จับ “ไข่หมูก”อดีตโจรชื่อดัง เรียกค่าคุ้มครองเจ้าของสวนทุเรียน -แต่ปฏิเสธ

หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,

อ่าน : 505
บิ๊กโจ๊ก เจิม เส้งเอียด”(ไข่หมูก ) อดีตโจรชื่อดังภาคใต้
จับ “ไข่หมูก”อดีตโจรชื่อดัง เรียกค่าคุ้มครองเจ้าของสวนทุเรียน -แต่ปฏิเสธ

พัทลุง-“บิ๊กโจ๊ก” จับแล้ว“เจิม เส้งเอียด”(ไข่หมูก ) อดีตโจรชื่อดังภาคใต้ ข้อหาเรียกกรรโชกทรัพย์(เรียกค่าคุ้ม ครอง) เจ้าของสวนทุเรียนในพื้นที่  อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง หลังศาลอนุมัติหมายจับ แต่เจ้าตัวปฏิเสธ

 

กรณีตัวแทนกลุ่มชาวบ้านผู้ปลูกทุเรียนในพื้นที่ ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง จำนวน 7 คน เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน จ.พัทลุง กรณีถูกกลุ่มคนร้ายเข้าทำลายต้นทุเรียนโดยการปอกเปลือกตรงโคน แล้วใช้น้ำกรดรดโคนเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยคนร้ายได้ทิ้งจดหมายเรียกค่าคุ้มครองให้ติดต่อจ่ายเงินให้กับลูกพี่ของคนร้าย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565  และเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และประธานภาคใต้ พร้อมพวก ได้เข้ายื่นหนังสื่อผ่านไปยัง ผบ.ตร. เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาอาชญากรรมและการเรียกค่าคุ้มครองที่ จ.พัทลุง ต่อมา  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ตำรวจติดตามเรื่องนี้ และ พล.ต.อ.ดำรง กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้มอบหมายให พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร. มาติดตามเร่ิองนี้


ความคืบหน่าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตอนดึกย่างเข้าวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์  ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภาคิน ณ ระนอง รอง ผบก. ภ.จว.พัทลุง  พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์  ผกก.สส.ภ.จว. พัทลุง พ.ต.ต.สนธยา ด้วงเพ็ชร สว.กก.สส.ภ.จว. พัทลุง ร.ต.อ.สุรพงค์ เธียรสุรารักษ์ รอง สว.กก. สส.ภ.จว.พัทลุง  ร.ต.อ.ธีรพงศ์  วิชิต รอง สว.กก. สส.ภ.จว.พัทลุง รอง หน.ชป.2 พร้อมด้วยกำลังฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตร.ชุดสืบสวน 2 บก.สส.ภ.9 , ชุดสืบสวน 3 บก.สส.ภ.9 , ชุดสืบสวน สภ.ป่าพะยอม  ร่วมกันจับกุมตัว  นายเจิม หรือไข่หมูก เส้งเอียด อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 5 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง  


การเข้าจับกุมนายเติม หรือไข่หมูก ครั่งนี้ เป็นการเข้าจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ที่จ.402/2565ลง  16 พ.ย. 2565  ตามความผิดฐาน"พยายามกรรโชกทรัพย์, ทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นพืชหรือผลของกสิกร บุกรุก  โดยในเบื้องต้นนายเจิม (ไข่หมูก) ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา  จึงได้นำตัวไปดำเนินการตรามกฏหมายต่อไป  


จากนั้นตอนเย็นวันเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต. กฤษฎา แก้วจันดี รองผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง พร้อมพวก  ได้ร่วมกันกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายเจิม  เส้งเอียด  ที่ห้องประชุมตำรวจภุธรจังหวัดพัทลุง โดย พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ฯ กล่าวในตอนหนึ่งว่า คดีดังกล่าว เป็นคดีที่น่าสนใจของสื่อมวลชนและประชาชน อีกทั้งผู้ก่อเหตุมีการเขียนข้อความข่มขู่ว่าจะทำอันตรายต่อทรัพย์สินของประชาชน สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ ดังนั้น จึงได้มีการเร่งรัดสืบสวนจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุโดยเร่งด่วน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ จำนวน 1 รายคือนายเจิม เส้งเอียด หรือไข่หมูก 


“จากนี้ไปจะสั่งการให้สืบสวนหาตัวกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติมต่อไป โดยเชื่อว่าก่อนหน้านี้ในพื้นที่ก็มีการเรียกค่าครองดังกล่าวมาโดยตลอด แต่ไม่มีใครกล้าออกมาให้ข้อมูลและแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากหวั่นความปลอดภัย  เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเร่งรัดจับผู้ต้องหา เนื่องจากเรื่องแบบนี้มันโบราณสร้างความเสียหายกับจังหวัดพัทลุงสูญเสียภาพลักษณ์ที่กำลังบูมเรื่องการท่องเที่ยว”พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าว

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้กล่าวอีกว่า จากการไล่หาข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนได้นำผู้ต้องสงสัยจำนวนหลายรายซึ่งเป็นญาติและหลานของนายเจิม เส้งเอียด หรือไข่หมูก เปรียบเทียบลายมือที่เขียนก็พบว่าตรงกับชายมมือของหลานนายเจิม พร้อมกันนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำหลาน มาสอบสวนโดยให้การว่านายเจิม เป็นคนให้เขียนข้อมูลดังกล่าว ซึ่งนายเจิมเคยมีคดีในลักษณะดังกล่าวหลายคดี รวมโทษจำคุกมาแล้ว 32 ปี สำหรับคดีนี้จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่หาผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดี ซึ่งเชื่อว่ามีมากกว่า 1 คน ต้องจับกุมให้หมด ส่วนนายเจิมนั้นในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่รู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข


ด้าน พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ. จว.พัทลุง เปิดเผยว่า สำหรับนายเจิม เคยเป็นอดีตโจรชื่อดังในภาคใต้ เคยก่อคดีต่างๆ และตกเป็นผู้ต้องหา 7 คดี  ได้แก่คดีในพื้นที่ สภ.รัษฎา จ.ตรัง  2 คดี, ในพื้นที่ สภ.ห้วยยอดจ.ตรัง  1 คดี ในพื้นที่ สภ.ชะอวด จ.นตรศรีธรรมร่าช 1 คดี  ในพื้นที่  สภ.เบตง  จ.ยะลา 1 คดี ในพื้นที่  สภ.ท่าชนะ  จ.สุราษฎร์ธานี 1  คดี  และในพื้นที่  อ.ป่าพะยอม  จ.พัทลุง  เมื่อปี  2564 อีก 1 คดี สำหรับข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.