ชาวสุไหงปาดีอ่วม พายุฝนกระหน่ำบ้านพัง 249 หลัง
หมวดหมู่ : นราธิวาส,
โฟสเมื่อ : 30 พ.ค. 2567, 09:00 น. อ่าน : 262นราธิวาส-สุไหงปาดีอ่วม พายุฝนกระหน่ำบ้านพัง 249 หลังคาเรือน ชาวบ้านกว่า 800 คนเดือดร้อนหนัก อบต.ออกสำรวจให้การช่วยเหลือแล้ว
รายงานข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีพายุฝนและลมกรรโชกแรงที่เกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 29 พ.ค.67 ที่ผ่านมา จากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า จากการสำรวจพื้นที่ประสบภัยที่ถือว่าประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก คือในพื้นที่ 5 หมู่บ้านของตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี ประกอบด้วย บ้านไอกูวิง ม.2 บ้านปะลุรู ม.3 บ้านลูโบ๊ะบาตู ม.4 บ้านตาเซ๊ะใต้ ม.6 และบ้านละหาน ม.8 มีจำนวนรวม 249 หลังคาเรือน ประชาชนอาศัยอยู่ จำนวนกว่า 800 คน ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นในช่วง 16.00 น. ถึง 17.30 น. และผลพวงดังกล่าวยังส่งผลทำให้ประชาชนใน 5 หมู่บ้าน ของ ต.ปะลุรู ไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากมีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับและฟาดสายไฟฟ้าขาดจำนวนหลายจุด เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอ.สุไหงปาดี ต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมนานกว่า 5 ชั่วโมง จึงจะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนได้ใช้กันตามปกติ
ส่วนกรณีพายุฝนและลมกรรโชกแรงครั้งนี้ ในพื้นที่ 5 หมู่บ้าน ของ ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ที่ได้รับผลกระทบหนักสุด จำนวน 4 หลัง อยู่ในหมู่บ้านตาเซะใต้ ประกอบด้วยบ้านของนางนูรไอนี กามารูดิง เลขที่ 136 บ้านของนางปาซียะอาแว เลขที่ 286 บ้านของนายสะแปอิง ซือแม เลขที่ 170/3 และบ้านของนางฮัสนะห์ ยีเฮง เลขที่ 128 ซึ่งแต่ละหลังถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ปลูกไว้ข้างบ้านพัก โค่นล้มทับใส่บ้านพักขณะที่มีกระแสลมพัดกรรโชกแรง ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายบริเวณห้องนอน ห้องครัวและห้องโถงไว้สำหรับนั่งเล่น ขณะเกิดเหตุโชคดีเป็นช่วงเย็น ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ แต่ๆละครอบครัวต้องวิ่งหนีตายเอาชีวิตรอดกันจ้าระหวั่น
ทางด้านนายมูฮำหมัดอัสรี ดอรอแม สมาชิก อบต.ปะลุรูและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านของทั้ง 5 หมู่บ้าน ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ในการรวบรวมข้อมูลที่จะนำวัสดุอุปกรณ์ เช่น ไม้แปรรูป กระเบื้องมุ่งหลังคาและสังกะสี ออกแจกจ่ายให้กับเจ้าของบ้านแต่ละหลัง มาทำการซ่อมแซมต่อไปแล้ว และจากการสอบถามนายมูฮำหมัดอัสรี ทราบว่า นอกจากบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายแล้ว จะเร่งสำรวจความเสียหายด้านการเกษตรในเบื้องต้น พบว่า มีต้นไม้ของชาวบ้านทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ถูกกระแสลมแรงพัดโค่นล้มเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้ต้นไม้บางชนิดอยู่ในระหว่างออกผลผลิต ที่ต้องมีการตรวจสอบในลำดับต่อไป เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านในการบรรเทาความเดือดร้อน หลังจากที่ต้องประสบกับปัญหาอุทกภัยในช่วงปลายปี 66 ที่ผ่านมาแล้วครั้งหนึ่ง.