กองปราบฯตามรวบ “พล บางรัก” ขโมยชิ้นส่วนประตูระบายน้ำ

หมวดหมู่ : ตรัง, ทั่วไป,

อ่าน : 624
กองปราบฯ ตามรวบ “พล บางรัก” ขโมยชิ้นส่วนอุปกรณ์ส่วนควบประตูระบายน้ำกรมชลประทาน
กองปราบฯตามรวบ “พล บางรัก” ขโมยชิ้นส่วนประตูระบายน้ำ

ตรัง-กองปราบฯ ตามรวบ “พล บางรัก” หนุ่มวัย 30 ปี หลังรับเรื่องร้องทุกข์ ก่อเหตุขโมยชิ้นส่วนอุปกรณ์ส่วนควบประตูระบายน้ำกรมชลประทาน เบื้องต้นยังให้การภาคเสธ รับว่าไปหาปลาน็อตติดมากับแห ก่อนนำไปขายร้านรับซื้อของเก่า 3 รอบ เบื้องต้น ตำรวจไม่ปักใจเชื่อส่งตัวดำเนินคดีและขยายผลต่อ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ต.ค.65 เวลา 06.00 น. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. สั่งการให้  พ.ต.ต.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป. ร.ต.อ.มนตรี สงคง รอง สว.กก.6 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. (ชป.ตรัง) จับกุมตัว นายเพิ่มพล แสงจันทร์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ “พล บางรัก” อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 300/1 ม.5 ต.บางรัก อ.เมืองตรัง จ.ตรัง และพาไปชี้จุดเกิดเหตุ หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ตรัง ที่ จ.381/2565 ลงวันที่ 29 ต.ค.2565 ในฐานข้อหา “ลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์ หรือ รับของโจร” โดยจับกุมได้ที่บริเวณถนนสาธารณะ หมู่ 5 บ้านทุ่งแจ้ง ต.บางรัก อ.เมืองตรัง พร้อมได้ตรวจยึด รถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีน้ำเงิน-เทา ทะเบียน 1 กฎ 2132 สุราษฎร์ธานี ทราบว่าใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุเอาไว้ตรวจสอบ


คดีนี้สืบเนื่องจากชาวบ้านพื้นที่ ต.บางรัก อ.เมืองตรัง ได้รับความเดือดร้อนหนักจากเหตุน้ำท่วมซ้ำซาก เพราะเป็นที่ราบลุ่มรองรองน้ำเมื่อเกิดฝนตกหนักจึงเกิดน้ำท่วมบ้าน แต่เมื่อน้ำระบายไม่ได้เนื่องจากเครื่องจักรไม่ทำงาน จึงเกิดปัญหาหนักซ้ำขึ้นมาอีกและน้ำขังอยู่หลายวัน ทั้งนี้พบว่าคนร้ายได้เข้าไปขโมยเอาอุปกรณ์ส่วนควบของเครื่องระบายน้ำ โครงการประตูระบายน้ำ กรมชลประทาน ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการได้สูญหายไปหลายรายการ ตรงบริเวณจุดพื้นที่หมู่ 5 บ้านทุ่งแจ้ง ต.บางรัก อ.เมืองตรัง เช่น ฝาเหล็กครอบท่อน้ำ ฟันเฟืองต่างๆ มอเตอร์ปิดเปิดประตูน้ำ น็อตท่อน้ำ แผงไฟฟ้าวงจรประตูน้ำ คาดมูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท ตรวจสอบพบการกระทำความผิดตั้งแต่เมื่อ 19 ต.ค.2565 ที่ผ่านมา เชื่อว่าคนร้ายได้ก่อเหตุมาหลายครั้งแล้ว และน่าจะทำกันเป็นแก๊ง


ต่อมาชาวบ้านในพื้นที่ได้แจ้งผู้นำฝ่ายปกครองและได้ร้องเรียนมายัง ตำรวจกองปราบฯ ให้ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี จากการสืบสวนพบว่าหนึ่งในแก๊งคนร้ายที่ได้ก่อเหตุในคดีนี้คือ นายเพิ่มพล หรือพลบางรัก จึงได้สืบสวนติดตามลงพื้นที่แกะรอยหาข่าว ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับกุมตัวได้ และนำผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุ และร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางรัก อ.เมืองตรัง ซึ่งผู้ต้องหาได้นำของกลางเป็นทรัพย์สินของทางราชการที่ไปขาย จากการสอบถามกับทางเจ้าของร้าน เผยว่าผู้ต้องหาเอามาขายจริง 3 รอบ แต่ชิ้นส่วนได้กระจายส่งขายและเศษซากทำลายไปแล้ว   


จากการสอบถาม นายเพิ่มพล หรือพล บางรัก ผู้ต้องหาซึ่งอยู่ในอาการลุกลื้อลุกลน ให้การว่าตนเองไม่ได้ขโมยสิ่งของต่างๆ ไปทั้งหมด นำเอาแค่น็อตซึ่งได้จากการทอดแหหาปลาในคลองชลประทานดังกล่าว ทำให้น็อตติดมาในแหจากนั้นตนจึงได้เอาแม่เหล็กโยนไปดูดขึ้นมาจากน้ำเพิ่ม รวมกว่า 27 กิโลกรัม ก่อนนำไปจำหน่ายร้านรับซื้อของเก่า ได้เงินกลับมาประมาณ 400-500 บาทเท่านั้น ส่วนมอเตอร์ปิด-เปิดประตูน้ำ แผงไฟควบคุมวงจร และแผ่นเหล็กท่อต่างๆ ไม่ได้ขโมย 


พร้อมกันนี้ยังให้การซัดทอดว่า นายเอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านเป็นคนขโมยไป และที่บ้านของตนน้ำเข้าท่วมบ้านสูงถึง 2 ขั้นบันไดบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากประตูน้ำชลประทานจุดเกิดเหตุไปประมาณ 500 เมตร และรับว่าเงินที่ขายได้นำไปซื้อกับข้าว และซื้อยาบ้ามาเสพ ราคาเม็ดละ 40 บาท 


สำหรับเบื้องต้นในชั้นจับกุมผู้ต้องหายังคงให้การภาคเสธ โดยให้การว่าตนขโมยชิ้นส่วนบางส่วน ไม่ได้ขโมยทั้งหมด แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีประจักษ์พยานหลักฐานชัดแจ้ง ก่อนแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์ หรือ รับของโจร” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง ดำเนินคดีตามกฎหมาย และสืบสวนขยายผลต่อไป 



ด้าน นายสมพงษ์ คำตัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บางรัก อ.เมืองตรัง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องที่ พร้อมด้วย นายสุรนอง กิ้มเฉี้ยง กำนันตำบลบางรัก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบลาดตระเวนเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม และเพื่อดูแลความปลอดภัยด้านชีวิตและทรัพย์สิน แต่คนร้ายยังอาศัยจังหวะทีเผลอเข้ามาขโมย ทราบว่ามีคนร้ายได้ถอดมอเตอร์สำหรับเปิด-ปิดประตูระบายน้ำของกรมชลประทาน และถอดฝาครอบกล่องแกนฟันเฟืองเอาไป จำนวน 11 ฝา และยังมีการขันน็อตอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำไปอีกหลายตัว 


นอกจากนี้คนร้ายยังถอดแผงควบคุมวงจรไฟฟ้าตัดขดลวดทองแดงเอาไปด้วย ทำให้เกิดความเสียหายจนไม่สามารถปิด-ปิดประตูระบายน้ำได้ จึงต้องประสานเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ให้นำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกจากพื้นที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมชลประทานฯ แจ้งว่ามอเตอร์ที่สูญหายไป ตกราคาลูกละกว่า 1 แสนบาท คาดมูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาทเศษ จึงต้องรายงานไปยังสำนักชลประทานที่ 12 สงขลา เพื่อเร่งนำอุปกรณ์มาซ่อมแซมเพื่อให้เครื่องจักรเดินต่อได้.




อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :