จวก จนท.รัฐทำพัง โควิด-19 ระลอก 2 ไม่ใส่ใจขน “แรงงานเถื่อน”
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, ภูเก็ต, ทั่วไป, ภาคใต้,
โฟสเมื่อ : 30 ธ.ค. 2563, 18:28 น. อ่าน : 4,299 การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ระลอกใหม่ ในประเทศไทย
จากการที่ขบวนการขนแรงงานเถื่อนลักลอบขนแรงงานจากประเทศเมียนมาเข้ามาทำงานตามจังหวัดต่างๆ
โดยเฉพาะที่ จ.สมุทรสาคร และติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นำมาแพร่ระบาดในประเทศไทย
จนกระทั่งมีการตรวจพบ สร้างความตื่นกลัวจากประชาชนทั่วไป
และกลายเป็นฝันร้ายสำหรับภาคเอกชนไทยที่เตรียมฟื้นเศรษฐกิจจากการจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
มาประสบวิกฤตโควิด-9 ระลอกใหม่ทำให้คนกลัวไม่กล้าออกมาจับจ่ายซื้อของและท่องเที่ยว
แม้ว่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
จะออกมาแถลงข่าวให้ชาวไทยทำใจและร่วมมือฝ่าวิกฤตโควิด-19 ระลอกใหม่ ไปด้วยกัน
และให้เห็นใจแรงงานชาวเมียนมาที่เข้ามาอย่างผิดกฎหมาย จากการที่นายหน้านำเข้ามา
โดยรัฐบาลให้การดูแลเพื่อมนุษยธรรมไม่ให้แรงงานเหล่านี้เคลื่อนย้ายไปที่อื่นให้อยู่ในพัก
เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ไปช่วยเหลือในการรักษาและออกหนังสืออนุโลมให้ทำงานได้
เป็นการสกัดกั้นการหลบหนีไปแพร่กระจายเชื้อไวรัสในที่ต่างๆ
ในขณะที่ภาคเอกชนที่เฝ้าระวังป้องกันไวรัสโควิด-19 กันอย่างเต็มที่
พากันตำหนิเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปล่อยปละละเลยและไม่ใส่ใจ
ปล่อยให้ขบวนการขนแรงงานเถื่อนลักลอบนำแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา และจ่ายค่าหัวให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งๆ
ที่พื้นที่ชายแดน 5 กิโลเมตร และด่านธรรมชาติอยู่ในความดูแลของทหาร
ส่วนด่านถาวรมีทั้ง ตม. ตำรวจ ฝ่ายปกครองและแรงงานดูแล
ขบวนการเหล่านี้หลุดรอดสายตามาได้อย่างไร
ส่วนจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19
จนทำให้การท่องเที่ยวเสียหายย่อยยับ จนมีการประกาศขายกิจการโรงแรมและธุรกิจต่างๆ
จำนวนมาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวเริ่มปรับตัวได้แล้ว ช่วงวันหยุดยาว วันที่ 10-13
ธ.ค.ที่ผ่านมา มีคนไปเที่ยวภูเก็ต มียอดเงินสะพัดกว่า 400 ล้านบาท
ปรากฏว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ กลับไม่ได้ผลกระทบมากนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวบริเวณถนนถลางและย่านเมืองเก่าภูเก็ต
ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต ยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติบางส่วน
ออกมาเดินชมความงามของอาคารสไตล์ชิโนโปรตุกีส และหาซื้อของกิน ของที่ระลึก
ถึงแม้จะมีกระแสข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ต เป็นรายที่ 3
ซึ่ง นทท.ส่วนใหญ่มีการสวมใส่หน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่างในการเดินมากขึ้น
ขณะที่ผู้ประกอบการก็มีการปรับตัว ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย
จัดเจลล้างมือให้กับลูกค้าและจัดให้มีการลงทะเบียนกรณีเข้าใช้บริการ
นายฐิติวัสส์
หรือ แฟรงค์ อายุ 26 ปี หนึ่งในนักท่องเที่ยว กล่าวว่า ตนเดินทางจากกรุงเทพมหานคร
มาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วยเพื่อนรวม
9 คน และมีกำหนดเดินทางกลับวันที่ 23 ธ.ค. โดยก่อนจะเดินทางมาก็พยายามติดตามข่าวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างต่อเนื่อง รวมถึงขณะที่อยู่ที่ภูเก็ต แต่ก็ไม่รู้สึกกังวล
ทั้งนี้ได้ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทั้งใส่แมส ล้างมือ ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์
ซึ่งเพื่อนๆ ในกลุ่มเองก็ไม่ได้กังวลแต่อย่างใด สำหรับ
นทท.ที่คิดจะเดินทางท่องเที่ยวขณะนี้ ตนเองคิดว่าควรชะลอการเดินทางไว้ก่อน
รอให้สถานการณ์คลี่คลายไปก่อน เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าใครไปไหนมาบ้าง
อาจจะมีสัมผัสที่เสี่ยงมาบ้าง
จึงคิดว่าควรอยู่บ้านดูแลตัวเองให้ดีก่อนค่อยออกมาเที่ยวหลังมีการระบาดน้อยลง
ส่วนที่หลายจังหวัดเริ่มประกาศยกเลิกเคาท์ดาวน์และกิจกรรมปีใหม่นั้นตนเองคิดว่าไม่ได้มีผลอะไร
