ชาวใต้รับ”พระบรมสารีริกธาตุ” ล้นหลาม-เงินสะพัดกว่า 500 ล.

หมวดหมู่ : กระบี่,

อ่าน : 501
พระบรมสารีริกธาตุ
ชาวใต้รับ”พระบรมสารีริกธาตุ” ล้นหลาม-เงินสะพัดกว่า 500 ล.

กระบี่-ชาวภาคใต้และพุทธศาสนิกชนชาติต่างๆ ต่างปลื้มปีติยินดีเป็นมงคลชีวิต ที่ได้มีโอกาสสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ พระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ คนหลั่งไหลมาสักการะล้นหลาม โรงแรมที่พักแถบจังหวัดอันดามัน ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง เพียง 2 วัน คนเข้าสักการะกว่า 3 แสนคน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตามไปด้วย คาดเงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท

 

การอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระศาสดาของพุทธศาสนา และพระอรหันตุธาตุ พระสารีบุตร และ พระโมคคัลลานะ อัครสาวก มาประดิษฐานชั่วคราว ณ ประเทศไทย พร้อมกันเป็นครั้งแรกในรอบ 2,567 ปี นับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย และประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขง ตามโครงการธรรมยาตรา “มหานทีสู่ลุ่มน้ำโขง” โดยรัฐบาลอินเดีย ร่วมกับรัฐบาลไทย จัดพิธีอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ มาประดิษฐานชั่วคราวในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 22 ก.พ.-19 มี.ค.2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา  โดยมีสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 เป็นองค์กรร่วมในการอัญเชิญฯ


การอัญเชิญประดิษฐานชั่วคราว ณ มณฑป มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 23 ก.พ.-3 มี.ค. มีคนเข้าสักการะกว่า 1 ล้านคน จากนั้นอัญเชิญไปประดิษฐานชั่วคราวในภาคเหนือ ที่หอคำหลวง อุทยานราชพฤกษ์ อ.เมืองเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 5-8 มี.ค.มีคนเข้าสักการะกว่า 4 แสนคน ภาคอีสานอัญเชิญไปประดิษฐานชั่วคราว ณ วิหารพระเจ้าใหญ่อินแปลง อ.เมืองอุบลราชธานี มีผู้เข้าสักการะกว่า 8.7 แสนคน และสุดท้ายทางภาคใต้อัญเชิญมาประดิษฐานชั่วคราว ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล(วัดบางโทง) อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ระหว่างวันที่ 15-18 มี.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.กระบี่ มีชาวกระบี่ รวมทั้งพุทธศาสนิกชนในภาคใต้ รวมทั้งนักท่องที่ยวชาติต่างๆ เข้าสักการะจำนวนมาก โดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนจากประเทศเพื่อนบ้านจากกัมพูชา ลาว มาลเซีย และสิงคโปร์

ต่างจองโรงแรมในกระบี่ พังงา ภูเก็ต และระนอง เพื่อมาสักการะ และถือโอกาสท่องเที่ยวไปด้วย โดยมีการอัญเชิญ


พระบรมสารีริกธาตุ และ พระอรหันตธาตุ ขึ้นเครื่องบิน ซี 30 ของกองทัพอากาศไทย จากท่าอากาศยานอุบลราชธานี ไปยังท่าอากาศยานกระบี่ ช่วงเช้าวันที่ 14 มี.ค. และอัญเชิญไปประดิษฐานชั่วคราว ณ ห้องมั่นคงพร้อมรักษาความปลอดภัย ที่วัดมหาธาตุวชิรมงคล


จากนั้นวันที่ 15 มี.ค.ขบวนธรรมยาตรา “มหานทีสู่ลุ่มน้ำโขง” อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฯ จากเส้นทางเข้าสู่วัดมหาธาตุวชิรมงคล(วัดบางโทง) จังหวัดกระบี่จัดอย่างยิ่งใหญ่ ราชรถตกแต่งอย่างสวยงาม มีขบวนนางรำ และริ้วขบวนตระการตา และพุทธศานิกชนเรียงรายรับเสด็จจำนวนมาก โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นางยุพา วัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผวจ.กระบี่ และ ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ร่วมพิธี จากนั้นเวลา 18.00 น. มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และเวลา 19.00-22.00 น.เปิดให้พุทธศาสนิกชนเข้าสักการะ 


สำหรับที่ จ.กระบี่ คณะกรรมการฯ คาดว่าจะมีพุทธศาสนิกชน เข้าสักการะกันล้นหลาม เนื่องจากเป็นจังหวัดสุดท้าย และผู้ที่ไม่มีโอกาสได้สักการะใน 3 สถานที่ที่ผ่านมา เดินทางมาสักการะเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตที่หาโอกาสไม่ได้อีกแล้ว เพียงแค่วันที่ 15-16 มี.ค. มีผู้เข้าสักการะกว่า 3 แสนคน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตชาติฯ มาสู่ประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ นอกจากจะเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่และเป็นสิริมิงคลชีวิตแก่ขาวไทยและพุทธศาสนิกชนชาติต่างๆ ที่ได้มาสักการะต่างปลื้มปีติยินดีแล้ว ยังส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ใกล้เคียงสถานที่ประดิษฐานมีรายได้เพิ่มขึ้น สำหรับจังหวัดกระบี่และจังหวัดแถบอันดามัน คาดว่ามีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท.