ภูเก็ต-“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ล่องใต้ประชุมทีมเซลส์แมนและภาคเอกชน จ.ภูเก็ตและพังงา รวมทั้งพาณิชย์จังหวัด เร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจฝั่งอันดามัน เผยภาคเกษตรไม่น่าห่วง แต่ภาคท่องเที่ยวต้องเยียวยาและเร่งเตรียมแผนรองรับการเปิดท่องเที่ยว 1 ก.ค.นี้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปประชุมร่วมกับทีมเซลส์แมนและภาคเอกชนจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา โดยมีพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต พังงา ภาคเอกชน ภูเก็ตและพังงา เข้าร่วม ณ ห้องประชุมโรงแรม JW Marriott Phuket Resort & Spa จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2564
ภายหลังการประชุมนายจุรินทร์เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญทีมเซลส์แมนจังหวัดภูเก็ตและพังงา รวมถึงภาคเอกชนทั้ง 2 จังหวัดมาร่วมหารือร่วมกัน ทั้งนี้เนื่องจากเศรษฐกิจของพื้นที่ฝั่งอันดามันโดยเฉพาะภูเก็ต1 และพังงานั้นขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก คือด้านการท่องเที่ยวและเกษตร ซึ่งในส่วนของเกษตรนั้นไม่น่าเป็นห่วง พืชผลทางการเกษตรเกือบทุกตัวราคาเป็นที่น่าพอใจ เช่น ยางพาราราคาอยู่ที่กิโลกรัมกว่า 60 บาท เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ปาล์มน้ำมันราคา 5-6 บาท ติดต่อกันเป็นเวลาเกือบปีแล้ว ซึ่งเป็นที่สูงกว่าหลายยุคที่ผ่านมาและเป็นราคาในภาพรวมที่ใจของเกษตรกรพอใจ รวมทั้งผลไม้ที่ราคาดีมากๆ ล่าสุดทราบข่าวว่ามังคุด ที่ จ.จันทบุรี ส่งออกไปต่างประเทศราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 200 บาท ทุเรียนกิโลกรัมละกว่า 100 บาท เป็นต้น และมีผลทำให้ตัวเลขการส่งออกดีขึ้นด้วย
“แต่ในขณะเดียวกันธุรกิจการท่องเที่ยวยังอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ จึงได้มีการหารือร่วมกันในวันนี้ ที่จะเตรียมการถึงมาตรการต่างๆในภาคปฏิบัติ เพื่อรองรับแผนการเปิดการท่องเที่ยวรับต่างชาติในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ตามโมเดล Phuket Sandbox ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงพื้นที่จังหวัดพังงาด้วย เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาพักที่ภูเก็ตครบ 7 วันแล้ว”นายจุรินทร์กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ภูเก็ตเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการได้รับการจัดสรรวัคซีนและปัจจัยอื่นๆ ด้วย วันนี้จึงได้ข้อสรุปรวมกัน 4 เรื่อง ที่ตนได้รับไปประสานกับทาง ศบค.และรัฐบาล เพื่อให้ภูเก็ตเดินไปตามแผนการเปิดเมือง คือ
1.ภาคเอกชนขอให้รัฐบาลจัดสรรวัคซีนให้ตามแผนที่กำหนดไว้ คือ ภูเก็ต จำนวน 930,000 โด๊ส ภายในเดือน เม.ย.- ส.ค.นี้ และพังงา 210,000 โด๊ส ภายในเดือน เม.ย.-ก.ย.นี้ เพื่อให้ทั้งภูเก็ตและพังงาได้เตรียมวางแผนในการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนได้ตามที่กำหนด
2.ขอให้จังหวัดพังงาเร่งปรับแผนโดยเร็วเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้สอดคล้องกับจังหวัดภูเก็ต เพราะการขายทัวร์หรือแผนการท่องเที่ยวกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศควรที่จะได้ขายร่วมกัน ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและพังงาควบคู่กันไป จึงจะมีส่วนในการช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้สนใจเดินทางมามากขึ้นในรูปแบบอันดามันคลัสเตอร์ ซึ่งจะได้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาอีกครั้งหนึ่งให้เร่งปรับแผนจะได้สอดคล้องกัน
3.ในการเดินทางมาหลังวันที่ 1 ก.ค. ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน จะมีเที่ยวบินตรงบินมาจากประเทศคู่สัญญาที่เราจะเปิดรับนักท่องเที่ยว เช่น อังกฤษ เยอรมัน รัสเซีย สหรัฐ อิสราเอล ฝรั่งเศส และกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย เป็นต้น สนามบินภูเก็ตจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางมาของแต่ละเที่ยวบิน ซึ่งบางครั้งอาจจะมาถึงตี 4 ตี 5 หรือว่าในช่วงเวลาที่ไม่ใช่เวลาทำงานปกติ สนามบินภูเก็ตก็มีหน้าที่เตรียมบุคลากรทั้งหมดให้พร้อมสำหรับการต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในขณะนี้ทราบว่าติดขัดอยู่บ้างสำหรับบุคลากรในบางหน่วยงาน เช่น ด่านควบคุมโรค จะช่วยประสานกับกระทรวงสาธารณสุขต่อไป ว่าเมื่อถึงเวลานั้นก็ขอให้มีบุคลากรให้พร้อมจะได้ไม่ติดขัดไปถึงกลไกอื่นๆ ในการรับนักท่องเที่ยวที่สนามบินด้วย
4.จังหวัดภูเก็ตและพังงาจะทำแผนงานไทยเที่ยวไทยร่วมกันเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม สามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวทั้งสองจังหวัดได้ เพื่อให้เกิดความสะดวกกับนักท่องเที่ยวคนไทยตามนโยบายรัฐบาลต่อไป ส่วนจังหวัดอันดามันอื่นๆ เช่น กระบี่ จะถือโอกาสประชุมร่วมกัน 3 จังหวัด หรือ 4-5 จังหวัดอันดามันอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อที่จะเข้สมามาช่วยเสริมหรือช่วยเติมในส่วนที่ผมจะสามารถทำได้.