จับหนุ่มขายกัญชา อ้างเพื่อนให้มาขายใช้หนี้

หมวดหมู่ : ยะลา,

อ่าน : 535
จับหนุ่มขายกัญชา
จับหนุ่มขายกัญชา อ้างเพื่อนให้มาขายใช้หนี้

ยะลา-จับหนุ่มขายกัญชา แต่อ้างว่าเพื่อนนำกัญชา 2 กิโลกรัม มาให้ขายเพื่อเป็นการใช้หนี้ ส่วนยาบ้าเอาไว้เสพเอง

        การจับกุมยาเสพติดรายนี้ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2564 เวลา 12.45 น. ร.ต.อ.มาตุภูมิ ธรรมเนียม หัวหน้าชุดปฏิบัติการการข่าว ร้อย ฉก.ตชด.445 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า กลุ่มวัยรุ่นมักใช้เส้นทางถนนบ้านกม.17-บ้านยะรม ลักลอบขนยาเสพติดในยามค่ำคืน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้นจับกุมของเจ้าหน้าที่ จึงได้ประสาน พ.ต.ท.อรรถพล  จินตาคม ผบ.ร้อย ตชด.445 นายพิชัย แก้วจำรัส ปลัดอำเภอเบตง รับผิดชอบงานยาเสพติด นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.445, ฉก.ตชด.44, อส.อำเภอเบตง ร่วมตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณริมถนนหน้าป้อม ชรบ.(ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ) หมู่6 บ้าน กม.17 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยและสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด 

        ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตั้งจุดตรวจอยู่นั้นได้มีนายสุรชัย หรือรุ้ง สุริสาร อายุ 19 ปี อยู่บ้าน 39/12 หมู่3 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น สกู๊ปปี้ ไอ สีฟ้า-ขาว หมายเลขทะเบียน กงย เบตง 65 ผ่านมา โดยมีถุงพลาสติกสีฟ้าภายในมีสิ่งของสีดำ วางอยู่ที่ตั้งเท้าของรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น เมื่อเปิดถุงออกพบว่าเป็นกัญชาอัดแท่งบรรจุอยู่ในฟอยล์สีทอง ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำ ชั่งน้ำหนักรวมหีบห่อประมาณ 400 กรัม เจ้าหน้าที่ยังค้นพบยาบ้าจำนวน 1 เม็ด ซึ่งนายสุรชัย กำอยู่ในมือข้างซ้าย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจค้นบ้านพักของนายสุรชัย ได้พบกัญชาอีก 47.47 กรัม ยาบ้าอีกจำนวน 2 เม็ด และอุปกรณ์การเสพกัญชา อยู่ภายในห้องนอน 

        จากการสอบถามเบื้องต้น นายสุรชัยรับสารภาพว่ากำลังจะนำกัญชาไปส่งให้เพื่อน ส่วนยาบ้าจะนำไปเสพกับเพื่อน กัญชาที่ถูกจับกุมมีเพื่อนที่ติดหนี้ตนนำมาให้ 2 กิโลกรัม เพื่อเป็นการใช้หนี้ ตนจึงนำไปขาย โดยจะขายกิโลกรัมละ 10,000 บาท แต่หากมีลูกค้าขอให้แบ่งขายเป็นขีด ตนก็จะขาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงตั้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งนำตัวและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เบตง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.



อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :