ช่องโหว่โควิด-19 แพร่จากมาเลย์-จับ 2 คนขับแท็กซี่ ลอบขนเมียนมาเข้าไทย

สงขลา-จับรถแท็กซี่สายสนามบินหาดใหญ่ 2 คัน ขณะขนแรงงานชาวเมียนมา 10 คน ลักลอบเข้าไทยทางรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย จนท.ฝ่ายความมั่นคงสกัดจับและนำตัวไปตรวจหาเชื้อโควิด-19ทันที โดยเฉพาะสายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้ สารภาพจะนำไปส่งที่หน้าหอนาฬิกาหาดใหญ่ และจะมีคนมารับช่วงต่ออีกทอด จ่ายค่าหัวให้นายหน้าชาวมาเลเซียคนละ 3,000 ริงกิต หรือเกือบ30,000 บาท

        แม้ว่าประเทศไทยจะมีการเฝ้าระวังป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ จากฝั่งประเทศมาเลเซียแต่ยังมีคนไทยเห็นแก่ได้ไม่ร่วมมือ กลับลักลอบนำแรงงานต่างด้าวจากมาเลเซียเข้ามาทางชายแดน ไม่ผ่านการคัดกรอง แต่โชคดีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสกัดจับไว้ได้ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2564 โดยทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ร่วมกับทหารร้อย ร.5021 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสะเดา ตำรวจสภ.สะเดาและฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา ได้ร่วมกันสกัดจับรถแท็กซี่มิเตอร์สายสนามบินหาดใหญ่ 2 คัน ขณะลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวน 10 คนซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมายที่ลักลอบเข้าเมือง มาตามเส้นทางในหมู่บ้าน พื้นที่บ้านพรุเตียว หมู่5 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา โดยนั่งมาในรถคันละ 5 คน

        เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนขับรถแท็กซี่ทั้ง 2 คันเอาไว้ทราบชื่อคือนายอับดุลรอหมาน คงคาลิหมีน อายุ 47 ปี และนายษิริวัฒน์ สุวรรณมณี อายุ 51 ปี จากการสอบสวนนายอับดุลรอหมาน ให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนายหน้าซึ่งเป็นผู้หญิงโทรศัพท์บอกว่าให้มารับชาวเมียนมาที่ริมรั้วชายแดนไทยมาเลเซียบริเวณด่านพรมแดนสะเดาแห่งใหม่ เพื่อนำไปส่งที่ตลาดพลาซ่าหน้าหอนาฬิกา อ.หาดใหญ่ โดยค่าจ้างคันละ1,500 บาท และจะมีคนมารับช่วงต่อเดินทางกลับเมียนมา แต่ไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับนายหน้าว่าเป็นใคร โดยขนมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกขนไป 4 คนและครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ส่วนนายษิริวัฒน์ให้การว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก 

        ด้านแรงงานชาวเมียนมาให้การว่าได้มีนายหน้าชาวมาเลเซียนำมาส่งที่บริเวณริมรั้วชายแดนไทย-มาเลเซียโดยเสียค่าหัวคนละ3,000 ริงกิต หรือประมาณเกือบ30,000 บาท และเมื่อถึงฝั่งไทยจะเสียค่าใช้จ่ายในการนำพาอีกช่วงหนึ่งด้วย สาเหตุที่ลักลอบเดินทางเข้ามาเพราะใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากในช่วงโควิด-19 และทางการมาเลเซียผลักดันคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่อย่างผิดกฏหมายและจับกุมดำเนินคดี

        หลังจากสอบสวนเบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 10 คนไปตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 พร้อมกับแยกกักตัวสังเกตุอาการเป็นเวลา 14  วัน เพื่ออาการว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่โดยเฉพาะสายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้ที่ระบาดอยู่ในประเทศมาเลเซีย รวมถึงคนขับรถแท็กซี่ทั้ง 2 คน ถูกตรวจเชื้อด้วย ก่อนที่จะส่งตัวดำเนินคดีทั้งลอบลอบเข้าเมืองและนำพาแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะสอบสวนไปยังเครือข่ายลักลอบขนแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้เพื่อจับกุมโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเสี่ยงต่อการนำพาเชื้อโควิด-19 เข้ามาระบาดในประเทศไทย ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องร้ายแรงและอันตรายต่อคนไทยในประเทศเป็นอย่างมาก.