“ขวน”อ้อนชาวโก-ลก ช่วยทั้งคนทั้งพรรค

หมวดหมู่ : นราธิวาส,

อ่าน : 312
“ขวน”อ้อนชาวโก-ลก ช่วยทั้งคนทั้งพรรค

นราธิวาส- “ชวน” เดินสายนั่งรถแห่ช่วยลูกพรรคหาเสียง อ้อนแม่ค้าพ่อค้าใจกลางเมืองสุไหงโก-ลก ขอให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค


เมื่อวันที่ 4 พ.ค.66 เวลา 08.30 น. นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณีอดีต รมช. มหาดไทย นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ รวมทั้งนางวทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ ได้เดินเท้าลงพื้นที่ตลาดสดเก็นติ้ง เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อช่วยนายเมธี อรุณ หรือ เมธี วงลาบานูฯ ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 2 เบอร์ 1หาเสียง


การเดินทางมาช่วยลูกพรรคหาเสียงของ นายชวน หลีกภัย ครั้งนี้ ได้แต่งตัวแบบเป็นกันเอง พร้อมกับชูนโยบายต่างๆ ที่ผ่านมา เช่น เบี้ยผู้สูงอายุ การกู้เงิน กยศ. ให้เด็กได้เรียน รวมไปถึงนโยบายของผู้สมัครในพื้นที่ เพื่อขอคะแนนสนับสนุนให้ผู้สมัครของพรรคทั้งแบบแบ่งเขตและระบบบัญชีรายชื่อ เราอาจไม่รู้ว่าคนนั้นดีหรือไม่ดีพรรคการเมืองก็เช่นกัน ทุกพรรคมีนโยบายที่ดีทั้งสิ้น แต่จะดีหรือไม่ดีนั้น พิสูจน์ได้จากการทำงานว่า ทุจริตหรือโกงกินอีกทั้งได้เน้นย้ำถึงความเป็นสถาบันทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ที่อยู่มาได้ถึงวันนี้ ครบ 77 ปี ด้วยการยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งได้รับความสนใจจากพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายอาหารในตลาดสด โดยบางรายได้ถือโอกาสมอบดอกไม้และผลไม้ ให้นายชวนได้นำไปรับประทาน พร้อมทั้งได้ขอถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก


นอกจากนี้นายชวนและคณะ ได้ขึ้นรถยนต์บรรทุก 10 ล้อของพรรค ไปตามถนนภายในเขตเทศบาล ในการขอสนับสนุนคะแนนเสียงเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน รวมทั้งผู้ประกอบการ ที่ได้มีการโปรยมือทักทายนายชวน และคณะ ตลอดเส้นทางที่รถยนต์ผ่าน ด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มที่ไม่คิดว่านายชวน จะลงพื้นที่หาเสียงเองให้กับทางพรรคและจุดสุดท้าย

ที่นายชวน และคณะ ได้เปิดปราศรัยย่อที่บริเวณลานเอนกประสงค์ หน้าสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก โดยมีการสลับปรับเปลี่ยนกันพูดปราศรัยหาเสียงของ นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย นายสุชัชวีร์สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ นางวทันยา บุนนาค

 หรือ มาดามเดียร์ นายเมธี อรุณ หรือ เมธี วงลาบานูน ซึ่งได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน จำนวนกว่า 2,000 คน ได้เดินทางมารับฟังนโยบาย


ส่วนนางวทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยพอสรุปใจความว่า พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายไม่เซ็กซี่เหมือนพรรคอื่นๆ ท่านรู้มั๊ยว่าเราเป็นหนี้จากการกู้ยืมเงินของรัฐบาลเท่าไร หนี้นับ 10 ล้านๆบาท ใครเดือดร้อนพวกท่านๆที่นั่งตรงนี้เดือดร้อน ส่วนใหญ่ต้องไปพึ่งการกู้หนี้ยืมหนี้เงินนอกระบบ แล้วท่านจะลืมตาอ้าปากได้เมื่อไหร่ นอกจากนี้นโยบายกัญชา ถามว่าตนเอามั๊ยตนบอกเลยว่าไม่เอา มีเพียงอย่างเดียวใช้ในทางการแพทย์ ส่วนกัญชาเสรีนั้นดูซิคนหรือเยาวชนใน กทม.ติดกัญชากันจนผู้ปกครองบ่นว่าเดือดร้อน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะต่อต้านเรื่องกัญชาเสรี


นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.

