กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 36.35-37.15 มองความเสี่ยงฝรั่งเศสถ่วงยูโร
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 17 มิ.ย. 2567, 14:20 น. อ่าน : 377 กรุงเทพฯ -
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
ประเมินเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 36.50-37.15 บาท/ดอลลาร์
เทียบกับในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 36.79 บาท/ดอลลาร์
หลังซื้อขายในช่วง 36.53-36.94 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยดอลลาร์ปรับตัวผันผวนหลังสหรัฐฯรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)พื้นฐานเพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือน พ.ค.
ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นช้าสุดตั้งแต่เดือนเม.ย.64
ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50%
และเปิดเผยประมาณการว่าอาจลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้
เทียบกับค่ากลางของประมาณการเดือนมี.ค.ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยลง 3 ครั้ง
ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)มีมติคงเป้าหมายดอกเบี้ยระยะสั้นในกรอบ 0-0.1%
และแสดงท่าทีระมัดระวังเกี่ยวกับแผนปรับลดปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 9,376 ล้านบาท และ 3,661 ล้านบาท
ตามลำดับ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ให้ความเห็นถึงสถานการณ์ตลาดในสัปดาห์นี้ว่า นักลงทุนจะติดตามยอดค้าปลีกสหรัฐฯรวมถึงความเห็นเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่เรายังคงเชื่อว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้งในปีนี้ โดยตัวเลข CPI ล่าสุดน่าจะทำให้เฟดมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อลดความร้อนแรงลงหลังจากที่พุ่งขึ้นในไตรมาสแรก ทั้งนี้ รายงานคาดการณ์ของเฟดบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจจะอยู่ที่ 5.00-5.25% ในปลายปีนี้ 4.00-4.25% ปลายปี 68 และ 3.00-3.25% ปลายปี 69 นอกจากนี้ เฟดคาดว่าเงินเฟ้อ PCE พื้นฐานจะอยู่ที่ 2.8% ในช่วงปลายปีนี้ ก่อนจะแตะระดับ 2.0% ในปี 69 โดยประธานเฟดยอมรับว่านโยบายการเงินอยู่ในภาวะเข้มงวด อย่างไรก็ดี เราคาดว่าเงินยูโรจะยังคงเผชิญแรงกดดันท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองในฝรั่งเศส
สำหรับปัจจัยในประเทศ
กนง.คงดอกเบี้ยด้วยมติ 6 ต่อ 1
โดยกรรมการส่วนใหญ่ประเมินว่าดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน
ขณะที่กรรมการ 1 ราย เห็นควรให้ลดดอกเบี้ยลงเป็น 2.25% ในภาพรวมกนง.มองว่า
เศรษฐกิจไทยปีนี้ได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศ การท่องเที่ยว และการเบิกจ่ายภาครัฐ
แต่ภาคการส่งออกขยายตัวต่ำ ส่วนหนึ่งสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้าง
ขณะที่ค่าเงินบาทยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อเนื่อง
ท่าทีล่าสุดสนับสนุนมุมมองของเราที่ว่ากนง.มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยที่ 2.50% ตลอดปีนี้.