คนแห่ขอน้ำเหล็กไหลจนแน่นบ้าน ต้องแจกบัตรคิว-สสจ.นำน้ำไปตรวจ

กระบี่-คลื่นคนแห่ขอน้ำเหล็กไหล คาดตลอดวันทะลุหมื่นคน ด้าน สสจ.เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจ รอผล 21 วัน ขณะที่ตำรวจจัดกำลังเข้าไปดูแลความปลอดภัย และให้เจ้าของบ้านหาทางจัดคิวนัดหมายให้คนไปตามกำหนดเวลา จะได้ควบคุมจำนวนได้ในแต่ละวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย.65 เวลา 09.30 น. ชาวบ้านยังคงแห่ไปขอรับน้ำเหล็กไหลรักษาโรค ในพื้นที่ หมู่ 7 ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ ปรากฎว่าตั้งแต่เช้า มีชาวบ้านจากทั่วสารทิศ มารอคิวจะรับน้ำเหล็กไหลที่บ้านของนายริน รักษ์วงศ์ อายุ 43 ปี เจ้าของเหล็กไหล 100 ล้าน ที่อ้างว่านำเหล็กไหลมาปลุกเสกน้ำดื่มรักษาโรคได้โดยทางเจ้าของบ้าน และญาติ ๆ ต้องจัดระเบียบคนที่มารอรับน้ำเหล็กไหล มีการจัดบัตรคิวให้ ซึ่งบรรยากาศค่อนข้างวุ่นวายกันตั้งแต่ช่วงเช้า 

ทั้งนี้เฉพาะช่วงเช้าของวัน มีการรับบัตรคิวรอรับน้ำเหล็กไหลมากกว่า 5,000 คน คาดว่าตลอดทั้งวัน น่าจะมีคนเดินทางมาขอรับน้ำมากกว่า 10,000 คน อย่างแน่นอน ส่งผลให้บรรยากาศในบริเวณบ้านนายริน คึกคักอย่างมากชาวบ้านมาตั้งแผงขายของ ทั้งของกิน ของใช้ทั่วไป นอกจากนี้บางส่วนยังนำรถ จยย.ออกมาวิ่งรับส่งผู้คนจากจุดจอดรถที่กำหนดไว้ ห่างจากตัวบ้านประมาณ 1-2 กม. โดยมีการจัดที่จอดรถให้บริการคันละ 40 บาท รถ จยย.จะให้บริการประชาชนหัวละ 20 บาท วิ่งไปส่งที่บ้านของนายริน 

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ ส่งกำลังตำรวจ เข้ามาคอยดูแลในเรื่องของความปลอดภัย นอกจากนี้วันเดียวกัน จนท.สาธารณสุข จ.กระบี่ ส่งเภสัชกร และ จนท.สสจ. พร้อมกับฝ่ายปกครอง เดินทางมาเก็บตัวอย่างน้ำดื่มที่ผ่านการปลุกเสกแล้วจำนวน 24 ขวด เพื่อนำกลับไปตรวจในห้องแล็บ เพื่อดูในเรื่องของความสะอาด และสุขอนามัย ว่าน้ำดังกล่าวมีการปนเปื้อนเชื้อโรค หรือแบคทีเรียหรือไม่ โดยทางเจ้าของบ้านเองก็ให้ความร่วมมือกับ จนท.เป็นอย่างดี นอกจากนี้ จนท.ยังเข้าไปตรวจสอบภายในห้องประกอบพิธีปลุกเสก พบมีการติดตั้งถังน้ำขนาดใหญ่ มีระบบสูบน้ำจากถัง ต่อท่อไปยังจุดกรอกน้ำลงขวด ในระยะ 1 ชั่วโมง สามารถกอกน้ำได้ประมาณ 300 ขวด 

นายริน เจ้าของเหล็กไหลกล่าวว่า ตนไม่ได้สร้างเรื่องขึ้นมา แต่ที่ทำน้ำเหล็กไหลนั้นเพราะตอนแรกตนทำให้บิดาดื่ม เมื่อบิดาหายเลยมีคนมาขอให้ทำ ตอนแรกไม่อยากจะทำ แต่คนมาขอก็ต้องทำให้เพราะเป็นครูหมอยา ส่วนน้ำนั้นเป็นน้ำของโรงน้ำที่นำมาเพื่อที่จะจำหน่ายให้ชาวบ้านได้มาทำพิธีเพื่อที่จะได้น้ำที่สะอาดจริงๆ การที่จะหาผลประโยชน์จากความเชื่อศรัทธาหรือไม่นั้น ต้องไปถามชาวบ้านที่เดินทางมา ตนทำหน้าที่แค่ปลุกเสกให้เท่านั้น ส่วนการที่จะให้หยุดหรือไม่นั้น ต้องอยู่ที่ชาวบ้านว่าจะมาหรือไม่เป็นเรื่องของชาวบ้าน

ด้าน จนท.เภสัชกรจาก สสจ.กระบี่ กล่าวว่า วันนี้ได้มาเก็บตัวอย่างน้ำที่มีการทำพิธีปลุกเสกจำนวน 24 ขวดเพื่อส่งไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ภูเก็ตว่ามีสารใดปนเปื้อนหรือไม่ เป็นอันตรายต่อผู้ดื่มหรือไม่ แต่จากการดูด้วยสายตาพบว่า มีการตั้งเครื่องกรองน้ำอีกทีในห้องทำพิธีพบว่า เป็นเครื่องกรองน้ำ ที่ทำให้น้ำสะอาด เช่นสี หรือกลิ่นเท่านั้น แต่ไม่ได้ฆ่าเชื้อ ส่วนน้ำที่นำมาทำนั้น เป็นน้ำที่มาจากโรงงานผลิตน้ำดื่มที่ผ่าน อย.มาแล้ว ในส่วนนี้คงต้องรอการตรวจพิสูจน์ ซึ่งจะทราบผลใน 21 วัน

ส่วน พ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล รอง ผบก.ภ. จว.กระบี่ ได้เข้าไปหารือกับทางนายรินและทางญาติ หลังจากพบว่าวันนี้มีผู้ที่เดินทางมาเป็นจำนวนมาก โดยทาง รอง ผบก.ได้สอบถามว่า ให้จัดคิวทางออนไลน์ได้หรือไม่ เพื่อที่จะให้รองรับผู้คนให้ทยอยเดินทางมาเป็นรอบอาจจะรอบละ 1 พันคน ทางญาติของนายริน รับว่าจะหาแนวทางดู ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นทาง รอง ผบก.ระบุว่า จะจัดกำลัง จนท.มาคอยดูแล และทางครอบครัวนายริน จะต้องหาแนวทางรับผู้ที่เดินทางมาแล้วเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น วันนี้มีคนเป็นลม หากอาการหนักจะทำอย่างไรเป็นต้น

สำหรับกรณีการทำพิธีแล้วให้นำน้ำไปจัดส่งเป็นจุดนั้นทางญาตินายริน ระบุว่าคงเป็นไปไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และอาจจะถูกมองว่าเป็นเรื่องการทำธุรกิจขึ้นมาอีก ต่อไปอาจจะกำหนดแค่ 2 พันคิว แต่ในเมื่อชาวบ้านเดินทางมาแล้วก็ต้องทำให้อีก อย่างไรก็ตามจะได้มีการหารือกันอีกครั้งหนึ่ง.