กก.สภาทนายฯภาค 8 เดือดจัดโต้”ณัฐวุฒิ” เหยียดหยามสภาทนายฯ ไม่ช่วยประชาชน

หมวดหมู่ : การเมือง, นครศรีธรรมราช, ทั่วไป,

อ่าน : 712
ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล สภาทนายความ
กก.สภาทนายฯภาค 8 เดือดจัดโต้”ณัฐวุฒิ” เหยียดหยามสภาทนายฯ ไม่ช่วยประชาชน

นครศรีธรรมราช-กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 8 เดือดจัดแถลงโต้ “ณัฐวุฒิ บัวประทุม” ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เอาสมองส่วนไหนคิดว่าสภาทนายความฯไม่ทำอะไร และเสนอตัดงบประมาณสนับสนุนของกระทรวงยุติธรรม ทั้งๆที่สภาทนายความฯและทนายความทำงานเพื่อประชาชนจำนวนมาก


นายลือชา เปี่ยมสุวรรณ กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 8 พร้อมคณะกรรมการสภาทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่สภาทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อสันที่ 22 ส.ค.2564 ในกรณีที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้อภิปรายในการประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 และขอตัดงบประมาณสนับสนุนสภาทนายความแห่งประเทศไทย โดยอ้างว่าไม่ได้มีภารกิจในการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องทางการเมืองและถูกจับกุมจำนวนมากว่า ตนในฐานะทนายความและกรรมการบริหารสภาทนายความภาค 8 ถือเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับผลกระทบและเสียหายจากการอภิปรายของนายณัฐวุฒิ ซึ่งตามปกติกระทรวงยุติธรรมได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กับทนายความเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย จากเดิม 57 ล้านบาทตัดเหลือแค่ 27 ล้านบาท ซึ่งนายณัฐวุฒิขอให้ตัดงบ 27 ล้านบาทออกไป เท่ากับว่าไม่เหลือการสนับสนุน งบประมาณให้กับสภาทนายความเลยยังงั้นหรือ 


พร้อมกันนี้นายลือชากล่าวย้ำว่า นายณัฐวุฒิ เป็นทนายความ แต่ได้อภิปรายในสภาอันทรงเกียรติว่าสภาทนายความฯได้รับงบประมาณจากกระทรวงยุติธรรมาแล้วไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ช่วยเหลือประชาขน ตนขอกราบเรียนต่อ ส.ส.และคณะรัฐมนตรีและประชาชนที่ได้รับฟังการอภิปรายของนายณัฐวุฒินั้น นายณัฐวุฒิได้นำข้อความที่ไม่เป็นจริงมากล่าวในสภาฯอันทรงเกียรติ และทำให้สภาทนาย ความฯ สมาชิกสภาทนายความฯได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียเกียรติยศชื่อเสียง โดยสภาทนายความฯไม่มีโอกาสที่จะเข้าชี้แจงตอบโต้แก้ข้อกล่าวหาของนายณัฐวุฒิ ในสภาฯได้  


“กระผมจึงขอเป็นสื่อกลางที่แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อสื่อไปถึงรัฐบาลว่าการที่สภาทนายความฯ ได้รับการจัดสรงบประมาณมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนนั้น เราได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาการจ่ายงบประมาณในแต่ละเรื่อง แต่ละคดี แต่ละโครงการอย่างละเอียดรอบคอบ  ชื่อ “คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย” ประกอบด้วยหลายฝ่ายทั้งตัวแทนกระทรวงยุติธรรม และมีการกำหนดภารกิจของทนายความในการช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งแต่ละจังหวัดจัดทำโครงการให้ความรู้ด้านกฎหมายและช่วยเหลือประชาชนจังหวัดละ 4 โครงการทั้งประเทศ รวมเกือบ 500 โครงการ” ในปัจจุบันต้องปรับลดลงมาเหลือจังหวัดละ 2 โครงการเท่านั้น” นายลือชากล่าว


