ชาวสะทิงพระโวย ผักตบชวาเต็มคลอง หลายหน่วยงานแก่งกันกำจัด

สงขลา-ชาวสทิงพระ ร้องกำจัดผักตบชวา หลังขึ้นเต็มคลอง ทำให้เดือดร้อนพายเรือหาปลาไม่ได้ และเป็นที่อยู่ของสัตว์มีพิษ เคยไปร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ ก็โยนกันไปมา หวั่นหน้าในจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ เนื่องจากน้ำระบายลงทะเลไม่ทัน

     เมื่อวันที่ 2  ส.ค.66 เวลา 10. 00 น. ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณคลองคูขุด หมู่ที่ 3 ตำบลคูขุด อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากคลอง 

คูขุด 3 ถึง 4 คลอง ระยะทางประมาณ 3-6 กิโลเมตร มีผักตบชวาและวัชพืชขึ้นอย่างหนาแน่นตลอดทั้งคลอง พร้อมทั้งยังกีดขว้างทางน้ำจนทำให้ชาวบ้านหลายร้อยครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนหนัก และส่งผลกระกับชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมง ออกไปหาปลาเป็นอาชีพหลักยาดลำบาก  ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก  

     นางสุนา ชูชีพ อายุ 47 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 3  ตำบลคูขุด อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา  กล่าวว่า  ผักชวาและวัชพืชในคลอง  ขึ้นอย่างหนาแน่นส่งผลให้ ผักตบชวาลอยเต็มคลอง กระทบต่อการประกอบอาชีพ ทั้งประมงและท่องเที่ยว และชาวบ้านที่ออกเรือประมงหลายร้อยรำ ไม่สามารถออกเรือได้ พวกเราก็ทำได้แค่ ตักกับเครื่องทุนแรงที่ทำกันเองนำทางเรือ เพื่อให้เรือวิ่งออกไปยังทะเลสาปสงขลา และออกหาปลาด้วยความทุลักทุเล  ชาวบ้านไม่รู้จะไปพึ่งพาหน่วยงานไหนไปปรึกษาหน่วยงานภาครัฐ  ทั้งในตำบลคูขุดและในอำเภอสทิงพระ  ต่างโยนกันไปโยนกันมา  

     “ไม่ได้โทษหน่วยงานไหน และผักตบชวาได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แถมยังขวางกั้นการระบายน้ำ ทำให้น้ำไม่สามารถไหลเวียนได้ จนน้ำเกิดเน่าเสีย และกระทบต่อสัตว์น้ำที่ทยอยตายไปเรื่อยๆ อีกทั้งยังพบด้วยว่า ผักตบชวากลายเป็นที่หลบซ่อนของสัตว์มีพิษ จำพวก งู อีกด้วย โดยก่อนหน้านี้ ภาครัฐและภาคเอกชน เคยบูรณาการ ร่วมกันกำจัดผักตบชวามาหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่สามารถจัดการต่อผักตบชวาให้หมดไปได้ และว่างเว้นไม่ได้กำจัดผักตบชวามานานแล้ว อีกทั้งขณะนี้เข้าสู่ฤดูฝน หากมีฝนตกลงมาปริมาณมากผิดปกติจะไม่สามารถระบายน้ำออกสู่ทะเลสาปสงขลา ได้ทัน อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมเข้าสู่บ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรได้ จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานในพื้นที่ หรือผู้เกี่ยวเข้ามาตรวจสอบและช่วยกันแก้ไขโดยเร็วที่สุด” นางสุนากล่าว.