ซีพี ออลล์-เซเว่น อีเลฟเว่น ยกระดับการศึกษา ผ่าน “ศูนย์อาชีพเพื่อการท่องเที่ยว”
หมวดหมู่ : สุราษฎร์ธานี, ทั่วไป, การศึกษา,
โฟสเมื่อ : 26 ก.ค. 2565, 17:18 น. อ่าน : 858 สุราษฎร์ธานี -
ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในลิสที่ได้รับการจัดอับดับจากนักเดินทางทุกมุมโลกให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวด้วยเหตุผลนานาประการที่ต่างชาติชอบเมืองไทยไม่ว่าจะเป็นอาหาร
เทศกาลต่างๆ วัฒนธรรมที่งดงาม นอกจากนี้ภาคการท่องเที่ยวยังเป็นฮีโร่ที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจไทย
ที่สามารถกระตุ้น และกระจายรายได้ไปในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม
กลุ่มเกษตรกร และธุรกิจขนส่ง
ดังนั้นการพัฒนาศักยภาพภาคการท่องเที่ยวให้สามารถเป็นฮีโร่ตัวจริงช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อย่างยั่งยืน
จะต้องสร้างเยาวชนให้มีศักยภาพเพื่อการเติบโตในระยะยาว
โครงการศูนย์อาชีพเพื่อการท่องเที่ยว
โรงเรียนวัดตรณาราม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 ในกว่า 500 โรงเรียนที่ซีพี
ออลล์-เซเว่น
อีเลฟเว่น ให้การสนับสนุนและร่วมขับเคลื่อนผ่านโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT
ED และร่วมยกระดับการศึกษาเพื่อชีวิตที่ดีกว่า (Education for
better life) ด้านการส่งเสริมอาชีพ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
และได้รับการคัดเลือกให้เป็น CP ALL School Model หรือโรงเรียนต้นแบบเมื่อปี 2563
ที่ผ่านมา
โดยนักเรียนทุกคนจะมีโอกาสฝึกทักษะอาชีพประกอบไปด้วย
9 ฐานการเรียนรู้ ได้แก่ ฐานนวดฝ่าเท้า Foot massage, ฐานผ้ามัดย้อม Tie dye, ฐานมัคคุเทศก์น้อย Junior
Tourist Guide โดยนักเรียนสามารถใช้ทักษะภาษาอังกฤษในการสื่อสาร
ลงพื้นที่ชุมชน สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง ตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์
ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมศูนย์อาชีพเพื่อการท่องเที่ยวในโรงเรียน, ฐานน้ำดื่มสมุนไพร Herbal juice, ฐานไข่เค็ม Salt
egg, ฐานขนมไทย Thai
dessert, ฐานอังกะลุง Angklung, ฐานกลองยาว TOM - TOM และฐานมโนราห์ Manora โดยโรงเรียนได้บรรจุ 9
ฐานอาชีพในหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรในรายวิชา แนวทางการสอนในชั่วโมงกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ให้นักเรียน เลือกเข้าร่วมตามความสนใจและความถนัด โดยสอนแบบเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง (Child
Center Learning)
นางสุชัญญา แพเรือง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดตรณาราม
กล่าวว่า เนื่องจากโรงเรียนตั้งอยู่ในชุมชน เป็นศูนย์กลางของการคมนาคมขนส่งไปสู่เเหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
และจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ จึงมีความเหมาะสมในการจัดตั้งศูนย์อาชีพเพื่อการท่องเที่ยว บริการแก่ผู้ปกครอง ชุมชนท้องถิ่น นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศ จึงขอขอบคุณซีพี ออลล์ ที่ได้มอบโอกาสที่ดีที่สุดให้แก่โรงเรียน
ในการสนับสนุนงบประมาณสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโรงเรียนในหลายมิติ
“นักเรียนได้ฝึกอาชีพผ่าน
9 ฐานการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Active Learning) จนสามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายและนำไปสร้างอาชีพ
สร้างรายได้แก่ตนเองและครอบครัว อีกทั้งนักเรียนยังมีโอกาสสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมภาคใต้ผ่านรำมโนราห์ กลองยาว ผ้ามัดย้อม อังกะลุง ถือเป็นการพัฒนาทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้แบบครบวงจร”
นางสุชัญญา กล่าว
ด้าน นางสาวอัญชลี
นากทองแก้ว ผู้นำรุ่นใหม่บมจ.ซีพี ออลล์ หรือ School Partner (SP) กล่าวด้วยความรู้สึกประทับใจว่า ที่ผ่านมาคอยให้คำแนะนำด้านต่างๆ
ในการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เพื่อการท่องเที่ยวร่วมกับโรงเรียน
เพราะจากการสำรวจพบว่าปัจจุบันเด็กๆ บางส่วนจบออกไปเขาไม่รู้จะทำอะไร
หรือไม่รู้ว่าจะไปเรียนต่อด้านไหน จึงคิดโครงการที่ปูพื้นฐานอาชีพให้นักเรียนตั้งแต่ระดับต้นๆ ต่อไปในอนาคตข้างหน้า
เขาสามารถแตกยอดปรับใช้ความรู้จากตรงนี้ได้
รู้สึกดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันให้พวกเขามีทักษะติดตัวในด้านต่างๆ
เพื่อที่จะเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความรู้ ความสามารถ
ทั้งนี้ เด็กชายจักรภัทร
พรหมทอง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ได้อธิบายถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกับเพื่อนๆ ว่า โครงการนี้ทำให้ตนเองและเพื่อนๆ
ได้ลงมือปฎิบัติในการเรียนรู้จริง ไม่ว่าจะเป็นการผลิตสินค้า ขายสินค้าที่ร่วมกันทำ ได้แก่ ขนมไทย ผ้ามัดย้อม น้ำสมุนไพร ไข่เค็ม นอกจากนี้ยังได้นำความรู้ ความสามารถไปบริการแก่ชุมชนในท้องถิ่นเช่น
รำมโนราห์ รำกลองยาว อังกะลุง นวดฝ่าเท้า รวมถึงงานมัคคุเทศก์น้อย จึงอยากให้เพื่อนๆ ผู้ปกครอง
และคนในชุมชนมาอุดหนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นความภาคภูมิใจของโรงเรียนกันเยอะๆ
เพื่อสนับสนุนกิจกรรมและสร้างรายได้ให้กับนักเรียนทุกคน
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในพันธมิตรผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี (CONNEXT ED) และเป็น 1 ใน 44 องค์กรเอกชนที่เล็งเห็นความสำคัญและตอบรับการมีส่วนร่วมทางการศึกษา โดยขับเคลื่อนโครงการตามปณิธานองค์กร “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสต่อกัน” วางเป้าดูแลโรงเรียนในโครงการ CONNEXT ED 5 เฟส จำนวนกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ ร่วมสนับสนุนโรงเรียนให้สามารถดำเนินโครงการด้านต่างๆ ทั้งโครงการที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ โครงการพัฒนาคุณภาพคน โครงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน โครงการส่งเสริมอาชีพ โครงการด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้นำรุ่นใหม่ หรือ School Partner ซึ่งเป็นอาสาสมัครจากในองค์กรร่วมลงพื้นที่และคอยให้คำแนะนำในการพัฒนาโครงการของโรงเรียนต่างๆ อย่างใกล้ชิด.