ดีเดย์!นัดรวมพลหน้าศาลากลาง ทวงถามผู้ว่าฯเรื่องขโมยรังนก-แฉสุดชั่วย่างนกกิน
หมวดหมู่ : การเมือง, พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 19 ก.ย. 2564, 23:20 น. อ่าน : 1,597พัทลุง-ดีเดย์วันที่ 21 ก.ย.นี้ ประธานปกป้องผลประโยชน์ชาวพัทลุง นัดชาวบ้านรวมตัวหน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อทวงถามความรับผิดชอบของ ผวจ.พัทลุงเรื่องการขโมยรังนกครั้งมโหฬาร เผยไม่ได้ไปประท้วงให้ย้าย แต่ให้ทาง รมว.พิจารณาเอง
ด้าน อดีตรอง นายก อบต.ที่ร้องให้ดีเอสไอไปตรวจสอบ เผยทนไม่ได้เห็นซากย่างนกกินความคืบหน้าการขโมยรังนกอีแอ่นบนหมู่เกาะสี่เกาะห้า ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ที่ทำลายนกไปกว่า 1 ล้านตัว ความเสียหายมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 18 ก.ย.2564 พ.ต.ต.ภิภพ มะโรหบุตร ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 9 (ศปพ.9) ดีเอสไอ นำเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการขโมยรังนกบนเกาะรังนก เนื่องจากได้รับหนังสือร้องเรียนของนายกรีณรงค์ ชาตรี อดีตรองนายก อบต.เกาะหมาก และอดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 กรุงเทพมหานคร พรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อรวบรวมข้อมูลในการรับพิจารณาคดี ต่อมาช่วงเช้าวันนี้(19 ก.ย.2564) ทีมงานของ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.)ที่เดินทางมาตรวจสอบข้อมูลด้านต่างๆ ล่วงหน้า ได้แยกย้ายออกสืบสวนประเด็นต่างๆ เพื่อรวบรวมรายงานให้ พล.ต.อ.สุชาติ ทราบ ในการประชุมกันที่โรงแรม ใน อ.เมืองพัทลุง เวลา 19.00 น. ก่อนจะลงตรวจสอบบนพื้นที่เกาะรังนก
ผู้สื่อข่าวไทยแหลมทอง ซึ่งทำงานร่วมกับผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง รายงานว่านายเกลื่อม พูลสง ประธานปกป้องผลประโยชน์ประชาชนจังหวัดพัทลุง ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ยังมีเรื่องที่น่าติดใจอยู่ โดยก่อนหน้านี้ตนได้นำตัวแทนชาวบ้านจากพื้นที่ ต.เกาะหมาก เข้ายื่นหนังสือต่อนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง หลังจากได้ทราบเบาะแสการขโมยรังนกในหมู่เกาะรังนก แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด จนมีการขโมยกันมโหฬาร ดังนั้นในวันที่ 21 ก.ย. นี้ ตนและชาวพัทลุงจะไปทวงถามความรับผิดชอบของ ผวจ.ในเรื่องที่เกิดขึ้น มวลชนจะไปทวงถามไม่ได้ไปขับไล่ ผวจ.เพราะไม่มีอำนาจในเรื่องนี้ แต่ทาง รมว.มหาดไทย น่าจะมีคำสั่งย้าย ผวจ. ออกนอกพื้นที่ จ.พัทลุง ทั้งนี้ เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมทั้งให้เกิดความสะดวก คล่องตัว ในการดำเนินงานในครั้งนี้
“พูดถึงความเสียหายของรังนกฯ นั้น มิใช่เรื่องที่จะต้องมาปกปิดการรับรู้ของประชาชน โดยเฉพาะชาวพัทลุงที่เป็นเจ้าของเกาะรังนกที่แท้จริง ผมจึงไม่เห็นด้วยที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งในจังหวัดได้ขอร้องมิให้บริษัทรังนกฯ เผยแพร่ข้อมูลความเสียหายบนเกาะรังนกฯต่อสื่อมวลชนและประชาชน จะปกปิดกันได้อย่างไร”นายเกลื่อมกล่าว
ส่วนนายกรีณรงค์ ชาตรี อดีตรองนายก อบต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน เปิดเผยว่า สาเหตุสำคัญที่ตนต้องออกมายื่นเรื่องให้ DSI , รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้ตรวจการแผ่นดินมาตรวจสอบนั้น เนื่องจากทนไม่ไหวต่อพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายที่ไม่เกรงกลัวต่ออำนาจรัฐ ไม่ว่าเป็นการก่อกองไฟภายในถ้ำเพื่อย่างลูกนกแกล้มเหล้า จนทำให้ควันไฟไปติดที่ผนังถ้ำทำให้แม่นกบินหนีออกจากถ้ำกันโกลาหน จนเป็นเหตุให้นกไม่มาทำรังในปีถัดๆไป แม่นกที่แก่ตายตามอายุไข ส่วนลูกนกเกิดใหม่ก็ไม่มีมาทดแทน รังนกของจังหวัดพัทลุงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นรังนกที่ดีที่สุดของโลกนั้นก็จะสูญพันธุ์ไปในเร็ววัน
“การขโมยรังนกในครั้งนี้ถือเป็นขบวนการใหญ่ที่ต้องใช้คนมากกว่า 50 คนขึ้นไปในการจัดเก็บรังนกมากกว่า 2,000 กิโลกรัม ที่ต้องใช้เวลากว่า 10 วัน โดยมีการวางแผนงาน จัดเตรียมคนมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหาก้จ้ากน้าที่ชุดเฝ้าเกาะไม่รู้เห็นเป็นใจคงทำไม่ได้แน่นอน” นายกรีณรงค์กล่าว
ทางด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ยกร่าง พ.ร.บ.รังนกฯ ปี 2540 เปิดเผยว่า เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐตกเป็นจำเลยของสังคม หัวหน้าส่วนราชการที่มีผู้ใต้บังคับบัญชาลงไปปฏิบัติหน้าที่บนเกาะรังนกไม่ควรโทษหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง สิ่งที่หัวหน้าส่วนฯที่ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง ตำรวจ กรมอุทยานฯ และฝ่ายปกครอง ควรจะต้องเร่งตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาขอวตนว่า ได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่บริเวณใด ถ้ำที่ถูกขโมยรังนกใครเป็นผู้รับผิดชอบ รวมทั้งการขยายผลไปตรวจสอบของกลางที่ทางบริษัทฯตรวจพบ อาทิ เสื้อคอกลมที่ด้านหลังระบุชื่อตำรวจยศร้อยตำรวจโท เบอร์โทรศัพท์ และบัญชีธนาคาร รวมทั้งเสื้อชูชีพ อส.ที่พบหน้าถ้ำว่าเป็นของใคร หากพบการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการตามระเบียบกฎหมายอย่างเฉียบขาด ตนเห็นว่าผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ ที่ลงพื้นที่เฝ้ารังนกไม่ควรนิ่งเฉยกับเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว การกวาดบ้านของตนเองให้สะอาด น่าอยู่ น่าอาศัย เป็นเรื่องที่ควรจะต้องทำโดยเร็วที่สุด
ขณะที่นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้นำปัญหาการขโมยรังนกครั้งประวัติศาสตร์ใน จ.พัทลุง ไปอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร หน่วยงานแรกที่ออกมาขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าวคือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในขณะที่กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการอนุรักษ์สัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติบนเกาะรังนก ยังไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหว ในการสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายเหตุร้ายดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งข่าวคืบหน้าจะมาเสนอต่อไป.