ผกก.ตรังเต้น!สั่งร้อยเวรไปดูแลคดีสาวโวยถูกหนุ่มคลั่งข่มขู่คุกคาม

ตรัง-ผกก.เมืองตรัง เต้น! ชี้แจงยังไม่ได้รับรายงาน หลังสาวผวาหมดที่พึ่ง ออกมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ โดนหนุ่มคลั่งใช้มีดดาบบุกฟันหมา-ขู่ฆ่ายกครัว แจ้งตำรวจไม่สนใจทำคดี สั่งการร้อยเวรทำคดีทันที ขณะที่ผู้เสียหายกล่าวขอบคุณนักข่าว ที่ทำให้เสียงเรียกร้องดังถึงหูผู้ใหญ่ในบ้านเมือง

สืบเนื่องจากกรณี น.ส.ปุณยาพร แซ่โค้ว หรือเจี๊ยบ อายุ 38 ปี เข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง เพื่อขอความเป็นธรรมสืบเนื่องจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ปฎิเสธไม่รับแจ้งความ ปัดความรับผิดชอบ ปฎิเสธที่จะช่วยเหลือ หลังจากที่ นาย ป. อายุประมาณ 30-35 ปี เพื่อนบ้านในชุมชนเดียวกัน ก่อเหตุใช้อาวุธมีดดาบเล่มยาว ฟันสุนัขสายพันธุ์อัลเซเชียน เพศผู้ อายุ 10 ปี จนบาดเจ็บเย็บกว่า 10 เข็ม และพยายามที่จะทำร้ายครอบครัวทั้ง 4 ชีวิต รวมทั้งมีการข่มขู่ที่จะฆ่ายกครอบครัว มาเกือบเดือนตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.64 ที่ผ่านมา จนทำให้ครอบครัวต่างหวาดผวา และไร้ที่พึ่ง  

ข่าวคืบหน้าเรื่องนี้ ล่าสุดเช้าวันนี้ 27 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 100/32 หมู่ 6 ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พร้อมทั้งพูดคุยกับ น.ส.ปุณยาพร แซ่โค้ว หรือเจี๊ยบ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังจากที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวออกไปทาง ร.ต.อ.มังกร ชัยเพชร รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง เจ้าของคดี โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหา ให้ไปพบที่ สภ.เมืองตรังในวันพรุ่งนี้ (28 ก.ค.64) แต่ยังไม่ได้บอกว่าไปทำอะไร คิดว่าหลังจากที่พี่ๆสื่อมวลชนช่วยกระจายข่าว เสียงของเราคงจะดังพอ ทางตำรวจน่าจะมีการดำเนินการให้ ยังคงมั่นใจในเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าคงจะมีการกระเตื้องขึ้น เพราะสังคมช่วยกันบอกแล้วว่า อย่างไรผู้ก่อเหตุก็ต้องมีความผิด แล้วยิ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รู้กฎหมายอยู่แล้ว คงน่าจะทำอะไรให้เราได้ 

“ส่วนตัวคิดว่าหากเรื่องราวดังกล่าวไม่ปรากฏเป็นข่าวเรื่องก็คงจะเงียบลง เพราะว่าเสียงของตนมันคงไม่ดังพอ มันไปไม่ถึง รวมทั้งอยู่ในช่วงโควิด-19 ด้วย จะไปไหนมาไหนก็ไม่สะดวก แต่พอมีผู้สื่อข่าวเข้ามาช่วย ทำให้เสียงกระจายดังขึ้น เลยทำให้ท่านผู้ใหญ่ได้รับรู้ เพราะคำสั่งอยู่ที่ท่าน คิดว่าท่านคงจะช่วยจัดการให้ได้ คิดว่าถ้าตำรวจยื่นมือเข้ามาช่วย ให้ผู้ก่อเหตุรู้ว่าบ้านเมืองมีกฎหมาย ที่พร้อมจะจัดการกับคนที่ทำผิด ก็คิดว่าผู้ก่อเหตุคงจะหยุดพฤติกรรมแบบนี้ได้ เหตุการณ์ที่เป็นข่าวออกไปไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก่อนหน้านั้นคือเรื่องเงียบ ผู้ก่อเหตุก็เลยได้ใจ และมากระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะเรารอมานานมาก แต่อาจจะไม่นานสำหรับบางคน เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่สำหรับคนที่ต้องเจอทุกวัน กังวลทุกวัน เรารู้สึกว่านานทุกนาที ความรู้สึกในขณะนี้อุ่นใจ ถึงแม้ทางตำรวจจะไม่ดำเนินการ แต่หากเราเกิดเป็นอะไรขึ้น สังคมก็ยังรู้ว่าจะต้องไปจับคนร้ายที่ไหน เหตุเกิดจากอะไร” น.ส.ปุณยาพรกล่าว

ด้านนายวรินทร พรพิทยกุล หรือพี่บี อายุ 45 ปี สามี กล่าวว่า ตนคือคนที่ปรากฏอยู่ในคลิปที่มีการพยายามห้ามปรามผู้ก่อเหตุ จนถึงทุกวันนี้ผู้ก่อเหตุยังใช้ชีวิตปกติ ขับรถผ่านก็ตะโกนด่าเหมือนเดิม ตนมองถึงความปลอดภัยของที่บ้าน มองว่ารั้วบ้านไม่ได้สูงเขาสามารถมาตอนไหนก็ได้ มีแม่ยายที่ป่วยติดเตียง ถ้าเขาเอาพวกมาหลายคนเข้ามาก็ทำไรไม่ได้ตนก็กลัว หลังจากที่มีการเสนอข่าวไปแล้วตนรู้สึกอุ่นใจขึ้น มีการตอบโต้ของทางตำรวจเข้ามาบ้าง 

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก. สภ.เมืองตรัง กล่าวชี้แจงว่า เหตุการณ์นี้ตนเพิ่งจะทราบเรื่องจากสื่อมวลชน ยังไม่ได้รับรายงาน หลังจากทราบเรื่อง ได้สั่งการพร้อมกำชับ ร.ต.อ.มังกร ชัยเพชร รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ให้ดำเนินการทำคดีอย่างเร่งด่วนในทันที เรื่องนี้ตนจะไม่ยอมแน่นอน และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ขอให้ผู้เสียหายมั่นใจในทางตำรวจ และขณะเดียวกันได้เรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องและสั่งการให้ตำรวจสายตรวจ ต.โคกหล่อ เข้าไปสอดส่องดูแลแล้ว และจะดำเนินการเรียกผู้ก่อเหตุและเจ้าทุกข์เข้ามาให้ปากคำในวันพรุ่งนี้ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ ร.ต.ท.ฉกรรณ์ ลุ้งกี่ รอง สวป. พร้อม อส.ตร.ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ฝ่ายปกครองสายตรวจตำบลโคกหล่อ เดินทางไปยังหมู่บัาน พบ นางปุณยาพร และครอบครัว เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและสืบหาข้อเท็จจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น.