เนื่องจากไม่ได้อินกับเทศกาลใดๆ อยู่แล้ว หากถามถึงมาตรการต่างๆ
ในการรับมือโควิด-19 ของจังหวัดภูเก็ต จากที่ได้สัมผัสถือว่าดีในระดับหนึ่ง
ซึ่งช่วงที่อยู่ในภูเก็ตพบว่าบางแหล่งท่องเที่ยวก็มี นทท.น้อย ไม่แออัด ขณะที่ในตัวเมือง
ร้านค้า ร้านอาหารก็มีมาตรการที่ดีในระดับหนึ่ง
ด้าน
นายประสิทธิ์ และ นางสุภาพ
สองสามีภรรยาชาวกรุงเทพมหานครที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังถนนถลาง ได้เปิดเผยว่า
เพิ่งเดินทางมาถึงภูเก็ตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และจะเดินทางกลับในวันศุกร์ที่ 25
ธ.ค.นี้ ได้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับโควิดตลอด ไม่ได้กังวลแต่อย่างใด
เพราะปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัง คือ สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง
และทราบข่าวที่ภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อแล้ว คิดว่ายังน้อย ยังห่างตัวเรา
จึงไม่มีผลกระทบ อยากฝากถึงผู้ที่จะมาท่องเที่ยวให้เตรียมตัวให้พร้อม
ขณะที่ผู้ประกอบการต่างๆ
ในพื้นที่ถนนถลาง เปิดเผยว่า เริ่มได้รับผลกระทบเนื่องจาก นทท.ลดน้อยลงจาก 1-2
สัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น นางสาวเจนจิรา หรือ อีฟ พนักงานร้านเครื่องประดับ
เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่บริเวณถนนถลางเริ่มน้อยลง
หลังมีกระแสข่าวการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ รวมถึงที่พบผู้ป่วยที่ภูเก็ต ส่งผลให้
นทท.เริ่มกังวล เดินทางมาเที่ยวน้อยลง ขณะที่ตนเองก็รู้สึกกังวล
มีการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ ใช้เจลแอลกอฮอล์บ่อยขึ้น ขณะที่
นทท.บางส่วนก็มีการสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 และจำนวน นทท.ที่ซื้อสินค้า ซึ่งก็คิดว่าน่าจะมีความกังวลไม่ใช่น้อย
อยากฝากให้ นทท.สวมใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือให้บ่อยขึ้น
ทางด้าน
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า
สถานการณ์การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบกระเทือนพอสมควร เนื่องจากก่อนหน้านี้ภาคการท่องเที่ยวภูเก็ตได้มีปัญหาเรื่องการชะลอการใช้สิทธิ์ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
เนื่องจากพบปัญหา และภาครัฐอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทำให้ยอดจองห้องพักใหม่ไม่เข้า
หลายจังหวัดได้งดการเดินทาง
เมื่อมาเจอเหตุการณ์ครั้งนี้ซ้ำทำให้ภาคธุรกิจหยุดนิ่งต่อเนื่อง แต่ความเสียหายนั้นยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียดชัดเจนว่ามีมากน้อยเพียงใด
โดยส่วนตัวก็รู้สึกตกใจเพราะก่อนหน้านี้ก็ได้เข้าร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวเพื่อหาแนวทางรับมือมาโดยตลอด
กระทั่งมาเกิดปัญหาขึ้นใหม่ขึ้น ขณะนี้จึงต้องรอดูสถานการณ์ว่าจะเป็นเช่นไรต่อไป
ทั้งนี้จากที่ตนเองได้หารือกับภาคธุรกิจเอกชน
ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า
“พร้อมใจกันสนับสนุนการทำงานของภาครัฐในทุกมิติอย่างเต็มที่ เช่นครั้งที่ผ่านมา”
โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าครั้งนี้ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่เล็ก สั้น และควบคุมได้
ตนเองอยากเรียนไปถึงพี่น้องประชาชนว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นแค่ปัญหาของภาครัฐ
แต่เป็นปัญหาของทุกคน ทุกภาคส่วน ที่จะต้องช่วยกัน ภูเก็ตจะรอด
แต่รอดได้ไม่ใช่ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องช่วยกันทุกคน”
ขณะเดียวกันก็ขอวิงวอนไปถึงผู้ที่แชร์ข่าวเฟคนิวส์ต่างๆ ที่จะทำให้ภูเก็ตแย่ลง
ถ้าใครได้รับนั้นต้องขอให้หยุดแชร์ ซึ่งพบว่าขณะนี้มีจำนวนมาก
“สุดท้ายที่อยากจะเน้นย้ำคือธุรกิจท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนก่อน
เรื่องทำมาหากินเป็นเรื่องรอง
ฉะนั้นเราจะไม่เอาเรื่องการท่องเที่ยวมาเป็นเครื่องมือต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น”
ขอให้ราชการทำงานได้อย่างเต็มที่ ภาคธุรกิจเองก็พร้อมจะสนันสนุน
เมื่อพ้นวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ไปแล้วค่อยมาตั้งหลักกันใหม่” นายภูมิกิตต์
กล่าว.