นายภูมิกิตติ์ กล่าวอีกว่า มหกรรมการท่องเที่ยวภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ จึงเป็นหนึ่งในหลายกลยุทธ์ที่ทางสมาคมร่วมกับทุกภาคส่วนในการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตให้สามาถนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวตรงสู่กลุ่มลูกค้า รวมถึงการสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆตอบสนองต่อกลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลายภายใต้คอนเซ็ปต์”เจ็ดทีเด็ด...Phuket Only” โดยแต่ละทีเด็ดนั้นจะมีกิจกรรมปลีกย่อยรองรับและเขื่อมโยงกัน เพื่อให้เกิดประสบการณ์ใหม่แก่กลุ่มเป้าหมายในการเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งทางสมาคมจะเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ตามตารางกิจกรรมจากเดือนสิงหาคมจนถึง ธ.ค.2563 ทั้งนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตได้ให้ความสำคัญกับมาตรฐานการให้บริการตามมาตรฐานใหม่ที่ท่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการร่วมกันปรับกระบวนการให้บริการตามมาตรฐาน SHA โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตได้รับตราสัญลักษณ์ไปแล้วกว่า 350 ราย”
ด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ภูเก็ต กล่าวถึง วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวประเทศไทยและสร้างความเสียหายเชิงเศรษฐกิจให้ประเทศอย่างมาก โดย เฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตที่มีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว และพึ่งพาจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นหลัก ได้มีการประมาณการณ์จากภาคเอกชนว่าในไตรมาสที่ 1 และ 2 นั้น ทางธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตสูญเสียรายได้ไม่น้อยกว่า 160,000 ล้านบาท และหากยังไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งได้ ตัวเลขความสูญเสียทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นสูงขึ้นไป และส่งผลให้เกิดปัญหาเรื่องภาวการณ์จ้างงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางจังหวัด และองค์กรเอกชนเห็นตรงกันถึงความเร่งด่วนความสำคัญในการฟื้นฟู และกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ จึงได้สร้างสรรค์กลยุทธ์ที่เน้นกระตุ้นการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตในครึ่งปีหลัง และได้มอบหมายให้สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์แผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวระยะสั้นร่วมกับองค์กรเอกชน และผู้ประกอบการ แผนแรกที่ได้ลงมือทำโดยทันที ภายใต้การสนับสนุนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คือ มหกรรมท่องเที่ยว “ภูเก็ต...เด็ดทั้งเกาะ”
พร้อมกันนี้ ผวจ.ภูเก็จ เปิดเผยอีกว่า ยังมีกิจกรรมที่ได้ร้อยเรียงไว้หลังจากงานมหกรรมการท่องเที่ยว “ภูเก็ต...เด็ดทั้งเกาะ” เป็นกิจกรรมด้านอาหาร โดยจังหวัดภูเก็ตร่วมมือกับพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต ได้สร้างสรรค์งาน Phuket Tastival Seafood & Gastronomy : หรอยริมเล เฟสติวัล ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 15-17 ส.ค. 2563 และมีกิจกรรมทุกสุดสัปดาห์ในพื้นที่แต่ละชายหาดในจังหวัดภูเก็ตได้แก่ สะพานหิน ราไวย์ ป่าตอง อ่าวฉลอง เมืองเก่าภูเก็ต และเชิงทะเล เป็นการตอกย้ำความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารภูเก็ตที่ได้รับการยกย่องจาก Unesco ให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร เป็นการเชื่อมโยงอาหาร วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน
นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมการแสดงดนตรี “เพลินริมเล” ที่จะเป็นการแสดงดนตรีกลางแจ้งริมทะเลแบบ New Normal โดยมีศิลปินเฉลียงสามฝ่าย และศิลปินชาวภูเก็ตที่มีชื่อเสียงเช่น แก้ม เดอะสตาร์, นนท์เดอะวอยซ์ ในวันที่ 12 ก.ย. 2563 บริเวณปลายแหลมสะพานหิน จากความพยายามของภาคราชการ ในการทำงานร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่น และภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ต จะทำให้เกิดกิจกรรมมากมายที่จะกระตุ้นการเดินทางของพี่น้องชาวไทย รวมถึงพี่น้อง อสม.ที่สามารถใช้สิทธิประโยชน์จากโครงการกำลังใจที่ทางรัฐบาลจัดสรรให้ และจะช่วยให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตได้มีโอกาสรับใช้ดูแลพี่น้องคนไทยด้วยกันบนมาตรฐานการบริการที่ดี พร้อมจะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ทุกท่านที่มาเยือน.