มทร.ศรีวิชัย ขนอม ร่วมกับ กศน.ขนอม ผลักดันอาชีพชุมชน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ
หมวดหมู่ : นครศรีธรรมราช, ทั่วไป, การศึกษา,
โฟสเมื่อ : 23 มี.ค. 2565, 18:08 น. อ่าน : 812 นครศรีธรรมราช -
มทร.ศรีวิชัย ขนอม ร่วมกับ กศน.ขนอม ผลักดันอาชีพชุมชน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ
ถ่ายทอดการทำยาหม่องไพล
โดยได้จัดบรรยายและถ่ายทอดความรู้เชิงปฏิบัติให้กับชุมชนตำบลควนทอง ณ ศาลาหมู่บ้าน
หมู่ที่ 4
บ้านเจดีย์หลวง ตำบลควนทอง อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันที่
21-22 มีนาคม 2565
ดร.สุพร ฤทธิภักดี
หัวหน้าสาขาวิศวกรรม วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช พื้นที่ขนอม ได้รับเกียรติเชิญเป็นวิทยากร
จาก นางสาวอภิรมย์ มนัส
ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอขนอม (กศน. อำเภอขนอม)
ในการบรรยายและถ่ายทอดความรู้เชิงปฏิบัติ เรื่อง การทำยาหม่องไพล
ให้กับชุมชนตำบลควนทอง ณ ศาลาหมู่บ้าน หมู่ที่ 4
บ้านเจดีย์หลวง ตำบลควนทอง อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 21-22 มีนาคม 2565
นางสาวอภิรมย์ มนัส
ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอขนอม กล่าวว่า สำหรับหลักสูตร เรื่อง การทำยาหม่องไพล
จัดขึ้นภายใต้โครงการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ (กลุ่มสนใจไม่เกิน 30 ชั่วโมง) หรือ จำนวน 6 ชั่วโมง
ให้กับประชาชนตำบลควนทอง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่ไม่มีอาชีพ หรือที่มีอาชีพต้องการพัฒนาอาชีพของตนเองให้มั่นคง
เกิดความรู้ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ
ส่งเสรมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน
และการประกอบอาชีพเสริมต่อไปในชุมชนตำบลควนทอง อำเภอขนอม
ด้าน ดร.สุพร
ฤทธิภักดี หัวหน้าสาขาวิศวกรรม วิทยากรในการถ่ายทอดความรู้ กล่าวว่า
ไม่ว่าจะในสมัยอดีตหรือปัจจุบัน
สมุนไพรยังคงมีคุณค่าและมีคุณประโยชน์ทางยาที่สามารถช่วยรักษาอาการต่างๆได้ดี
ดังนั้น เช่นเดียวกันกับ ยาหม่องไพล ทำขึ้นโดยมีส่วนผสมหลัก คือ สมุนไพรไพล หรือ
หัวไพล ด้วยการสกัดน้ำมันไพลที่ได้จากการทอด (hot oil extract) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90
ซึ่งเป็นสูตรเภสัชตำรับของโรงพยาบาล บรรเทาอาการ ปวดเมื่อย บวม ฟกช้ำ เคล็ดยอก
การอักเสบของเอ็น กล้ามเนื้อและข้อต่อ
การสกัดด้วยวิธีการทอด
น้ำมันไพลสูตรนี้เตรียมได้จากการนำไพลสดมาทอดกับน้ำมันพืช ชนิดอิ่มตัว ได้แก่
น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันปาล์ม ไม่ควรใช้น้ำมันพืชชนิดไม่อิ่มตัว
เพราะว่าจะไม่ทนต่อความร้อนและทำให้พันธะคู่ในโมเลกุลเกิดการแตก
และรวมตัวเป็นสาร“โพลีเมอร์”เกิดขึ้น
ทำให้เกิดความหนืดนอกจากนี้จะทำให้เกิดควันได้ง่าย และน้ำมันเหม็นหืน น้ำมันพืชก็สามารถจะสกัดน้ำมันหอมระเหยซึ่งประกอบด้วยสารประกอบที่มีขั้วน้อยและโมเลกุลเล็กได้
พร้อมทั้งสกัดสารประกอบที่มีขั้วน้อยแต่มีโมเลกุลใหญ่ได้ด้วย
ซึ่งในไพลนอกจากประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยแล้ว ยังประกอบสารกลุ่ม arylbutanoids,
curcuminoids, และ cyclohexene derivatives เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่กว่าสารในน้ำมันหอมระเหยและเป็นสารที่ไม่ระเหย
อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้กับแผลเปิด โรคผิวหนังที่มีน้ำเหลือง และไม่ควรใช้ในผู้ที่แพ้ไพลหรือส่วนประกอบในตำรับ การที่ยาโดนแสงแดด สีเหลืองของยาอาจจางลง แต่ไม่มีผลต่อสาระสำคัญในการออกฤทธิ์ของยา การใช้น้ำมันไพล อาจเกิดการชาบริเวณที่มีการใช้ยา เนื่องจากการออกฤทธิ์ชาเฉพาะที่ของไพล ไม่ก่อให้เกิดอันตราย
สนใจการบริการวิชาการ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณดวงพร ง่วนสน แผนกงานประชาสัมพันธ์ 082-6986346.