ไล่โพงพางทะเลสาบสงขลาจี้ให้ชัดเจน-ต้องทำโดยเร็ว กม.ไม่มีเยียวยา

หมวดหมู่ : สงขลา,

อ่าน : 301
ไล่โพงพางทะเลสาบสงขลาจี้ให้ชัดเจน-ต้องทำโดยเร็ว กม.ไม่มีเยียวยา
ไล่โพงพางทะเลสาบสงขลาจี้ให้ชัดเจน-ต้องทำโดยเร็ว กม.ไม่มีเยียวยา

สงขลา-ชาวสงขลาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐ จัดการกับปัญหาโพงพางในทะเลสาบสงขลา ให้เป็นรูปธรรมและชัดเจนเสียที  หากไม่ถูกต้องก็ต้องมีมาตรการจัดการไล่ไปให้หมดโดยเร็ว ไม่ควรละเว้นการปฏิบัติติหน้าที่ ปล่อยให้เป็นปัญหามาจนถึงทุกวันนี้ ขณะที่มีบางส่วนเห็นใจเจ้าของโพงพางอยากให้มีการเยียวยาบ้าง แม้ยังไม่มีกฎหมายรองรับให้ทำได้

กรณีชาวประมงบ้านหัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา ประท้วงปิดท่าแพขนานยนต์ข้ามฝั่งทะเลสงขลา เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2567 เพื่อเรียกร้องต่อปัญหาโพงพางในทะเลสาบสงขลา โดยยื่นเสนอต่อจังหวัด 4 ข้อ ได้แก่ 1. เรียกร้องขอให้คืนอาชีพประมงโพงพางกลับมาเหมือนเดิม ให้ชาวบ้านได้ทำมาหากินได้ตามปกติ 2. ขอให้มีการกำหนดเขตร่องน้ำเดินเรือให้ชัดเจน 3. ขอให้ตำรวจน้ำ และประมงจังหวัดมีมาตรการผ่อนปรนในการบังคับใช้กฎหมายกับชาวประมงและ 4. หากจำเป็นต้องมีการรื้อถอนโพงพาง รัฐต้องมีมาตรการเยียวยาที่สมเหตุสมผล ต่อมาวันที่ 27 พ.ค. ยอมสลายตัวและส่วนตัวแทนได้ส่งตัวแทนเข้าหารือกับทางจังหวัด โดยนายสมนึก พรหมเขียว ผวจ.สงขลา ชี้แจงว่าต้องปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ประมง เรื่องรื้อถอน และการเยียวยาก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ และได้ตั้งคณะทำงานรวบรวมข้อมูล นำเสนอต่อ คณะรัฐมนตรี ขอมติให้ทะเลสาบสงขลาเป็นพื้นที่ทำการประมงพิเศษ เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายธำรงค์ เจริญกุล อดีต ผวจ.สงขลา ที่เคยแก้ปัญหาโพงพางในทะเลสาบสงขลามาแล้ว เมื่อปี 2558 เปิดเผยว่า การรื้อถอนโพงพางในรัศมี 300 เมตร สมัยตนรื้อถอนเฉพาะบางแถว เพื่อเปิดร่องน้ำให้เป็นแนวตรง ให้เรือวิ่งสวนไปมาได้สะดวกไม่อันตราย มิได้รื้อถอนโพงพางหมดทุกช่องในรัศมี 300 เมตร แต่อย่างใด สรุปคือรื้อถอนที่กีดขวางการเดินเรือเท่านั้นจำนวน 30 ช่อง และ 2 ช่องที่กีดขวางแขนานยนต์เข้าออกฝั่งหัวเขาแดง รวมรื้อถอนและจ่ายค่าเยียวยาให้เพียง 32 ช่อง โดยได้รับบริจาคเงินสนับสนุนจากพ่อค้านักธุรกิจ 11 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาส่วนรวม มีหลักฐานการจ่ายเงินและผู้รับเงินลงชื่อเป็นหลักฐานไว้ทุกราย แต่ปัญหาคือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หลังแก้ปัญหาครั้งนั้นแล้วก็ไม่จัดการ กลายเป็นปัญหามาถึงวันนี้

จากปัญหาเรื่องชาวประมงโพงพางออกมาประท้วงปิดท่าแพขนานยนต์ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความเห็นของชาวสงขลา ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบ ละเลยไม่ใส่ใจแก้ปัญหาอย่างเฉียบขาดกับปัญหาโพงพางในทะเลสาบสงขลา เพราะปล่อยให้มีการปักโพงพางเพิ่มขึ้น และกีดขวางการเดินเรือในทะเลสาบสงขลา เนื่องจากมีการปักโพงพางบางจุดสลับฟันปลากัน ทำให้เรือแล่นผ่านไปมาลำบาก และบางครั้งไปชนโพงพางก็ต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าของโพงพาง เนื่องจากไม่อยากไปมีปัญหาด้วย ทั้งๆที่ ประชาชนทั่วไปมองว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่รัฐไม่จัดการอย่างเด็ดขาด

ขณะเดียวกันมีประชาชนที่เห็นใจเจ้าของโพงพางที่ลงทุนสร้างโพงพาง เนื่องจากคงเห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่จัดการกับโพงพางที่มีอยู่ก่อน เหมือนปล่อยให้สร้างกันได้ จึงสร้างกันเสียเงินจำนวนไม่น้อย จึงควรจะมีการหาทางเยียวยาให้เจ้าของโพงพางบ้าง เป็นการชดเชยความเสียหายจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ แต่เอาเข้าจริงๆไม่มีกฎหมายรองรับที่จะเยียวยาได้ คงต้องทำอย่าง นายธำรงค์ เจริญกุล อดีต ผวจ.สงขลา ที่ใช้หลักรัฐศาสตร์เข้ามาแก้ไขปัญหา บอกกล่าวนักธุรกิจจนเข้าใจและเห็นใจชาวประมงโพงพาง บริจาคสนับสนุนให้จ่ายค่าเยียวยาแก่เจ้าของโพงพาง ซึ่งปัจจุบันอาจจะทำไม่ได้เหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากมีโพงพางถึง 158 ช่อง ต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน คงหาผู้สนับสนุนบริจาคเงินได้ยาก

นอกจากนี้มีประชาชนที่อาศัยแพขนานยนต์ข้ามฝั่งไปมา กล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่รัฐ จัดการกับปัญหาโพงพางให้เป็นรูปธรรมและชัดเจน  การปล่อยให้มีอยู่อย่างนี้ทำให้คนทั่วไปมองว่า โพงพางสร้างได้ถูกกฎหมาย ทั้งๆที่มีการสร้างสลับฟันปลากันไปมาบางช่วง ทำให้เรือแล่นผ่านในทะเลสาบสงขลาลำบาก และบางครั้งไปชนโพงพางเสียหาย ก็ต้องถูกเรียกร้องเงินค่าเสียหาย จึงถูกมองว่าเป็นการสร้างโพงพางเพื่อเรียกร้องประโยชน์จากการที่มีเรือมาเฉี่ยวชน และฝากให้หน่วยงานของจังหวัดจัดการให้ชัดเจนเสียที  หากไม่ถูกต้องก็ต้องไล่ไปให้หมดโดยเร็ว ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.


อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :