“พรรคสร้างอนาคตไทย”เปิดตัว “นิพิฏฐ์”ขุนพลภาคใต้-“ดร.พลกฤษณ์”ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส

หมวดหมู่ : การเมือง, พัทลุง,

อ่าน : 621
พรรคสร้างอนาคตไทย ผู้ช่วยอธิการบดี ม.ทักษิณ
“พรรคสร้างอนาคตไทย”เปิดตัว “นิพิฏฐ์”ขุนพลภาคใต้-“ดร.พลกฤษณ์”ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส

พัทลุง- “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” แกนนำพรรคสร้างอนาคตไทยล่องใต้เปิดตัว “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ”เป็นขุนพลภาคใต้ของพรรค พร้อมเปิดตัว “ดร.พลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร” ผู้ช่วยอธิการบดี ม.ทักษิณ ว่าที่ผู้สมัครของพรรคคนแรกของภาคใต้

      

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์  แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ได้เปิดตัวขุนพลภาคใต้และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่ห้องประชุมโรงแรมศิรารอยัล อ.เมืองพัทลุง เมื่อบ่ายวันที่ 5 ก.พ.2565 โดยเปิดตัวนายนิพิฏฐ์  อินทรสมบัติ เป็นขุนพลภาคใต้ของพรรค และเปิดตัว ดร.พลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร ผช.อธิการบดี  ฝ่ายบริการวิชาการและชุมสัมพันธ์พัทลุง  มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง เป็นว่าที่ผู้สมัครของพรรคฯในเขตเลือกตั้งจ.พัทลุง  เขต 2  


      นายสนธิรัตน์กล่าวตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยตกอยู่ในสภาพที่ลำบากจึงต้องมีพรรคการเมืองที่มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจและปากท้องมาบริหารประเทศ  ซึ่งพรรคฯมีทีมเศรษฐกิจที่ดีกว่าทุกพรรค  เราต้องตอกเสาเข็มเพื่อสร้างอาคารของประเทศกันใหม่ สำหรับภาคใต้นั้นเป็นพื้นที่ที่อ่อนไหวที่สุดของประเทศ  เราจะให้ภาคใต้เป็นพื้นที่ทดลองของนักการเมืองไม่ได้แล้ว ไม่อยากเห็นชาวใต้ต้องทิ้งรักเก่า อกหักรักใหม่  พรรคฯ พร้อมแล้วที่จะปักธงในภาคใต้


      ด้านนายนิพิฏฐ์ฯ กล่าวว่า ตนเป็น  ส.ส. มาแล้ว 8 สมัย 28 ปี แต่สมัยที่ 9 ต้องพ่ายแพ้ให้พรรคภูมิใจไทย  แต่ในขณะนี้ จ.พัทลุงเป็นพื้นที่ นอกอนาเขตประชาธิปไตยเพราะไม่มี ส.ส.พัทลุงในสภา เนื่องจากศาลฏีกาฯสั่งให้ ส.ส.หยุดปฏิบัติหน้าที่ถึง 2 รายการที่พรรค ปชป.เป็นฝ่ายค้านที่ยาวนานนั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภาคใต้ล้าหลังในการพัฒนา ก็ต้องฝากไปยังชาวไทยทั่วประเทศว่าหากจะเลือกพรรคการเมืองสำหรับตนเองก็ให้เลือกพรรคที่เลือกมาแล้ว แต่หากจะเลือกพรรคการเมืองเพื่ออนาคตต่อบุตรหลานก็ต้องเลือกพรรคสร้างอนาคตไทย  เนื่องจากมีทีมเศรษฐกิจที่สมบูรณ์แบบดีกว่าพรรคการเมืองทุกพรรคของประเทศไทย พรรคฯจะไม่มีการสืบทอดทายาททางการเมือง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลสำหรับคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาร่วมนั้นทุกคนจะไม่พูดเรื่องการเมือง แต่จะร่วมกันคิดนโยบายที่ทำได้  เพื่อสร้างอนาคตให้กับคนรุ่นใหม่

      

      ส่วนนายสนธิรัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า สภาที่มีอยู่แต่ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ ทำให้ประชาชนและประเทศชาติสูญเสียโอกาส ซึ่งผู้นำประเทศจะต้องพิจารณาโดยใช้ประชาชนเป็นจุดศูนย์กลางมิใช่ทำเพื่อพวกพ้อง  ขณะนี้รัฐบาลคงคิดอยู่แล้วว่าจะยุบหรือไม่ยุบสภา  หากคิดถึงประชาชนจะต้องทำอย่างไรเป็นเรื่องที่ผู้มีอำนาจจะต้องพิจารณา และประเมินว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะคืนอำนาจให้ประชาชน ตนคงพูดมากกว่านี้ไม่ได้  สำหรับในพื้นที่ภาคใต้นั้นมีผู้แจ้งความประสงค์จะเข้ามาร่วมกับพรรคจำนวนมากมาย  และตนก็มั่นใจว่าทางพรรคจะสามารถปักธงในพื้นที่ภาคใต้เอย่างแน่นอน.