ชาวบ้าน 500 ครัวเรือน ร้องค้านป่าไม้ล้มต้นปาล์ม ถูกหลอกขายที่ดินให้ปลูก

กระบี่-ตัวแทนชาวบ้านเขาพนม 500 ครัวเรือน ยื่นหนังสือต่อทางจังหวัดกระบี่ ค้านป่าไม้ล้มต้นปาล์มในป่าหมดสัมปทาน อ้างถูกนายทุนหลอกขายที่ให้ และอ้างว่าจะได้รับจัดสรรเป็นที่ ส.ป.ก. ศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่อง และจังหวัดเรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อการรื้อถอนปาล์มน้ำมันใน จ.กระบี่ ให้ชลอแปลงที่ชาวบ้านมาร้องไว้ก่อนเพื่อแก้ปัญหา

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 65 เวลา 10.00 น. ชาวบ้านใน ต.พรุเตียว อ.เขาพนม จำนวนกว่า 100 คน นำโดยนายศิลชัยพลเดช กำนัน ต.พรุเตียว เดินทางมายื่นหนังสือให้กับนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผวจ.กระบี่ ที่หน้าศาลากลาง จ.กระบี่ เพื่อขอให้ทางกรมป่าไม้ โดยสำนักบริการจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ชะลอการโค่นล้มต้นปาล์มน้ำมันในพื้นที่ป่าหมดสัมปทานใน ต.พรุเตียว และรอยต่อเขต ต.ห้วยยูง อ.เหนือคลอง ต.เพหลา อ.คลองท่อม เนื่องจากส่งผลกระทบกับชาวบ้านที่เข้าไปครอบครองพื้นที่ดังกล่าวเพื่อทำกิน เพราะถูกกลุ่มนายทุนที่เคยเข้าไปสัมปทานป่า นำที่ดินดังกล่าวมาหลอกขายให้กับชาวบ้านไว้ 

ส่วนพฤติกรรมการหลอกลวงนั้น มาหลอกชาวบ้านว่าซื้อไว้แล้วจะได้รับการจัดสรรที่ดินในรูปแบบ ส.ป.ก. มีชาวบ้านถูกหลอกให้ซื้อไว้จำนวน 500 ครัวเรือน ประชาชนเดือดร้อนมากถึง 1,500 คน เนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ แต่ต่อมาเมื่อที่ดินหมดสัปทาน ทางหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ เตรียมจะเข้าไปโค่นต้นปาล์มเพื่อนำที่ดินกลับคืนเป็นของรัฐ 

ต่อมาทางศูนย์ดำรงธรรม จ.กระบี่ และตัวแทนสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กระบี่ ทราบเรื่องได้จัดเจ้าหน้าที่เดินทางมารับหนังสือจากชาวบ้าน พร้อมรับปากว่า จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมจังหวัด

จากนั้นเวลา 11.00 น. ทางจังหวัดกระบี่ เรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อการรื้อถอนปาล์มน้ำมันใน จ.กระบี่ โดยมี พ.อ.สมบัติ สืบท้วน รอง ผอ.กอ.รมน.จ.กระบี่ เป็นประธาน หารือร่วมกันนานกว่า 3 ชม. โดยทางป่าไม้เสนอพื้นที่รื้อถอนมา 2 แปลง คือแปลงของบริษัทเอกชน ใน ต.ปลายพระยา ต.คีรีวงศ์ อ.ปลายพระยา และ ต.คลองยา อ.อ่าวลึกเนื้อที่ 7,000 ไร่ และแปลงพื้นที่ อ.เขาพนม เนื้อที่ 5,000 ไร่ ที่กำลังมีปัญหา ซึ่งทางกรมป่าไม้ได้อนุมัติงบประมาณรื้อถอนมาให้แล้วจำนวนกว่า 36 ล้านบาท ในการโค่นล้มต้นปาล์ม และปลูกป่าทดแทน 

คณะกรรมการที่ประชุม เห็นว่าแปลง อ.เขาพนม หากเร่งรื้อถอนก็จะกระทบกับชาวบ้านจำนวนมาก ที่มายื่นหนังสือคัดค้าน จึงเสนอให้ป่าไม้ ดำเนินการในแปลงของ อ.ปลายพระยา และ อ.อ่าวลึก ไปก่อน ส่วนแปลงของอ.เขาพนม ให้ชะลอการรื้อถอนออกไป เพื่อหาทางออกให้ชาวบ้านร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ทำให้กลุ่มชาวบ้าน พากันเดินทางกลับ และรอให้จังหวัดดำเนินการแก้ปัญหาให้ต่อไป.