นายลือชา กล่าวอีกว่าการช่วยเหลือประชาชนมีทั้งคดีปกครอง คดีผู้บริโภค คดีสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยแต่ละประเภทมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งสภาทนายความฯได้ดำเนินการช่วยเหลือและฟ้องร้องดำเนินคดีอยู่ทั่วประเทศในขณะนี้หลายร้อยคดี ในส่วนของภาค 8 เช่น คดีห้องเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช กรณีภูเขาขยะที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งเรื่องกลิ่น มลพิษต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ในจังหวัดอื่น ๆ ก็มีการฟ้องร้องช่วยเหลือประชาชนอีกจำนวนมาก  แม้แต่เรื่องล่าสุดกรณีไฟไหม้โรงานพลุที่ จ.สมุทรปราการทางสภาทนายความก็ดำเนินการฟ้องร้องอยู่ในขณะนี้ สภาทนายความได้ส่งไปช่วยเหลือให้ความรู้กับประชาชนอย่างใกล้ชิด


นอกจากนี้ในปัจจุบันแม้แต่เรื่องความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับโรคโควิด บรรดา ส.ส.มีบ้างไหมที่ลงไปให้ความรู้ ไปพบปะประชาชนต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ ส.ส.โดยเฉพาะตัวนายณัฐวุฒิ เคยลงไปทำบ้างไหม เข้าไปสัมผัส รับรู้เกี่ยวกับคดีต่าง ๆที่ประธานสภาในแต่ละจังหวัดทุ่มเททำงานช่วยเหลือประชาขนบ้างไหม บางเรื่องประธานสภาในแต่ละจังหวัด หรือเพื่อนทนายความต้องควักกระเป๋าตัวเองเป็นค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมันรถ และอื่น ๆ 


นายลือชากล่าวย้ำอีกว่า อย่าเอาการบิดเบือนข้อเท็จจริงไปกล่าวในสภาผู้แทนฯอันทรงเกียรติ  สภาผู้แทนฯไม่ใช่เป็นสถานที่ที่เอาเรื่องราวข้อความที่ไม่เป็นจริง ไม่รู้จริงไปพูดกัน เพื่อต้องการทำลายองค์กร ท่านณัฐวุฒิ บอกว่าท่านเป็นทนายความเพราะฉนั้นองค์กรสภาทนายความเป็นองค์กรที่คุ้มกะลาหัวท่านอยู่ด้วย แต่ท่านกลับมาทำลายองค์กรของเราเอง ทำลายน้อง ๆ เพื่อน ๆ ทนายความ โดยเฉพาะกำลังทำลายสิทธิประชาชนที่กระทรวงยุติธรรมมอบหมายให้สภาทนายความลงไปดูแลช่วยเหลือ สำหรับกรณีที่เคลื่อนไหวเรียกร้องทางการเมืองที่เยาวชน ประชาชนโดนจับกุมนั้น หากมีการร้องขอให้ช่วยเหลือสภาทนายความฯก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเต็มที่อยู่แล้ว ซึ่งผมถามว่าหากงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนโดนตัดไปหมด ทนายความจะเอางบจากไหนในการใช้จ่ายเพื่อเข้าถึงและช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม   แม้แต่รัฐธรรมนูญยังกำหนดให้ประชาชนมีสิทธิในการเข้าถึงกฎหมายและความยุติธรรม แต่ท่านณัฐวุฒิกำลังทำลายสิทธิเหล่านี้ไปทั้งหมด ตนทนไม่ได้และนอนไม่หลับทั้งคืน  


“ผมอยากฝากถึงนายณัฐวุฒิว่า ทนายที่เขาทำงานเพื่อปะชาชน ทั้งที่ไปนั่งที่ศาล ที่โรงพัก ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในกรณีต่าง ๆ เขาเหนื่อยนะครับ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดน้อง ๆ เพื่อน ๆ ทนายความทั่วประเทศเขาก็ไม่ค่อยมีคดีความที่จะว่าความกันอยู่แล้ว โดนหลายหน่วยงานแย่งคดีไปทำกันหมดแล้ว ท่านณัฐวุฒิ บอกว่าท่านเป็นทนายความท่านเอาสมองส่วนไหนมาคิดว่าทนายความไม่ทำงาน ไม่ทำอะไร ท่านลงมาตรวจสอบ ลงมาดูบ้างซิครับ ถ้าไม่มีทนายความ ทนายอาสาออกดูแลช่วยเหลือประชาชนในทางกฎหมายประชาชนจะตกอยู่ในสภาพยังไง อย่างไร” นายลือชา กล่าวในที่สุด.


อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :