จับ 20 แรงงานเมียนมาลอบข้ามแดนจากมาเลย์เข้าไทยที่เบตง

ยะลา-จับ 20 แรงงานเมียนมา เสียค่าหัวให้นายหน้าลักลอบเข้าเมือง เดินป่าจากมาเลเซียลอบเข้าไทยทางธรรมชาติชาวบ้านสงสัยเจ้าหน้าที่รัฐอาจมีเอี่ยวรู้เห็นด้วย

ยะลา-จับแรงงานเมียนมา 20 คน ลักลอบเข้าเมือง ยอมรับเสียหัวละ 2,800-3,000 ริงกิต ให้นายหน้านำกลับประเทศ 2 คนไทยที่ขนรับสารภาพ ได้ค่าจ้างคนละ 1,000 บาท ให้ไปส่งท้ายด่านพรมแดนเบตง จะมีคนมารับช่วงต่อคาดเป็นขบวนการ ชาวบ้านสงสัยอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่เอี่ยว

เมื่อวันที่ 22 พ.ย.65 เวลา 01.15 น. ร.ต.ท. ณัฐธีร์ ปัญจสิริวิทย์ รอง ผบ.ฉก ตชด.445 สืบทราบว่าจะมีการลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ จึงรายงานให้ พ.ต.ท.อรรถพล จินตาคม ผบ.ร้อย ตชด.445 และร.ต.อ.มาตุภูมิ ธรรเนียม ผบ.ร้อย ฉก.ตชด.445 รับทราบ พร้อมประสาน พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตงนายพิชัย แก้วจำรัส ปลัดอำเภอเบตง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เบตง, ตชด.445 ชุดเฝ้าตรวจชายแดน4406, ทหาร, อส.อำเภอเบตง เพิ่มความเข้มงวด ตรวจตรา ตั้งด่านตรวจ บริเวณแนวชายแดนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา โดยเฉพาะเส้นทางถนนเลียบชายแดนไทย-มาเลเซีย ถนนสุขยางค์ เส้นเบตง-ด่านพรมแดน

ต่อมาขณะที่ เจ้าหน้าที่ ตชด. กำลังตั้งด่านตรวจ ที่บริเวณหน้าฐานปฏิบัติการชุดเฝ้าตรวจชายแดน4406 บ้านสวนส้ม ถ.เลียบชายแดน ต.ธารน้ำทิพย์ ได้มีรถยนต์กระบะ สีขาว ทะเบียน 4968 ขอนแก่น ซึ่งเป็นรถรั้วมีผ้าใบปิดด้านหลังกระบะ ขับมาจากหลักเขต54A จำลอง มุ่งหน้าไปยังด่านพรมแดนเบตง เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดรถ ด้านในรถมีชาย 3 คน นั่งอยู่ โดยมีนายบุญฤทธิ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 ม.5 ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง เป็นคนขับ และมีนายอาทิตย์ รัตนสุภา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/1 ม02 ต.ธารน้ำทิตย์ อ.เบตง จ.ยะลา นั่งข้าง และอีกคนเป็นชายชาวเมียนมานั่งตรงกลาง ไม่มีเอกสารแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบอย่างละเอียด พอเปิดผ้าใบด้านหลังกระบะออกถึงกับตะลึง เพราะมีชาวเมียนมาจำนวน 19 คน เป็นหญิง 1 คน นั่งเบียดเสียดกันเหมือนปลากระป๋องอยู่ท้ายกระบะพร้อมเป้สัมภาระคนละใบ 2 ใบ ซึ่งคนที่พบเห็นต่างก็สงสัยว่านั่งกันไปได้อย่างไร

นายเบิร์ด อายุ 26 ปี แรงงานชาวเมียนมา เปิดเผยว่า ตนทำงานประมงในประเทศมาเลเซีย มา 7 ปีแล้วต้องการจะกลับบ้านไปเยี่ยมบิดามารดา จึงเสียเงินให้นายหน้า 2,800 ริงกิต เพื่อให้นำกลับประเทศ จากนั้นจะมีคนนำตนมาส่งเป็นทอดๆ เมื่อมาถึงพรมแดนประเทศมาเลเซีย มีชายไทย 2 คน เดินนำทางมาตามป่าใช้เวลาเดินประมาณ3-4 ชั่วโมง ก็มาถึงฝั่งไทย จากนั้นชายที่นำทางมาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไป แล้วบอกให้พวกตนคอยตรงใต้สะพานเดี๋ยวจะมีรถมารับ หลังจากมีรถมารับพวกตนก็ขึ้นรถมาตามทางจนถูกเจ้าหน้าที่จับกุม

นายอาทิตย์ คนไทยที่รับขนแรงงานเมียน มา เปิดเผยว่า มีคนมาว่าจ้างตนให้ไปรับคนที่บริเวณสะพาน ก่อนถึงหลังเขต 54A จำลอง ประมาณ 200 เมตร แล้วให้นำไปส่งบริเวณท้ายด่านพรมแดนเบตง จะมีคนมารับต่อ ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นแรงงานเมียนมา จึงชวนนายบุญฤทธิ์ให้ขับรถไปให้ โดยจะได้ค่าจ้างคนละ 1,000 บาท เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เบตง ดำเนินตามกฎหมายต่อไป

หลังจากที่มีการจับกุมแรงงานเมียนมา ถึง 2 ครั้ง ในช่วงระยะเวลา 2-3 เดือน ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างเริ่มสงสัยว่า อ.เบตง ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีแรงงานเมียนมาลักลอบเข้ามาเลย ทำไมช่วงหลังมานี้จึงมีแรงงานเมียนมาใช้ช่องทางเบตงในการลักลอบเข้าและออกไปยังประเทศมาเลเซีย หรือจะมีขบวนการลักลอบขนส่งแรงงานเมียนมา หากมีจริง ชาวบ้านก็คาดกันว่าอาจมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐบางหน่วยในพื้นที่ต้องรู้เห็นเป็นใจ 

นอกจากนี้มีกระแสข่าวว่า เวลามีการจับกุมมีเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานพยายามไม่ให้ร่วมชุดจับกุมดำเนินคดี อ้างว่าคนถูกจับมีพาสปอร์ต ชุดจับตั้งด่านจับไม่ได้เห็นแรงงานเมียนมาเดินเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ทั้งๆที่ตามเสื้อผ้าแรงงานเมียนมาก็เปรอะเปื้อนดินโคลน ตามร่างกายแขนขา ก็มีร่องรอยบาดแผลโดนทากกัด แรงงานเมียนมาที่ถูกจับกุมเหล่านั้น ก็ยอมรับกับชุดจับกุมว่าลักลอบเดินทางเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.