มหาดไทย ขึ้นปราศรัยสรุปพอจับใจความได้ว่า ถ้าเลือกพรรคประชาธิปัตย์ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ การติดอินเตอร์เน็ต 1 ล้านจุดทั่วประเทศ จุดประสงค์หลักคือ นักเรียนสามารถใช้อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อการเรียนการสอนที่สะดวก แม้แต่ในโรงเรียนหรือทางบ้าน เราต้องให้ความสำคัญต่อการศึกษาของเยาวชน


ด้านนายชวน ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยพอสรุปใจความว่า ตนเล่นการเมืองรับใช้พี่น้องประชาชนมาเกือบทั้งชีวิต ซึ่งคนของพรรคทุกคนไม่เคยโกงกินหรือติดคุก เราซื่อสัตย์ต่อพี่น้องประชาชน นโยบายต่างๆที่สมัยตนเป็นนายกรัฐมนตรี การสร้างรถไฟรางคู่ซึ่งก็ได้คืบหน้าไประดับหนึ่ง แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นแกนนำรัฐบาลนโยบายต่างๆจึงถูกโละทิ้ง ถือว่าไม่ใช่นโยบายของพรรคนั้นๆ เขาก็ไปพัฒนาจังหวัดที่เลือกเขา ภาคใต้บ้านเราจึงไม่เจริญเท่าที่ควรจะเป็น


นอกจากนี้ นายชวน ยังได้กล่าวปราศรัยอีกด้วยว่า พรรคต่างๆโปรยยาหอมว่าหากได้เป็นรัฐบาล จะได้เบี้ยผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ถึง 5,000 บาท ตามอายุที่มากขึ้น นักเศรษฐศาสตร์เขาได้ประเมินคำนวณแล้ว ถ้าหากเป็นเช่นนี้ประเทศชาติจะล้มจม หากเพิ่มเติมให้ได้ต้องเพิ่มขึ้นทีละ 2 ถึง 300 บาท ซึ่งขึ้นอยู่ที่รายได้ของเศรษฐกิจประเทศ และนายชวนได้กล่าวปราศรัยทิ้งท้ายว่า บางพรรคการเมืองมีการแจงนำไปหาเสียงเรื่อง เงินกู้ กยศ. ที่ต่อไปไม่ต้องคืนเงินนั้น มันเป็นการสร้างค่านิยมให้คนคดโกง ท่านเรียนจบก็ต้องจ่ายเงินกู้ตามสัญญา เพราะเงิน กยศ. 2 แสนกว่าล้านนี้ต้องใช้หมุนเวียนในการศึกษา รัฐบาลจะไม่มีการสนับสนุนวงเงินเพิ่มเติมแล้ว กู้ไปเรียนแล้วต้องจ่าย ซึ่งหากเป็นเช่นนี้เหมือนกับสนับสนุนเยาวชนให้เริ่มเป็นคนมีนิสัยคดโกงตั้งแต่วัยเรียน เมื่อเติบโตขึ้นเยาวชนพวกนี้จะเป็นพลเมืองดีของประเทศได้อย่างไร


จากนั้นช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายชวน  ประธานและคณะ ได้เดินทางต่อไปหาเสียงในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา ได้ลงเดินพบปะพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาฟังการปราศรัยอย่างใกล้ชิด เพื่อรับพวงมาลัยและดอกไม้ที่ประชาชนได้เตรียมมาให้  จึงได้ถือโอกาสขอคะแนนเสียง คือ “รักนายชวน ต้องเลือกทั้งพรรคและเขต”ในวันที่ 14 พ.ค. 66 ที่จะถึงนี้ และอย่านอนหลับทับสิทธิ์ ถ้าจะให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล.