“ข้าวหลามบาซูก้า” ยอดจองล้น รับวันฮารีรายอ

หมวดหมู่ : ยะลา, ทั่วไป,

อ่าน : 848
เทศกาลวันฮารีรายอ ข้าวหลามบาซูก้า ถนนกุนุงจนอง ชุมชนบูเก็ตตักโกร
“ข้าวหลามบาซูก้า” ยอดจองล้น รับวันฮารีรายอ

ยะลา-เทศกาลวันฮารีรายอ “ข้าวหลามบาซูก้า” ขายดี ยอดสั่งจองทะลัก จากทำวัน 20 กระบอก เพิ่มเป็น 300 กว่ากระบอก คนขายทำไม่ทันต้องให้ญาติพี่น้องมาช่วย

      

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวได้ไปที่บ้านเลขที่ 34 ถนนกุนุงจนอง ชุมชนบูเก็ตตักโกร เขตเทศบาลเมืองเบตงอ.เบตง จ.ยะลา เป็นบ้านที่คนในพื้นที่ทราบกันดีว่า เป็นร้านขายปูโล๊ะลือแม หรือ ข้าวหลามบาซูก้า ซึ่งพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่อำเภอเบตง จะนิยมทำข้าวหลามบาซูก้า กันในช่วงเทศกาลวันฮารีรายอ เพื่อไว้ต้อนรับแขก หรือผู้มาเยือน ทั้งญาติสนิทมิตรสหาย ในวันฮารีรายออีฎิลฟิตรี จนถือว่าเป็นเมนูสำคัญที่ขาดไม่ได้ ที่พี่น้องมุสลิมในอำเภอเบตงต้องมีเกือบทุกบ้านและถือเป็นอีกหนึ่งอัตลักษณ์ของพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่อำเภอเบตง ที่จะทำข้าวหลามบาซูก้ากันในช่วงวันฮารีรายออีฎิลฟิตรี

     

น.ส.อารีน่า แหมะจิ เล่าให้ฟังว่า ตนกับสามี ทำปูโล๊ะลือแม หรือ ข้าวหลามบาซูก้า ขายมาประมาณ 3- 4 ปี แล้ววันปกติจะทำขายหน้าบ้าน ในเฟสชื่อ”อารีน่า แหมะจิ”และเพจ”ข้าวหลามปูโล๊ะลือแม” ต่อวันจะทำขายประมาณวันละ20 กระบอก หรือตามที่ลูกค้าสั่ง โดยจะขายในราคา 120-140 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด แต่ในช่วงเทศกาลวันฮารีรายออีฎิลฟิต ปีนี้ มีลูกค้าสั่งจองเข้ามากถึง 320 กระบอก ตนและสามี จึงต้องตื่นตั้งแต่ตี 2 ขึ้นมาทำส่วนผสมต่างๆ และต้องให้ญาติๆมาช่วยกันทำ เพราะเกรงจะทำไม่ทัน 


พร้อมกันนี้ น.ส.อารีนา เผยถึงการย่างข้าวหลามบาซูก้า ซึ่งเป็นข้าวหลามกระบอกใหญ่ จะมีความยากกว่าการทำข้าวหลามที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป หากไฟแรงก็จะไหม้ หากไฟอ่อนก็จะสุขไม่ดี ข้าวหลามจะแข็ง การย่างก็ต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม ต้องมีคนคอยเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา ข้าวเหนียวก็ต้องล้างให้สะอาดจะได้เก็บข้าวหลามไว้ได้นาน อย่างข้าวหลามที่ตนทำขาย จะสามารถเก็บได้นาน 3-4 วันเลยทีเดียว

      

ส่วนวิธีการทำนั้น เริ่มต้นจะต้องไปหาไม้ไผ่ในป่า นำไม้ไผ่ที่มีขนาดพอเหมาะ มีลำต้นตรง เลื่อยเป็นท่อนๆ  หลังจากเลื่อยไม้ไผ่เป็นท่อน แล้ว นำมาล้างทำความสะอาด เพราะไม้ไผ่พันธุ์นี้เมื่อถูกผิวหนังจะคัน จึงต้องล้างให้สะอาดแล้วตัดกระบอกไม้ไผ่ที่ไม่แก่และอ่อนเกินไป พร้อมตัดใบตองยาวเท่ากับกระบอกข้าวหลาม แล้วใช้ไม้ม้วนใบตองใส่เข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ จากนั้นกรอกข้าวเหนียวที่ล้างแล้วเทลงในกระบอก ตามด้วยน้ำกะทิที่ผสมน้ำตาล และเกลือแล้ว เพื่อให้ได้รสชาติหวานมัน จากนั้นนำไปย่างไฟที่ไม่แรงมากนัก จนข้าวหลามสุก ก็จะได้ข้าวหลามรสชาติเยี่ยมเหนียว หวานมัน เหมาะสำหรับรับประทานกับแกงมัสมั่น และกาแฟโบราณเบตง.











อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :