ชีวิตอนาถยายวัย 71 ปี เป็นเสาหลักเลี้ยง 5 ชีวิตรันทด

หมวดหมู่ : ตรัง, ทั่วไป,

อ่าน : 457
อนาถใจของยายวัย 71 รับจ้างทำขนม
ชีวิตอนาถยายวัย 71 ปี เป็นเสาหลักเลี้ยง 5 ชีวิตรันทด

ตรัง-ชีวิตอนาถใจของยายวัย 71 เป็นเสาหลักเลี้ยง 5 ชีวิต รับจ้างทำขนมได้วันละ 100-200 บาท น่าอนาถาใจบางวันกินข้าวกับน้ำปลาเคราะห์ซ้ำค้างค่าเช่าบ้านใกล้ไร้ที่อยู่ วอนหน่วยงานและผู้มีใจกุศลเข้าช่วยเหลือ


เรื่องอนาถใจรายนี้ เมื่อวันที่ 4 พ.ย.65 เวลา 08.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่กลุ่มขนมไทยวัดกลาง ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน กศน.อำเภอนาโยง หมู่ 5 บ้านวัดกลาง ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง พบนางกัลยา ทิพย์สุวรรณอายุ 71 ปี หลังทราบข่าวจาก นางปรีดารัตน์ ชัยสงคราม อายุ 54 ปี ประธานกลุ่มขนมบ้านวัดกลาง ถึงเรื่องราวของนางกัลยา ที่เป็นเสาหลักครอบครัวต้องดูแลลูกชายและหลานรวม 5 ชีวิต หลังจากที่สามีเสียชีวิตลงได้ประมาณ 2 ปีความเป็นอยู่สุดแสนลำบากต้องมารับจ้างทำขนมได้ค่าแรงตกวันละ 1-2 ร้อยบาท ลูกชายคนโตป่วยพิการมือซ้ายลีบงอ มีพัฒนาการช้าตั้งแต่เด็ก ส่วนลูกชายคนเล็กตกงานมาร่วมปี รับจ้างซ่อมรถเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่รายได้ไม่พอจุนเจือใช้จ่ายในครอบครัว เคราะห์ซ้ำค้างค่าเช่าบ้านไว้ 2 เดือนเป็นเงิน 5 พันบาท เจ้าของบ้านมีความจำเป็นต้องเชิญออกให้หาที่อยู่ใหม่ อาศัยเพื่อนกลุ่มสมาชิกหยิบยื่นน้ำใจช่วยเหลือเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง และเงินบางส่วน


นางปรีดารัตน์ ประธานกลุ่มขนมบ้านวัดกลาง เปิดเผยว่า ครอบครัวของนางกัลยา ลำบากมากจริงๆ โดยได้มาช่วยทำขนมกลุ่มได้หลายปีแล้ว ก่อนหน้านี้จะมาช่วยทำขนมในช่วงเทศกาลเดือนสิบ เพราะมีคนสั่งทำขนมเป็นจำนวนมาก ได้ค่าแรงประมาณ 300 ต่อวัน พอเสร็จสิ้นเทศกาลนางกัลยาก็ไม่มีรายได้จากทางไหน ตนก็เลยให้กลับมาช่วยทำขนม ช่วยกันดูแลครอบครัวของนางกัลยาได้แค่เล็กๆน้อยจนช่วงโควิด-19 ระบาดที่ผ่านมา ขนมก็ขายยากออเดอร์ไม่ค่อยจะมีแต่ว่าเราก็ไม่เคยทิ้ง ตลอดเวลาที่ผ่านมา สมาชิกในกลุ่มต้องเวียนกันไปรับส่งที่บ้านในซอยข้างที่ทำการอำเภอนาโยงทุกวัน เพื่อให้ได้มาทำขนม ส่วนในมื้อเที่ยงพวกตนหุงข้าวทำแกงทุกวัน เพื่อให้นางกัลยาและลูกได้กินข้าวกันที่นี่ด้วย ช่วงเย็นเมื่อแกรับเงินค่าทำขนม ก็ไปซื้อข้าวสารบ้างเป็นกับข้าวบ้างเพื่อที่จะให้ลูกกับหลานได้กิน ตนก็พยายามช่วยเหลือเท่าที่ให้ได้ เนื่องจากมีภาระส่วนตัวเช่นกัน


นางปรีดารัตน์ เล่าต่อว่า ปัญหาอีกอย่างคือบ้านที่นางกัลยา เช่าพักอาศัยอยู่ ที่ผ่านมาเจ้าของบ้านเช่าก็ใจดีแต่มีความจำเป็นต้องเอาบ้านคืนประกอบกับนางกัลยา ค้างค่าเช่าบ้านมาแล้ว 2 เดือน เคยมาร้องไห้ระบายให้ตนฟังตนเกิดความสงสารแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง โดยนางกัลยาได้ไปพูดคุยกับเจ้าของบ้านเช่าแล้ว ขออยู่ต่ออีกนิดพยายามที่จะหาเงิน มาใช้ส่วนที่ค้าง และพยายามที่จะหาบ้านเช่าใหม่ แต่ก็ติดที่ค่ามัดจำบ้านอีก อยากขอให้หน่วยงานรัฐมาช่วยดูแลในเรื่องที่อยู่อาศัย ให้มีบ้านอยู่ ตอนนี้นางกัลยาก็อายุเยอะ จะไปทำงานที่ไหนก็ลำบากและเป็นเสาหลักบ้านอีกด้วย ส่วนลูกชายคนพิการก็ช่วยเก็บกวาดในพื้นที่ กศน.นาโยง มี นายอุดมศักดิ์ ราชดี อา 59 ปี  พนักงานพิมพ์ระดับ ส.4 กศน.อ.นาโยง จ่ายเงินส่วนตัวให้เดือนละ 600 บาท และมักช่วยนำข้าวสาร อาหารไปช่วยเหลืออีกทาง   


ด้านนางกัลยา กล่าวว่า ตนมีบุตรชาย 2 คน คนหนึ่งป่วยพิการ อีกคนทำงานได้โดยช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด ก็ออกไปทำงานที่อื่นมีคนจ้างงานเยอะ ได้เงินมาพอใช้จ่าย แต่พอช่วงหลังโควิด-19 คลี่คลาย ไม่มีงานทำกลับมาบ้านรับจ้างซ่อมรถ จยย. เครื่องใช้ไฟฟ้าบ้างเล็กๆน้อยๆ ค่าใช้จ่ายก็ไม่พอ เพราะมีหลานชายอีก 3 คน อายุ 12 ขวบ 11 ขวบ และ 9 ขวบ ที่ต้องใช้ไปโรงเรียน ส่วนแม่ของเด็กเป็นภรรยาของลูกชายคนเล็ก ได้หนีทิ้งไว้ให้เลี้ยง โดยไม่มีการติดต่อและหายไปเลย ไหนจะค่าเช่าบ้านที่ค้างไว้อีก 2 เดือน 


นางกัลยา กล่าวอีกว่า เจ้าของบ้านเช่าใจดีกับตนมาตลอด แต่จำเป็นที่จะต้องให้ตนย้ายออกภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้ แต่ตนไปขอเจรจาและพยายามหาเงินมาคืนและหาที่อยู่ใหม่ ตนทำงานทำขนมได้วันละ 100-200 บาท ตอนนี้มีอาการปวดหลังแต่ก็ต้องทนทำงาน เพื่อหาเงินมาใช้ซื้อข้าวและให้หลานไปโรงเรียน ให้วันละ 20 บาท บางวันก็ไม่มีให้ ส่วนข้าวเย็นบางมื้อถ้าไม่มีเงินพอซื้อกับข้าวต้องทนกินข้าวกับน้ำปลาไป นับตั้งแต่ที่สามีตนเสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตนต้องมาเป็นเสาหลักให้ครอบครัว ตอนนี้เหนื่อยแต่ต้องทนทำ แต่โชคดีที่ได้สมาชิกกลุ่มทำขนมคอยซื้อข้าวสารอาหารหรือซื้อของใช้ให้เรื่อยๆ


สำหรับท่านใดที่มีจิตเมตตาอยากช่วยเหลือครอบครัว ทั้ง 6 ชีวิต สามารถอุดหนุนขนมไทยได้โดยร้านตั้งอยู่ข้างเซเว่นอีเลฟเว่น สาขานาโยง หรือโทรติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 090-217-9944 นางปรีดารัตน์ ชัยสงคราม อายุ54 ปี ประธานกลุ่มขนมบ้านวัดกลาง หมู่ 5 บ้านวัดกลาง ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง.


อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :