ผู้ประกอบการภูเก็ตประท้วง SHA+ อ้างไม่เป็นธรรมกับรายเล็ก และสมัครยุ่งยาก
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, ภูเก็ต,
โฟสเมื่อ : 29 ต.ค. 2564, 18:00 น. อ่าน : 1,112ภูเก็ต-กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวขนาดย่อมภูเก็ตรวมตัวประท้วงได้รับผลกระทบจาก SHA+ เรียกร้องให้ยกเลิก เหตุไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการรายเล็ก และขั้นตอนการสมัครต่างๆก็ยุ่งยาก แต่ยังสนับสนุนมาตรฐาน SHA และ Phukit Sandbox ต่อไป ขณะที่รอง ผวจ.รับเรื่องเสนอหน่วยเหนือที่รับผิดชอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2564 กลุ่มผู้ได้รับกระทบจาก SHA+ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการท่องเที่ยวขนาดย่อม โดยเฉพาะโรงแรมที่พักและรถโดยสารส่วนบุคคลราว 100 คนรวมตัวกัน ที่บริเวณสวน 72 พรรษามหาราชินี หรือ ลานมังกร ถนนถลาง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมถือป้ายข้อความต่างๆ อาทิ ปัญหา SHA+ ทำให้พวกเราเดือดร้อน SHA plus คือ ฆาตกรเลือดเย็น เป็นต้น เพื่อเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกเลิกการทำ SHA+ เนื่องจากมีความไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการรายเล็ก
จากนั้นกลุ่มผู้ประกอบการฯดังกล่าว ได้เดินไปยังสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ตที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อยื่นหนังสือถึง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาและ ผวจ.โดยมีนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รอง ผวจ.ภูเก็ตและ น.ส.นันทศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานภูเก็ตเป็นผู้รับหนังสือท่ามกลางการดูแลความเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองทั้งในและนอกเครื่องแบบ บรรยากาศเป็นไปด้วยเรียบร้อย แต่เนื่องจากไม่สามารถหาข้อยุติได้ จึงได้ให้ผู้เดือดร้อนส่งตัวแทนเข้าพูดคุยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
น.ส.ทิพสุคนธ์ ทองตัน หนึ่งในผู้ได้รับความเดือดร้อนกล่าวว่า เนื่องจากในวันที่ 1 พ.ย.นี้ รัฐบาลได้ประกาศเปิดประเทศโดยไม่ต้องกักตัว ทำให้ผู้ประกอบการในจังหวัดภูเก็ตมีความหวังในการสร้างรายได้ หลังจากที่ไม่มีรายได้มาประมาณ 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ในความเป็นจริงผู้ประกอบการท่องเที่ยวขนาดย่อม โดยเฉพาะ โรงแรมที่พักและรถโดยสารส่วนบุคคลไม่สามารถที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ เนื่องจากต้องมีมาตรฐาน SHA+ คือ มาตรฐาน SHA และบวกด้วยพนักงานฉีดวัคซีนเกิน 70 % ถึงสามารถสมัครเข้าร่วมมาตรฐานดังกล่าวได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วการเข้าถึงมาตรฐานเหล่านี้ยากมาก เนื่องจากไม่มีเจ้าภาพที่ชัดเจนในการสอบถามและติดตามผล ทำให้เกิดความล่าช้าในการขอ SHA plus ก่อให้เกิดการสูญเสียโอกาสในการทำมาหากิน หารายได้
“การสมัครผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเดียว โดยมีขั้นตอนและวิธีการซับซ้อนมาก ผู้ประกอบการที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในการใช้ระบบ ไม่สามารถเข้าถึงการสมัครได้ และไม่มีบุคลากรให้ติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือในการสมัคร การอนุมัติใช้เวลานาน โดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีการชี้แจงเหตุผลของความล่าช้า รวมทั้งมีการนำเงื่อนไขอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุขเข้ามาผูกกับการพิจารณา SHA plus เพื่อจำกัดสิทธิและโอกาสในการให้บริการลูกค้าอย่างมีนัยยะแอบแฝง ซึ่งอุปสรรคดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมาก สูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้ และทำให้เกิดผลกระทบต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตโดยรวม” น.ส.ทิพสุคนธ์กล่าว
น.ส.ทิพสุคนธ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การบังคับนักท่องเที่ยวให้ใช้บริการ SHA plus ในบางธุรกิจ เช่น โรงแรม รถรับแขกจากสนามบิน ในขณะที่สถานที่และกิจการทั่วไปอื่นๆที่ลูกค้าต้องไปใช้บริการ ไม่ถูกจำกัด เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมันและอื่นๆ ถือเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำในสังคมและเศรษฐกิจ กอปรกับในสถานการณ์ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตมีการฉีดวัคซีน 2 เข็มเกิน 70% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจึงเห็นว่าไม่ควรมีการใช้มาตรฐาน SHA+ อีกต่อไป เพราะเป็นการกีดกันทางการค้าทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ แต่ทางกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบยังคงสนับสนุนมาตรฐาน SHA และ PHUKET SANDBOX ต่อไป
ด้านนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รอง ผวจ.ภูเก็ตกล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จากเกณฑ์การรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พ.ย.นี้ กลุ่มนี้บางส่วนไม่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายโรงแรม ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของชาร์พลัส คือ จะต้องเป็นโรงแรมที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายโรงแรมและได้รับ SHA จาก ททท. มาก่อน และพนักงานต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อยร้อยละ 70 แต่ได้ชี้แจงไปแล้วว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะต้องพักในโรงแรมที่มีชาร์พลัสเพียง 1 คืนเท่านั้น ส่วนเหลือสามารถเลือกพักในที่พักอื่นๆ ได้ แต่ผู้ประกอบการต้องการให้ยกเลิกชาร์พลัสไปเลย เนื่องจากคนภูเก็ตฉีดวัคซีนแล้วกว่าร้อย 70 โดยจะได้พูดคุยกับหน่วยเหนือที่รับผิดชอบพิจารณาแก้ไขต่อไป .