จัดใหญ่งาน “Gems & Jewelry Fest in Phuket” คาดเงินสะพัด 100 ล้าน

หมวดหมู่ : การเมือง, เศรษฐกิจ, ภูเก็ต,

อ่าน : 859
Gems & Jewelry Fest in Phuket โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้
จัดใหญ่งาน “Gems & Jewelry Fest in Phuket”   คาดเงินสะพัด 100 ล้าน

ภูเก็ต-รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ แถลงข่าว จัดงาน “Gems & Jewelry Fest in Phuket” บูรณาการการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันที่ จ.ภูเก็ต โดยเตรียมจัดใหญ่ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์และกระตุ้นยอดขาย เครื่องประดับและอัญมณีไทย คาดคนร่วมงานกว่า 4,000 คนเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท


 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา15.00นวันนี้ (13 ก.ย. 2564) นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี ไปเป็นประธานการแถลงข่าวเตรียมจัดงาน “Gems & Jewelry Fest in Phuket” บูรณาการการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้  อ. เมือง จ. ภูเก็ต โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนเข้าร่วมอย่างคึกคัก และยึดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเร่งครัด


นายจุรินทร์  กล่าวว่า อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากมีผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ถึงกว่าร้อยละ 90 เกิดการจ้างเกือบ 1 ล้านคนทั่วประเทศ โดยเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกถึงร้อยละ 80 ถือเป็นอุตสาหกรรมที่นำเงินตราต่างประเทศเข้าสู่ประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก  อย่างไรก็ดี วิกฤติเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเป็นอย่างมาก โดยในปี 2563 การส่งออกจิวเวลรี่ของไทยติดลบถึงร้อยละ -39.99 แต่ประเทศไทยยังคงครองอันดับ 1 และ 3 ประเทศผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินและพลอยสีของโลกไว้ได้ เพื่อเร่งรัดและผลักดันการส่งออก รองรับเศรษฐกิจโลกที่หดตัวจากปัญหาต่าง ๆ รวมถึงผลกระทบจากวิกฤติโควิดที่เกิดขึ้น 


หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงพาณิชย์จึงเร่งปรับยุทธศาสตร์การดำเนินงานภายใต้ 14 แผนงานหลักที่ครอบคลุมการทำงานด้านการตลาดเชิงรุกในหลากหลายมิติ รวมถึงการเร่งรัดการส่งออกในยุค New Normal โดยการใช้นวัตกรรมใหม่ทางการตลาดด้วยการปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมสู่ออนไลน์ซึ่งรวมถึงได้ปรับรูปแบบการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับสู่งานแสดงสินค้าเสมือนจริงหรือ BGJF Virtual Trade Fair ด้วย โดยตั้งเป้าหมายการส่งออกอยู่ที่ร้อยละ 5 และจากการที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่องภายใต้แผนการฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงบูรณาการการท่องเที่ยวด้วย


การจัดโครงการส่งเสริมการตลาดสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ “Gems & Jewelry Fest in Phuket” นอกจากเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นภาคใต้แล้ว ยังเป็นการแสดงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในฐานะเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับและ Supply Chain (ห่วงโซ่อุปทาน) ที่สำคัญของโลกอีกด้วย 


นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า โครงการ “Gems & Jewelry Fest in Phuket” นี้เป็นการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์  โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กำหนดจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างภาพลักษณ์และกระตุ้นยอดขายให้กับอุตสาหกรรมเครื่องประดับและอัญมณีเพื่อการส่งออกของไทย เพื่อช่วยผู้ประกอบการส่งออกกลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้สามารถฟันฝ่าวิกฤติโควิดในครั้งนี้ไปได้โดยกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้เก็บค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการแต่อย่างใด 


สำหรับผู้เข้าร่วม 2 กิจกรรมหลัก ที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายประกอบด้วย กิจกรรม “Gems & Jewelry Fest in Phuket” ซึ่งเป็นงานเจรจาการค้าและจำหน่ายปลีก กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 ธันวาคม 2564 ณ ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต โดยจะมีผู้นำเข้าต่างประเทศผ่านฑูตพาณิชย์ทั่วโลก เพื่อมาเข้าร่วมเจรจาการค้าภายในงานและเปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาชมและเลือกซื้อสินค้าตลอดงาน และกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์ หรือ Online Business Matching สำหรับผู้ซื้อผู้นำเข้าต่างประเทศที่ไม่สามารถเดินทางมาภูเก็ตได้ ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดให้มีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าต่างประเทศเพื่อสร้างช่องทางและโอกาสในการส่งออกให้แก่ผู้ประกอบการไทยผ่านระบบออนไลน์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พ.ย. – 3 ธ.ค. 2564   


นายจุรินทร์ กล่าวย้ำว่า คาดว่าโครงการนี้จะมีจำนวนผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมประมาณ 200 รายและมีผู้นำเข้าต่างประเทศ นักท่องเที่ยว ตลอดจนประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมรวมกว่า 4,000 ราย รวมถึงก่อให้เกิดรายได้จากการค้าอัญมณีและเครื่องประดับเพื่อการส่งออกและสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจากธุรกิจท้องถิ่นที่เกี่ยวเนื่องรวมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท.














อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :