จเรตำรวจฯแถลงผลกวาดล้างชาวต่างชาติตั้งบริษัทหลอกขายสินค้าในไทย
หมวดหมู่ : ภูเก็ต, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 1 พ.ค. 2565, 21:36 น. อ่าน : 601ภูเก็ต-จเรตำรวจหัวหน้าชุดกวาดล้างคนร้ายข้ามชาติแถลงผลการจับกุมชาวต่างชาติกระทำผิด มีทั้งหนีคดีจากสหรัฐอเมริกา และเข้ามาเปิดบริษัทหลอกลวงขายสินค้าออนไลน์ และพยายามข่มขืนหญิงไทย รวมทั้งแก๊งต้มตุ๋น และจัดปาร์ตี้มั่วยาเสพติด
เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2565 เวลา 14.30น. ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช.ในฐานะ ผอ.ศปซก.ตร.ขับเคลื่อนนโยบายการปราบปรามเร่งกวาดล้างคนร้ายข้ามชาติและการเข้าเมืองผิดกฎหมายที่แอบใช้ประเทศไทย เป็นที่พำนักในการกระทำความผิดระหว่างประเทศ ทั้งในรูปแบบที่ส่งผลต่อประเทศไทยโดยตรงและส่งผลไปยังประเทศอื่นหลายประเทศ พร้อมด้วย พล.ต.ท. ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.และคณะร่วมกันแถลงผลการกวาดล้างปราบปรามและทลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ลักลอบกระทำความผิดในห้วงสถานการณโควิด-19 ซึ่งมีเครือข่ายสำคัญและน่าสนใจ ประกอบด้วย ดังนี้ 1.การจับกุม 2 ผู้ต้องหาชาวยูเครน หลังหลีกเสี่ยงชำระกาษีจ้างงานมูลค่ากว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา โดยเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหาร่วมกันให้ที่พักพิงแก่บุคคลต่างด้าว ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันฉ้อโกง
ทั้งนี้สืบเนื่องจากทาง Homeland Security Investigations (HS) ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประสานขอความร่วมมือให้ช่วยดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย โดยมีพฤติการณ์เมื่อ พ.ศ.2550 - 2564 ผู้ต้องหาทั้ง 2 ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้บริหารกิจการบริษัทจัดหางานหลายบริษัทรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการจัดหาแรงงานนอกกฎหมายจำนวนหลายร้อยราย ให้ไปทำงานรับจ้างในกิจการงานบริการต่างๆ เช่น โรงแรม บาร์และร้านอาหาร โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ทำการหลีกเสี่ยงการชำระภาษีการจ้างงานให้แก่ภาครัฐ โดยคิดรวมมูลค่าการจ้างงานรวมเป็นเงินกว่า 67 ล้านเหรียญสหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,258,034,000 บาท) มูลค่าความเสียหายจากภาษีที่หลบเลี่ยงการชำระให้แก่ภาครัฐรวมเป็นเงินประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฮเมริกา (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 337,020,000 บาท)
จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้เข้ามาภายในประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว และพักอาศัยอยู่ที่วิลล่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยเมื่อวันที่ 19 เม.ย.2565 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นวิลล่าดังกล่าว พบและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 2 ราย หลังจากนั้นจึงได้ดำเนินการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตามกฎหมายต่อไป
การจับกุมรายที่ 2 เป็นการรวบขบวนการข้ามชาติ แก๊งสแกมเมอร์ผิวสี หลอกขายสินค้าบนเว็บไซด์ดัง หลอกหญิงไทยเปิดบัญขีม้า ก่อนซ้อมปางตาย โดยเจ้าหน้าที่ ศปชก.ตร.ได้ร่วมจับกุมนายเอฟ นามสมมติ สัญชาติแคมมารูนในข้อหา "เป็นบุคคลเดินทางเข้ามาและพักอาศัยในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ใด้รับอนุญาต" และนายชี นามสมมติ สัญชาติแคมมารูน ในข้อหา "เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง โดยสืบเนื่องจาก ศปซก.ตร. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ได้ถูกคนร้ายเป็นคนผิวสีไม่ทราบชื่อนามสกุลทำร้ายร่างกาย หน่วงเหนี่ยวกักขัง ข่มขู่ โดยพยายามที่จะพาไปกระทำชำเรา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายดังกล่าว คือนายเอฟ มีพฤติกรรมในการเป็นแก็งหลอกลวงคนต่างชาติและคนไทย โดยมักจะตีสนิทกับผู้หญิงไทย และให้ผู้หญิงไทยไปทำการเปิดบัญชี(บัญชีม้า) เพื่อเอามาใช้ในการกระทำความผิดและพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านสายไหม จึงได้ทำการขอหมายค้นต่อศาลอาญามีนบุรี
จากการตรวจค้นในบ้านพบนายเอฟ และนายซีอยู่ในบ้านพัก ซึ่งในบ้านพักมีห้องทำงานแยกเป็นส่วนตัว โดยจะมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์จำนวนหลายรายการ จึงทำการตรวจสอบคอมพิว เตอร์และโทรศัพท์ในที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายทั้ง 2 มีพฤติการณ์ในการหลอกลวงขายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มเว็บไซต์ Alibaba โดยจะทำการปลอมเว็บไซต์ ชื่อ janjirasuanngamdeeveeralak อ้างว่าเป็นเว็บของบริษัทในการทำธุรกิจส่งสินค้าจากประเทศไทยไปต่างประเทศ และเมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าจากคนร้ายบนแพลตฟอร์ม Alibaba แล้วคนร้ายจะให้ลูกค้าเพิ่มการติดต่อส่วนตัวในแอพพลิเคชั่น เพื่อทำการพูดคุย โดยคนร้ายจะทำการอ้างว่าตนเป็นบริษัทส่งสินค้าจากประเทศไทย มีสินค้าหลายรายการส่งใบรับรองบริษัทและหนังสือเดินทางของคนไทยปลอม ทำการตัดต่อปลอมแปลง จนลูกค้าหลงเชื่อจะทำการส่งใบนำส่งสินค้าปลอม (invoice) และประทับตราปลอมให้กับลูกค้าที่หลงเชื่อ
เมื่อลูกค้าได้สอบถามถึงสถานะสินค้า ก็จะอ้างว่าสินค้าไม่สามารถจัดส่งได้ เนื่องจากต้องจ่ายค่าประกัน ทางผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกค้าจึงได้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้าย ซึ่งเป็นบัญชีที่เปิดในประเทศอิตาลีและประเทศไทยเป็นหลัก โดยบัญชีที่เป็นของประเทศอิตาลีจะมีเพื่อนร่วมขบวนการในการจัดการบัญชีอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายหลายรายความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และได้ทำการขยายผลพบว่าคนร้ายมีพฤติกรรมในการใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นซึ่งเป็นของเพื่อนร่วมชาติไปทำการออกเอกสารราชการต่างๆ เพื่อเอามาใช้ในการหลอกเจ้าหน้าที่หากถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
นายเอฟได้รับสารภาพว่าตนคือ บุคคลที่ทำร้าย หน่วงเหนี่ยวกักขังและบังคับขู่เข็ญผู้หญิงไทยที่ได้เข้ามาร้องเรียนจริง โดยพยายามที่จะพาผู้หญิงไทยขึ้นห้อง แต่ผู้หญิงไทยไม่ยินยอม และหลังจากพาผู้หญิงไทยขึ้นห้องแล้วก็ได้มีเจ้าหน้าที่ รปภ. มาช่วยไว้ทัน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมคนร้ายทั้งสองราย ตรวจยึดของกลาง ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชี รวมกว่า 25 รายการ ส่งพนักงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และได้ทำการติดต่อผู้เสียหายหลายรายเพื่อเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และแจ้งไปยังพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีทำร้ายร่างกายหญิงไทยในการดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมายต่อไป
การจับกุมรายที่ 3 เป็นการรวบสมาชิกแก๊งเงินดำพบพฤติกรรมเคยหลอกผู้เสียหาย สูญเงิน 20 ล้านบาท การจับกุมรายที่ 4 เป็นการจับกุมชาวต่างชาติจัดปาร์ตี้เสพเคตามีนกลางเมืองพัทยา เมื่อวันที่ 30 เม.ย.65 ส่วนการจับกุมรายที่ 5.เป็นการจับกุมนักพนันชาวรัสเซียเปิดคอนโดหรูใน จ.ชลบุรี ลักลอบเล่นการพนันออนไลน์ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา.