ซีพีเอฟ ร่วมดูแลความมั่นคงในชีวิตผู้พิการ หนุนมีรายได้ต่อเนื่อง ฝ่าโควิด
หมวดหมู่ : ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 21 มิ.ย. 2564, 21:47 น. อ่าน : 2,355 สถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า
2019 หรือ โควิด-19
ส่งผลกระทบรุนแรงกว่าวิกฤตเศรษฐกิจ การปิดตัวของธุรกิจและกิจการต่างๆ
ทำให้จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น โดยในช่วงมากกว่า 1 ปีตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19
กลุ่มเปราะบางถูกกระทบทั้งสภาพความเป็นอยู่และรายได้ อาทิ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม
ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เป็นกลุ่มที่ต้องได้รับความช่วยเหลือเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้
ภาคเอกชนมีส่วนร่วมขับเคลื่อนโครงการช่วยดูแลและส่งเสริมคุณค่าของผู้พิการในสังคม
ให้มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว แม้จะอยู่ในช่วงโควิด-19 อาทิ “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน”
ที่มีวัตถุประสงค์หลักแก้ปัญหาทุพโภชนาการของนักเรียนในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลและในถิ่นทุรกันดาร
เป็นความร่วมมือของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท
และเครือข่ายพันธมิตร ที่ดำเนินโครงการมามากกว่า 30 ปีแล้ว
ขณะเดียวกัน การดำเนินโครงการดังกล่าวช่วยสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและความมั่นคงในชีวิตของผู้พิการ
โดยจ้างงานผู้พิการในชุมชนช่วยทำงานในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนตามศักยภาพของผู้พิการ
เช่น ช่วยดูแลความสะอาดบริเวณโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ ทำความสะอาดภายในโรงเรียน รดน้ำต้นไม้
ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น โดยเฉพาะจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19
ผู้พิการหลายรายเป็นเรี่ยวแรงหลักในการหารายได้เพื่อดูแลครอบครัว เพราะคนในครอบครัวที่เคยมีงานทำต้องตกงานจากการถูกเลิกจ้าง
“แม็ก” อายุ 24 ปี
ผู้พิการที่ซีพีเอฟจ้างช่วยงานในโรงเรียนบ้านดู่(สหราษฎร์พัฒนาคาร) อ.เมือง
จ.เชียงราย
โรงเรียนที่เข้าร่วมในโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน แม็ก เล่าว่า ประสบอุบัติเหตุทำให้นิ้วขาด
ปัจจุบันช่วยทำงานที่โรงเรียน 4-5 เดือน ต้องขอบคุณซีพีเอฟที่มีโครงการดีๆ
ทำให้ผู้พิการมีงานทำ มีรายได้ เพราะโอกาสในการหางานทำของผู้พิการไม่ใช่เรื่องง่าย เรามีงานทำทำให้รู้สึกมีความมั่นคงในชีวิต
มีความสุขในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ช่วงโควิด-19 น้องสาวของตน 2 คนซึ่งทำงานในร้านอาหารและร้านบุฟเฟต์ต้องตกงาน จึงเหลือผมเพียงคนเดียวที่มีรายได้เป็นเสาหลักของครอบครัว เลี้ยงดูพ่อแม่
และช่วยเหลือน้องๆ บางส่วน
“เค” อายุ 44 ปี
ช่วยงานในโรงเรียนบ้านเมืองเก่าศรีอินทราทิตย์ ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย
เป็นอีกโรงเรียนหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่มาตั้งแต่ปี 2563
และซีพีเอฟจ้างงานผู้พิการ 2 คน เพื่อช่วยงานในโรงเรียน เคเล่าว่า เคยประสบอุบัติเหตุรถล้ม ตั้งแต่อายุ
18 ปี ทำให้หลังเหยียดตรงไม่ได้ ก่อนหน้าที่จะมาทำงานที่โรงเรียน
เคยเป็นช่างแกะสลักไม้ แต่รายได้ไม่แน่นอน และไม้ที่จะนำมาแกะสลักก็หายาก
จึงสมัครเข้าทำงานที่โรงเรียนมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563
มีหน้าที่ดูแลความสะอาดบริเวณโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ ให้อาหารไก่ เก็บไข่ไก่
จดบันทึกผลผลิตไข่ไก่แต่ละวัน รดน้ำต้นไม้ เป็นต้น ทำงานที่นี่มีความสุข สบายใจ
งานไม่หนักเกินกำลังที่เราจะทำ สภาพความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น รายได้พอกิน พอใช้ พอเลี้ยงตัวเองและเลี้ยงแม่
ตั้งใจจะทำงานช่วยโรงเรียนไปเรื่อยๆ และขอขอบคุณซีพีเอฟที่ทำให้ผมมีงานทำ อยากให้มีโครงการดีๆอย่างนี้ตลอดไป
ด้าน “นิ” อายุ 32 ปี
ช่วยเหลืองานที่โรงเรียนบ้านเมืองกาญจน์ จ.เชียงราย
โรงเรียนเข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน และซีพีเอฟจ้างงานผู้พิการช่วยงานในโรงเรียน “นิ” เล่าว่า มีปัญหาเกี่ยวกับความไม่ปกติของระบบประสาท ขณะที่เธอเคยใฝ่ฝันจะเป็นคุณครู
เธอจึงบอกว่า เธอโชคดี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นคุณครู
แต่ได้ช่วยงานของคุณครู แบ่งเบาภาระงานต่างๆในโรงเรียน งานที่นิได้รับมอบหมาย เช่น ปลูกผัก รดน้ำต้นไม้ ดูแลความสะอาดบริเวณโรงเรียน เธอบอกว่า อยากให้ซีพีเอฟทำโครงการดีๆ แบบนี้ให้กับทุกโรงเรียน เพราะเป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้พิการมีโอกาสมีงานทำ มีความมั่นคงในชีวิต ไม่เป็นภาระของครอบครัว
และภูมิใจที่มีส่วนในการดูแลคนในครอบครัวด้วย
ปัจจุบัน
ซีพีเอฟจัดจ้างผู้พิการช่วยทำงานในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนรวม
394 ราย ใน 242 โรงเรียนทั่วประเทศ (ณ
มิ.ย.2564 มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน 855
โรงเรียน) นอกจากช่วยสนับสนุนให้ผู้พิการมีงานทำและมีรายได้
ยังเป็นการสร้างคุณค่าและความภาคภูมิใจให้กับผู้พิการ
ลดภาระของโรงเรียนในการจัดจ้างนักการเพื่อช่วยงานต่างๆในโรงเรียน สามารถนำงบประมาณไปใช้พัฒนาโรงเรียนในด้านอื่นๆ
โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาทุพโภชนาการและการขาดสารอาหารของเด็กนักเรียน แต่ซีพีเอฟยังใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านอาหาร ถ่ายทอดองค์ความรูู้การเลี้ยงไก่ไข่ให้กับคุณครูและนักเรียน สามารถนำไปใช้เป็นอาชีพได้ ในอีกด้านหนึ่งโครงการดังกล่าวมีส่วนช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิตให้แก่ผู้พิการ โดยจ้างงานผู้พิการช่วยงานของโรงเรียน ทำให้มีรายได้เลี้ยงตัวเอง พึ่งพาตนเองได้ และยังจุนเจือไปถึงครอบครัวด้วย.