เดินหน้าก่อนใครประธานหอการค้าภูเก็ตรุกคืบ วอนรัฐเร่งฟื้นฟูภูเก็ตเต็มรูปแบบ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระบบของจังหวัด หลังจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ต้องเร่งเตรียมแผนฟื้นฟูได้แล้ว เสนอแนวคิดพลิกรูปแบบจังหวัดควรมีเขตเศรษฐกิจพิเศษ รองรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากท่ัวโลกเหมือนแบบสิงคโปร์และฮ่องกง ไม่ใช่หวังรายได้จากการท่องเที่ยวด้านเดียวแบบเดิม
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่จังหวัดภูเก็ตกำลังประสบปัญหาอยู่ เรื่องหลักตอนนี้คือ ภูเก็ตไม่มีรายได้ ประสบวิกฤติที่หนักที่สุดเท่าที่เคยมีมายิ่งกว่าสึนามิ อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกแล้วว่า เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนเดือดร้อนกันทั่วหน้า สาระสำคัญที่สุดของภูเก็ตในวันนี้คือ คนว่างงาน คนที่ตกงาน คนที่ไม่มีงานทำ คนที่ประสบปัญหาโดยไม่คาดฝัน บางคนก็กลับไปอยู่บ้านแล้ว ซึ่งกลับไปเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตัวเอง ต่อไป แต่จากนี้ไปอีกประมาณ 6 เดือนเป็นอย่างน้อยธุรกิจท่องเที่ยวก็ยังไม่เต็มรูปแบบ ถ้าจะให้เกิดขึ้นก็คงเพียงแค่ 20 หรือ 30% และมีคนว่างงานอีกจำนวนหนึ่ง ตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าภาคเอกชนจะรับมือโดยการเยียวยาจากภาครัฐได้แค่ไหน และเราก็ยังไม่รู้ว่าพวกเขาสามารถดูแลคนของตัวเองได้ดีแค่ไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือทำอย่างไรให้พวกเขาพอมีงานทำ
“ผมอยากให้รัฐมนตรีคณะนี้ประกาศให้มีการลงรายชื่อผู้ว่างงาน ตรวจสอบระดับชุมชน ระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล ระดับอำเภอ และก็ระดับจังหวัดให้คัดเลือกความสามารถเฉพาะ ให้ลงบันทึกกันมา ภาคเอกชนจะหาวิธีแมตช์ชิ่งเพื่อจะรับมือให้พวกเขามีงานทำเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยภูเก็ตน่าจะโดนหนักที่สุด หนักกว่า 77 จังหวัด หนักกว่าทั่วประเทศไทยภูเก็ตเรามีเครื่องยนต์เดียวมาโดยตลอดคือเครื่องยนต์ของภาคท่องเที่ยว แล้วเราก็ไม่มีคนมาท่องเที่ยวทุกอย่างเป็นศูนย์ ผมคิดว่ามันมีคนว่างงานทั่วประเทศแต่ว่าคนว่างงานในจังหวัดภูเก็ตน่าจะสูงสุด” นายธนูศักดิ์ กล่าว
ด้วยเหตุนี้จังหวัดภูเก็ตขอให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาลตำบล รวมไปถึงประกาศของสำนักนายกฯให้ออกมาตรการเก็บข้อมูลของคนว่างงานมาให้โดยเร็ว และเปิดการประชุมเพื่อที่จะทำให้เกิดการช่วยเหลือเป็นเรื่องแรกที่สำคัญ อาจจะดีกว่าที่แจกอย่างเดียว ดีกว่าที่มีถุงยังชีพและอาหารให้กิน แต่การได้งานอาจจะทำให้เข้มแข็งกว่าในช่วงที่มีปัญหาในโอกาสนี้และเวลานี้
นายธนูศักดิ์ กล่าวอีกว่า เรื่องที่สองคือ สำหรับภูเก็ตต้องเร่งมือในการบริหารการจัดการท่องเที่ยวเชิงรุกที่จะรับมือกับปัญหาของโควิด-19 และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย และทำให้เชื่อถือได้ว่าคนภูเก็ตไม่ได้ติดเชื้อหรือเป็นผู้ป่วยของประเทศไทยเช่นเดียวกัน ต้องเตรียมพร้อมในการรับมือกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังมีนักลง ทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในภูเก็ต และชะลอการเข้ามา รวมถึงนักท่องเที่ยวที่อยากจะเข้ามาซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหลังเดือนมิถุนายนไปแล้ว ถ้าภูเก็ตประกาศความเชื่อมั่นความมั่นใจและทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกัน ให้ความเชื่อมั่นว่าคุณมาแล้วคุณมีความปลอดภัย รวมไปถึงการทำข้อมูลร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน ถ้าความน่าเชื่อถือของภูเก็ตเกิดขึ้น คิดว่าน่าจะมีรายได้จากชาวไทยช่วงนี้และจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ใกล้เคียทยอยกลับเข้ามาซึ่งจะช่วยรักษาความสมดุลของรายได้อย่างน้อย 20 หรือ 30 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ที่พอจะเป็นไปได้
ส่วนเรื่องที่สามในฐานะที่เป็นประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ขอเรียกร้องเป็นกรณีพิเศษ และภาคเอกชนได้เห็นด้วยเป็นส่วนใหญ่ ภูเก็ตควรจะมีเขตเศรษฐกิจพิเศษ ภูเก็ตไม่ควรจะมีเครื่องยนต์เดียวในการมีรายได้แค่เฉพาะเรื่องท่องเที่ยวเท่านั้น ภูเก็ตมีโอกาสที่จะทำรายได้จากสถานที่ต่างๆ หรือเป็นที่แวะพักหรือเป็นสถานที่ที่เอกชนระดับโลกมาร่วมทำงานได้เหมือนสิงคโปร์ ฮ่องกง ควรจะต้องมีการวางแผนในเรื่องของผังเมือง จะต้องมีการคิดว่าภูเก็ตจะไปในทิศทางไหน ในเมื่อมีทุกอย่างพร้อมและครบถ้วน ดังนั้นในภูมิภาคของอันดามันตอนบนจะเข้มแข็งขึ้นหลายๆ
“เรื่องนี้อยากจะฝากทางผู้มีอำนาจทุกๆท่านว่า ต้องเริ่มตั้งองค์กรในการประชุมและหาข้อสรุปในเชิงรุก การรับมือเป็นเรื่องของการแก้ปัญหาซึ่งมันจะผ่านไป แต่ความอดอยากกำลังจะตามมา ทำอย่างไรเราถึงจะมีแนวคิดที่เปลี่ยนแปลงภูเก็ตไปในทิศทางที่ไม่เหมือนเดิม และดีกว่าเดิมการท่องเที่ยวควรจะเป็นพรีเมี่ยม ผลประโยชน์ของจังหวัดภูเก็ตจะต้องถูกคิดในภาพของการบริหารจัดการที่เป็นเศรษฐกิจพิเศษถึงจะสามารถจัดการเมืองนี้ได้ เพราะเมืองนี้ไม่ได้เป็นแค่จังหวัด มันมีความซับซ้อนในการบริหารจัดการ มีพื้นที่ในการจัดการที่ยุ่งยาก มีคนหลากหลายชาติที่เข้ามาจัดการ ในรูปแบบของเศรษฐกิจพิเศษจะแก้ปัญหาของจังหวัดภูเก็ต ทำให้ภูเก็ตยั่งยืนและสามารถเติบโตไปเป็นเมืองระดับโลกและสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยต่อไป” นายธนูศักดิ์