สั่งปิดเกาะภูเก็ต 14 วัน เริ่ม 3 ส.ค. หลังพบคลัสเตอร์ ยอดผู้ติดโควิด-19 พุ่ง
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, ภูเก็ต, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 29 ก.ค. 2564, 22:59 น. อ่าน : 2,357ภูเก็ต-ด่วน! ผวจ.ภูเก็ต สั่งยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัด ล็อกดาวน์"ปิดเกาะ" เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 3-16 ส.ค.2564 หลังพบคลัสเตอร์ใหญ่แคมป์คนงานและศูนย์การค้า โดยมีสถิติพบผู้ป่วยเพิ่มรายวันมากขึ้น จึงต้องปิดเกาะ เพื่อไม่ให้กระทบ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจพบคลัสเตอร์แคมป์คนงานที่มีแรงงานต่างด้าวติดเชื้อโควิด-19 จนต้องสั่งปิด พร้อมทั้งสั่งควบคุมแคมป์คนงานทุกแห่งอย่างเข้มงวด และคลัสเตอร์ห้างสรรพสินค้าดังที่สั่งปิด 7 วัน เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ซึ่งต้องตรวจคัดกรองคนกลุ่มเสี่ยงถึง 1,800 คน โดยวันแรกตรวจไป 180 คนมีผลเป็นลบ และตัองเร่งตรวจคัดกรองทั้งหมด ซึ่งสามารถตรวจได้ประมาณวันละ 200 คน นอกจากนี้ยังมีคนที่เดินทางเล็ดรอดเข้า จ.ภูเก็ต ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ทำให้มีการแพร่กระจายเชื้อเพิ่มขึ้นโดยวันที่ 29 ก.ค. มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 50 ราย ครึ่งหนึ่งตรวจพบจากผู้ที่กักตัว ที่เหลือพบจากที่ต่างๆ ทำให้ ศบค.จ.ภูเก็ต ต้องประชุมกันเพื่อหามาตรการควบคุมการแพร่ระบาด เพื่อไม่ให้กระทบกับโครงการ”ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”
วันเดียวกัน (29 ก.ค.2564) เวลาประมาณ 18.00 น.นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ภูเก็ต ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่ จ.ภูเก็ต ได้มีคำสั่งยกระดับมาตรการการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้า จ.ภูเก็ตตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 โดยมีสาระสำคัญ
1.ห้ามบุคคลและผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต ทั้งทางบก (ด่านตรวจท่าฉัตรไชย) ทางน้ำ (ท่าเรือ) ทุกท่า ในจังหวัดภูเก็ต และช่องทางภายในประเทศ (ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต) เว้นแต่เป็นบุคคล หรือผู้ขับขี่ยานพาหนะ ดังต่อไปนี้
1) รถฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยฉุกเฉิน กู้ชีพ กู้ภัย 2) ขนส่งยา วัสดุอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ทางการแพทย์
3) ขนส่งสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค สินค้าทางการเกษตร ปศุสัตว์ อาหารสัตว์
4) ขนส่งแก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง
5) ขนส่งเงินของธนาคาร สถาบันทางการเงิน
6) ขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์
7) ผู้มีความจำเป็นในการเดินทางออกทางช่องทางระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต (ต้องมีตั๋วโดยสาร ของวันที่เดินทาง เท่านั้น)
8 ) ผู้ที่ได้รับคำสั่งหรือมีหนังสือมอบหมายจากต้นสังกัดให้ปฏิบัติหน้าที่ในด้านการป้องกันและควบคุมโรคในจังหวัดภูเก็ต
9) ผู้ที่ได้รับคำสั่งจากส่วนราชการให้ไปหรือมาปฏิบัติภารกิจจำเป็นเร่งด่วนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
10) ผู้ที่มีนัดหมายตามกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล พนักงานอัยการ หรือพนักงานสอบสวน ซึ่งต้องมีเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนว่าหากเลื่อนเวลานัดหมายดังกล่าวจะทำให้กระบวนการพิจารณาเสียหายอย่างร้ายแรง หรือมีนัดหมายการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ มิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายแก่คู่กรณีหรือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง
11) ขนส่งวัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร และอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมบำรุง เฉพาะที่ใช้ในการดำเนินการโครงการเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย หรือโครงการของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนหรือกรณีจำเป็นเร่งด่วน
12) กรณีอื่นใดซึ่งมีปัญหาในทางปฏิบัติที่ต้องวินิจฉัยสั่งการ ให้ผู้บัญชาการเหตุการณ์ประจำด่านตรวจภูเก็ตเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาเป็นรายกรณี โดยผู้ได้รับการยกเว้นตามกรณีดังกล่าวข้างต้นต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ชนิดซิโนแวค (Sinovac) , ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ครบ 2 เข็ม หรือซิโนแวค (Sinovac) เข็ม 1 แอสตราเซนิกา (AstraZeneca) เข็ม 2 หรือได้รับวัคซีนชนิดแอสตราเซนิกา (AstraZeneca) , ไฟเซอร์ (Pfizer) , โมเดอร์นา (Moderna) , จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson and Johnson) จำนวน 1 เข็ม มาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรคโควิด - 19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ด้วยวิธีการ RT - PCR หรือวิธีการ Antigen Test มาจากนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางถึง
2. กรณี นักเรียนนักศึกษาอายุไม่ถึง 18 ปี ที่ไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด–19 ได้และมีความจำเป็นต้องเดินทางผ่านเข้า – ออกจังหวัดภูเก็ตเพื่อการเรียนการศึกษา ให้หน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาหรือศึกษาธิการจังหวัดออกบัตรประจำตัวเป็นรูปแบบเดียวกัน แสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อเดินทางผ่านเข้า – ออกจังหวัดภูเก็ต และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตทำการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยวิธีการ RT - PCR และออกใบรับรองการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ให้มีผลใช้ได้ครั้งละไม่เกิน 1 เดือน
3. กรณี ผู้มีนัดหมายฉีดวัคซีนโควิด - 19 เข็มที่ 2 (ต้องมีใบนัดหมายการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ที่จังหวัดภูเก็ต) และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ด้วยวิธีการ RT - PCR หรือวิธีการ Antigen Test มาจากนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางถึง
4. ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (Location) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต
5.แสดงเอกสารหลักฐานข้างต้นต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อก่อนเข้าจังหวัดภูเก็ต
6. การใช้เส้นทางคมนาคมและการตรวจคัดกรองการเดินทาง ผ่านทางด่านตรวจท่าฉัตรไชย ห้ามบุคคลและยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต ระหว่างเวลา 23.00 นาฬิกา ถึงเวลา 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น ยกเว้น เมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ ผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทางหรือแจ้งข้อมูลเท็จ ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและควบคุมโรคเป็นผลให้เชื้อโรคแพร่ออกไป อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ด้วย คำสั่งกังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 3-16 สิงหาคม 2564
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า คำสั่งที่ประกาศยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ปิดเกาะครั้งนี้ เนื้อหาส่วนใหญ่เหมือนกับคำสั่งเดิมที่ออกมาก่อนหน้านี้ ที่เพิ่มมาคือข้อ 1 ที่ห้ามเดินทางบุคคลและพาหนะเดินทางเข้าภูเก็ตทุกเส้นทางทั้งทางบก น้ำ และอากาศ เป็นเวลา 14 วัน จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะเบาลง โดยขณะนี้ภูเก็ตถูกจัดอยู่ในพื้นที่สีเหลือง.