แฉบุกรุกขุดเนินเขาแดงหายไป 1 ลูก- เครือข่ายคนสงขลาเพิ่งตื่น

สงขลา-ผกก.สภ.สิงหนคร เผยกำลังเร่งขยายผลถึงกลุ่มนายทุนผู้บุกรุกหัวเขาแดงและเขาน้อยเพิ่มเติม ชาวบ้านแฉ  กลุ่มบุกรุกใช้เครื่องจักรตัดต้นไม้และนำดินลูกรังไปขาย ทำให้เนินเขาเชื่อมระหว่างเขาแดงและเขาน้อยหายไปหนึ่งลูก ขณะเครือข่ายภาคประชาชนจี้เร่งขยายผลออกหมายจับผู้อยู่เบื้องหลัง ตั้งข้อกังขาหน่วยงานรัฐในพื้นที่ปล่อยปละละเลยมานาน ขณะที่กระแสข่าวบุกรุกหัวเขาแดง ทำให้คนแห่ขึ้นไปเที่ยวมากขึ้น

         ความคืบหน้าคดีบุกรุกขุดเขาบนหัวเขาแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2565 ว่า พ.ต.อ.เสวี สุ่นหนู ผกก.สภ.สิงหนคร  อ.สิงหนคร จ.สงขลา เปิดเผยว่า คดีนี้กำลังเร่งสอบสวนขยายผลถึงกลุ่มนายทุน ผู้บุกรุกโบราณสถาณเขาแดงและเขาน้อยเพิ่มเติม หลังจากที่นายสมบัติ เหาตะวาณิชย์  เข้ามอบตัวพร้อมให้การว่าทำไปที่โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ต้องการตัดถนนเพื่อให้ใช้เป็นที่สัญจรขึ้นไปสักการะเจดีย์องค์ขาว องค์ดำ ขณะนี้ตำรวจกำลังจะออกหมายจับกลุ่มบุคคลที่ทั้งหมดที่สอบสวนถึง และเป็นผู้บุกรุกเขาแดงโดยเฉพาะที่เขาน้อย หลังจากที่แจ้งข้อหาผู้ต้องหาผู้บุกรุกเขาแดงไปก่อนหน้าแล้ว แต่คดียังไม่คืบหน้ามากนักต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าการบุกรุกที่เขาน้อย เป็นฝีมือของกลุ่มคนที่ใช้เครื่อง จักรกลในการเข้าไปตัดต้นไม้เพื่อนำดินลูกรังออกไปขาย โดยทำกันมานานแล้ว จนเนินเขาที่เชื่อมระหว่างเขาแดงกับเขาน้อยหายไปแล้วหนึ่งลูก  ก่อนจะมารุกทำลายเขาน้อยและเขาแดงซึ่งเป็นที่ตั้งของโบราณสถาน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสงขลา จนประชาชนต้องออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ

      ด้านนายเจษฎา จิตต์รัตน์ ผวจ.สงขลา กล่าวว่าได้เร่งรัดให้ตำรวจดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน เอาตัวคนผิดมาลงโทษโดยเร็ว แม้ผู้ต้องหาจะเป็นใครก็ไม่มีการยกเว้น พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลโบราณ สถาณ ป้องกันผู้บุกรุกเข้ามาทุบทำลายหาของมีค่าที่องค์เจดีย์ รวมทั้งให้ดูแลนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวบนยอดเขาด้วย

“บริเวณเจดีย์เขาน้อยด้านหลังป้อมเมืองเก่าสงขลามีอายุมากกว่า 400 ปีและที่เขาน้อยมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากกว่า 1,400 ปี จึงต้องให้ชาวสงขลาช่วยกันอนุรักษ์” นายเจษฎากล่าว

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากมีการเสนอข่าวการบุกรุกโบราณสถาณบนเขาแดง ซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองสิงห์ในอดีต สร้างความเสียหายจนเป็นข่าวครึกโครมขณะนี้ ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักศึกษาและภาคประชาชน พร้อมทั้งได้ปลุกจิตสำนึกชาวสงขลาให้ออกมาอนุรักษ์และหวงแหนโบราณสถาณคู่เมือง  ทางเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสงขลาได้มีการหารือกัน เพื่อหาแนวทางให้ประชาชนในพื้นที่ จ.สงขลา ตรวจสอบหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ ที่ปล่อยปละเลยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ กับการบุกรุกโบราณสถาน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้

      นอกจากนี้ข่าวการบุกรุกหัวเขาแดง ยังสร้างกระแสให้ชาวสงขลาและใกล้เคียง หันมาท่องเที่ยวและขึ้นไปสักการะองค์เจดีย์ขาวและองค์ดำอย่างมากมาย โดยสามารถชมทิวทัศน์มุมสูงของเมืองสงขลา ชมทะเลสาปและทะเลอ่าวไทยได้ 360 องศาอย่างสวยงามอีกด้วย.