“พิธา” เชิดหนังตะลุงอ้อนขอเสียงชาวกระบี่

กระบี่-"พิธา" หัวหน้าพรรคก้าวไกล เชิดหนังตะลุงอ้อนขอเสียงชาวกระบี่ ชูปัญหา 4 เสาเป็นนโยบายพรรค หวังปักธงสีส้มภาคใต้

       เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2566 เวลา 10.00 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.ศิริกัญญาตันสกุล รองหัวหน้าพรรคฯ นำทีมเปิดเวทีปราศรัยที่สวนสาธารณะธารา ในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคทั้ง 3 เขต ที่ จ.กระบี่ ประกอบด้วย นายวศิน สิริเกียรติกุล ว่าที่ผู้สมัครเขต 1 นายสมพร แต่งแก้ว ว่าที่ผู้สมัครเขต 2 นายศุภฤกษ์ มีล่าม ว่าที่ผู้สมัครเขต 3 และนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ชาวกระบี่ และเป็นว่าที่ผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ โดยชาวบ้านนำเอาตัวหนังตะลุง ที่แกะเป็นรูปนายพิธา มามอบให้นายพิธา จึงโชว์ขับหนังตะลุงว่า "กาก้าวไกล ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคตครับพี่น้องชาวกระบี่"

       จากนั้นนายพิธา ให้สัมภาษณ์ว่า ยอมรับว่าภาคใต้เป็นพื้นที่ที่เราอยากปักธง ส.ส.เขตให้ได้ การเลือกตั้งครั้งก่อนเราได้เกือบทุกภาค ยกเว้นภาคใต้ แต่เราก็มี ส.ส.บัญชีรายชื่อภาคใต้หลายคน อยู่ที่กระบี่ 1 คน ที่ทำหน้าที่ให้คนพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีคะแนนเพิ่มขึ้น ประกอบกับไม่ว่าจะเป็นกระบี่ สตูล หรือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียกว่าเป็นจังหวัดวัยรุ่น เป็นจังหวัดที่ผู้มีสิทธิอายุต่ำกว่า 40 ปี มากกว่า 55 เปอร์เซ็นต์ของแต่ละพื้นที่ อย่างกระบี่จากผู้มีสิทธิ 350,000 คน มีประมาณ 1.8-1.9 แสน ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี จึงมั่นใจว่าหากพี่น้องชาวกระบี่ ออกมาใช้สิทธิกันเยอะๆ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เชื่อว่าจะทำให้พรรคฯ น่าจะตอบโจทย์ให้กับคนรุ่นใหม่ได้ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะปักธงสีส้มในพื้นที่ ในส่วนผู้สมัครระบบเขตทั้งประเทศตอนนี้ เรามีแล้ว 380 เขต จาก 400 เขต ที่กระบี่ ก็ส่งครบทั้ง 3 เขตมีทั้งอดีตข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศ คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และมีทนายความที่ต่อสู้ให้กับเกษตรกรปาล์ม ยางพารา มาโดยตลอด จึงถือเป็น 3 คนรุ่นใหม่ที่เข้าใจครบทุกปัญหาของกระบี่ 

       “การลงพื้นที่ภาคใต้ พรรคเห็นปัญหาในพื้นที่ จึงกำหนดเป็นนโยบาย 4 เสา เพื่อแก้ปัญหาภาคใต้ หนึ่งคือเรื่องการท่องเที่ยว อย่างที่นครศรีธรรมราช จะพบว่าการท่องเที่ยวฟื้นกลับมาแค่ 1 ใน 3 จากที่เคยเป็น ของกระบี่ ฟื้นกลับมาแค่ 1 ใน 10 หากดูจากตัวเลขเรื่องการฟื้นฟู ถือว่าหายไปเยอะมาก 2 คือ เรื่องประมง ที่มีปัญหามาจากการใช้อำนาจนิยม และการส่งออกไปยุโรป เรื่องที่ 3 ปัญหาราคาพืชอุตสาหกรรม ยาง ปาล์ม ในเมื่อเศรษฐกิจโลกตอนนี้ชะลอตัวในรอบ 40 ปี ทำให้อัตราการใช้ยาง ปาล์ม ทางอุตสาหกรรมน้อยลง จึงต้องเร่งแก้ให้เกิดการใช้ในประเทศให้มากขึ้น สุดท้ายคือปัญหาด้านสาธารณสุข ที่เห็นได้ชัดเจนในกระบี่ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์-พยาบาล ไม่เพียงพอ แต่ละคนต้องทำงานหนักมาก 1 สัปดาห์ 100 ชม. เรื่องประสิทธิภาพ และสิทธิของบุคลากรเหล่านี้จึงต้องแก้ปัญหา เราแถลงนโยบายไปแล้วว่าจะกระจายหมอยังไง ลดความเหลื่อมล้ำยังไง ลดชั่วโมงการทำงานได้ยังไง” นายพิธากล่าว.