ก.เกษตร หนุนส่งออกสินค้าเกษตร-ปศุสัตว์
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 8 ต.ค. 2563, 17:27 น. อ่าน : 1,456 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวที่งานเปิดตัว หมูชีวา แบรนด์ ยูฟาร์ม
ว่า กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายนำภาคเกษตรสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
ถ้านำเกษตรกรไปสู่จุดนั้นได้ ประเทศจะเข้มแข็ง ทั้งสังคมและเศรษฐกิจ
ตัดปัญหารายได้น้อยของคนส่วนใหญ่ของประเทศได้ทันที
ในสถานการณ์โควิด
ชัดเจนว่าโลกต้องการอาหารปลอดภัย
และกว่าธุรกิจแต่ละประเทศจะฟื้นตัวต้องใช้เวลานานมาก ขณะที่กำลังฟื้นตัวและมนุษย์ทุกคนกำลังแก้ปัญหา
และต้องบริโภคไปพร้อมๆ กัน ไทยต้องพลิกวิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสให้ได้
และภาคเกษตรมีความสำคัญมากในการพลิกฟื้นประเทศของเรา ใครฟื้นเร็วกว่าคือได้เปรียบ
เป็นโอกาสของธุรกิจและของประเทศ
กระทรวงเกษตร พร้อมเดินไปกับทุกท่าน
เพื่อสร้างรากฐานให้สังคมไทย ถ้าเกษตรกรเข้มแข็ง ชาติเข้มแข็ง เศรษฐกิจเข้มแข็ง
และไทยจะเป็นผู้นำจากการผลิตสินค้าที่ดีมีคุณภาพ เมื่อผลิตได้แล้ว
และทำการเผื่อแผ่ไปสู่เกษตรกร ก็จะสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศ
ความมั่นคงทางอาหารเป็นนโยบายของรัฐบาล
และกระทรวงเกษตรฯ โดยจะร่วมมือกับเอกชนในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ออกมา
ไม่เพียงรองรับความต้องการของผู้บริโภค แต่เพื่อผลักดันการส่งออกด้วย
โดยผลิตภัณฑ์หมูชีวา เป็นสินค้าที่มีความสำคัญที่สามารถทำรายได้ให้ประเทศ
เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย
เชื่อว่าไทยจะต้องติดอันดับผู้ส่งออกอาหารของโลก จากอันดับ 12 เป็น Top
Ten ได้ในปีหน้า
ด้าน น.สพ.สรวิศ ธานีโต
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า กรมฯ
มีหน้าที่ในการกำกับดูแลเรื่องสุขภาพสัตว์ให้ปลอดโรค
การส่งเสริมการผลิตของเกษตรกรรายย่อย
และการผลิตอาหารปลอดภัยซึ่งเป็นเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค ที่กรมฯ ให้ความสำคัญมากขณะนี้
สำหรับหมูชีวา
เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต
และเป็นผลิตภัณฑ์ที่คัดเลือกทุกองค์ประกอบเป็นอย่างดี
เพื่อสุขภาพและเป็นการเลี้ยงตามหลักสวัสดิภาพสัตว์
ทั้งยังได้รับเครื่องหมายรับรองคุณภาพ 'ปศุสัตว์ OK'
นั่นหมายความว่า เป็นเนื้อหมูที่มาจากสัตว์ที่เลี้ยงในฟาร์มมาตรฐาน GAP
แปรรูปจากโรงงานแปรรูปที่ได้รับใบอนุญาตและคุณภาพจากกรมฯ
สถานที่จำหน่ายถูกสุขลักษณะและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งมั่นผลักดันมูลค่าการส่งออกปศุสัตว์ไทยสู่เป้าหมาย 2 แสนล้านบาท ในปี 2563 ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคปศุสัตว์ 5.6% ในปีนี้ จากการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์.