จังหวัดนนทบุรี และสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี จับมือ เอสซีจี พร้อมรับมือมาตรการผ่อนปรน ป้องกันการแพร่ระบาดซ้ำของไวรัสโควิด-19 หลังเปิดเมืองด้วย “ONLINE CLINIC” บริการทางการแพทย์ออนไลน์แบบครบวงจร
นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย นายแพทย์พนัส โสภณพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และนายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล” ระหว่างจังหวัดนนทบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และเอสซีจี เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2563 ด้วยการนำโมบายแอปพลิเคชัน ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับคัดกรองและดูแลรักษาคนไข้โควิด-19 ผ่านทางออนไลน์ มาใช้กับเครือข่ายโรงพยาบาลในจังหวัด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 ของผู้เข้ารับการตรวจและบุคลากรทางการแพทย์ระหว่างขั้นตอนการวินิจฉัยและรักษาโรคโดยไม่จำเป็น อีกทั้งช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้เร็วและทั่วถึงมากขึ้น รวมถึงช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในการดูแลและติดตามอาการของคนไข้จนรักษาหายขาด
หลังจากที่ “เอสซีจี” ได้พัฒนาและส่งมอบนวัตกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลาย เพื่อใช้ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 สำหรับการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ล่าสุด “เอสซีจี” ได้สานต่อนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการเตรียมพร้อมรับมือมาตรการผ่อนปรนในระยะต่อมา ด้วยโมบายแอปพลิเคชัน “ONLINE CLINIC” (ออนไลน์ คลินิก) ที่สามารถตอบโจทย์ในการคัดกรอง การให้บริการดูแลรักษา และการติดตามคนไข้ได้อย่างครบวงจร เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับการคัดกรองและดูแลอย่างรวด ทันเวลา พร้อมป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดซ้ำของเชื้อโควิด-19
นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวถึงสถานการณ์ของโควิด-19 ในปัจจุบันว่า “ส่วนใหญ่ผู้ที่มาตรวจคัดกรองโควิด-19 ที่โรงพยาบาล ต้องมาเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยไม่จำเป็น ทางจังหวัดนนทบุรีและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกฝ่ายเป็นสำคัญ จึงมีโครงการริเริ่มนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อลดความเสี่ยงให้กับประชาชนที่เข้ารับการตรวจ และบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนักต่อเนื่องมาเป็นเวลามากกว่า 1 เดือน”
นายแพทย์พนัส โสภณพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมให้กับโรงพยาบาลในสังกัดสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี รวมถึงประชาชนในพื้นที่ และการสร้างให้เกิด New Normal ว่า “การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเข้ารับบริการทางการแพทย์และวิธีการในการดูแลรับมือคนไข้ของโรงพยาบาล ด้วยการนำออนไลน์แอปพลิเคชันเข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความรวดเร็ว ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้เร็วและทั่วถึงมากขึ้น อีกทั้งช่วยให้โรงพยาบาลสามารถติดตามดูแลคนไข้ได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้สามารถบริหารจัดการทรัพยากรที่มีจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย”
ทางด้าน นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวถึงแอปพลิเคชัน “ONLINE CLINIC” ซึ่งทางเอสซีจี โดยหน่วยงาน Living Solution (ลีฟวิ่ง โซลูชัน) ได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์พัฒนาขึ้นว่า “แอปฯ นี้ ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแล้วเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่สงสัยว่าตนติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ โดยสามารถทำแบบประเมินตนเอง รวมถึงพูดคุยกับแพทย์หรือพยาบาลเพื่อประเมินความเสี่ยงผ่านวิดีโอคอล และจองคิวเพื่อเข้ารับการตรวจ หากตรวจแล้วพบว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงก็จะมีการเชื่อมต่อการรักษาตัวกับโรงพยาบาลใกล้บ้านที่เลือกรับบริการได้ทันที โดยจะเริ่มต้นสำหรับโรงพยาบาลในสังกัดของสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี 8 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลปากเกร็ด โรงพยาบาลบางกรวย โรงพยาบาลบางบัวทอง โรงพยาบาลบางบัวทอง 2 โรงพยาบาลบางใหญ่ โรงพยาบาลไทรน้อย และศูนย์บริการ การแพทย์นนทบุรี”