ตร.ส่งสำนวนให้ ป.ช.ช.ลงโทษ ผญบ.และ อส.แล้ว -ผู้บงการดิ้นสั่งปิดปากถึงญาติผู้ร่วมขบวนการ
หมวดหมู่ : การเมือง, พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 28 ต.ค. 2564, 09:30 น. อ่าน : 1,013พัทลุง- ป.ป.ช.เตรียมเชือด จนท.รัฐที่ถูกจับกุมในคดีรังนก หลังตำรวจส่งสำนวนให้แล้ว 2 สำนวน เป็นผู้ใหญ่บ้านและ อส. ด้านดีเอสไอลงพื้นที่เจาะความเคลื่อนไหว การพูดคุย และเส้นทางการเงินของผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว ส่วนกลุ่มบงการนั่งไม่ติดกำชับญาติผู้ร่วมขบวนการที่คาดว่าจะถูกออกหมายจับกำชับไม่ให้แพร่งพรายสาวไปถึงกลุ่มบงการ
คดีขโมยรังนกอีกแอ่น จ.พัทลุง ที่กลายเป็นคดีมหากาพย์อีกคดี เพราะผู้ร่วมขบวนการมีบุคคลหลายฝ่ายทั้งนักการเมือง นักการเมืองท้องถิ่นข้าราชการหลายหน่วยงาน ผู้นำท้องถิ่น อส.และพลเรือน โดยความคืบหน้ามา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ลงไปคุมคดี จัดชุดตำรวจจาก สตช. มี พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังคับการกองอุทธรณ์ (อธ.) เป็นหัวหน้าชุดสอบสวน ร่วมกับ พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับตำรวจหลายหน่วย ทำให้สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 17 คน เป็นผู้ใหญ่บ้าน 1 คน อส.4 คน และพลเรือน 12 คน จับกุมได้แล้ว 16 คน ยังกลบหนีอยู่ 1 คน ตามที่เสนอข่าวมาแล้วนั้น
ทีมข่าวไทยแหลมทองซึ่งทำงานร่วมกับทีมข่าวเฉพาะกิจหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง รายงานว่า เมื่อตอนสายวันนี้(27 ต.ค.) พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังคับการกองอุทธรณ์ (อธ.) หัวหน้าชุดสอบสวนคดีนี้ของ สตช. และ พ.ต.อ.วรชาติ รสจันท์ รอง ผบก.ภ.จว. พัทลุง หัวหน้าชุดสอบสวนของ ภ.จว.พัทลุง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ปานดำ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ภ. จว.พัทลุง ได้ร่วมกันตรวจสอบสำนวนการสอบสวนของ สตช. และ ภ.จว.พัทลุง ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เพื่อสรุปผลการตรวจพยานหลักฐาน ประจักษ์พยาน และหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์จากการตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุด ที่คาดว่าน่าจะเชื่อมโยงไปยังขบวนการลักรังนกนอกพื้นที่ รวมทั้งโครงสร้างของกลุ่มคนร้ายทั้ง จนท.รัฐ และพลเรือน เพื่อยื่นขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาแถวที่ 3 ในช่วงปลายเดือนนี้
ส่วนการขยายผลการสอบสวนของตำรวจจาก สตช. และ ภ.จว.พัทลุงนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีความคืบหน้าไปมาก ล่าสุดได้เรียกผู้ต้องสงสัยที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับซื้อรังนกในตลาดมืดที่มีชื่อแห่งหนึ่งของ จ.พัทลุง ซึ่งก่อนหน้านี้กำลังของตำรวจ บก.สส.บช.ภ.9 ทำการล่อซื้อรังนกที่ขโมยมาจากแหล่งรังนกในท้องที่เกาะสี่เกาะห้า ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน โดยจับกุมผู้ต้องหาเป็นหญิงสาวได้ 2 ราย พร้อมของกลางรังนกจำนวนหนึ่ง เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2564 ที่บริเวณลานจอดรถในห้างเทสโก้โลตัส สาขาแม่ขรี ต.โคกสัก อ.บางแก้ว ในขณะนี้ทาง ตร.ภ.9 กำลังคลี่คลายคดีดังกล่าวอยู่เช่นกัน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ประจำศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เขตพื้นที่ 9 ( ศปพ.9) ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่โดยทางลับในพื้นที่ จ.พัทลุง มีการร่วมบูรณาการและการประสานงานด้านการสืบสวนกับกำลังตำรวจของ สตช. และ ภ.จว.พัทลุง มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปฏิบัติงานของดีเอสไอนั้น มุ่งเน้นการสืบสวนด้านเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารของขบวนการผู้ต้องสงสัยลักรังนก เส้นทางการเงินของ จนท.รัฐ และผู้สั่งการบางคน ทำให้ทราบว่า จนท.รัฐบางนายเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เพื่อป้องกันการตรวจสอบ ติดตาม เส้นทางการเงินของดีเอสไอ แต่ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เก็บหลักฐานเด็ดๆของ จนท.รัฐ และพลเรือน รวมทั้งผู้เข้าร่วมขบวนการลักรังนกไว้หลายคนแล้ว เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ดีเอสไอประจำศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เขตพื้นที่ 9 ( ศปพ.9) เป็นหน่วยงานของรัฐหน่วยแรกที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.ปากพะยูน ให้เข้ามาตรวจสอบคดีลักรังนกที่หมู่เกาะรังนก ในพื้นที่ ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน อย่างเงียบๆ ทำให้ได้ข้อมูลไว้ในมือในหลายๆด้าน
ด้านนายธนะ อาษาวุธ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพัทลุง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีที่ จนท.รัฐทั้งผู้ใหญ่บ้าน และ อส. ถูกจับกุมในคดีลักรังนกนั้น ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพัทลุง ได้รับสำนวนการสอบสวนจากตำรวจแล้ว 2 สำนวน เมื่อตอนเย็นวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้แก่สำนวนการสอบสวนของผู้ใหญ่บ้าน 1 ราย และ อส. 1 ราย ทางสำนักงานฯจะได้เสนอเรื่องดังกล่าวไปยัง ป.ป.ช.ในส่วนกลาง เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ใน 2 แนวทาง คือ ป.ป.ช.ส่วนกลางจะส่งสำนวนการสอบสวนไปให้ตำรวจทางดำเนินการเอง หรือมอบหมายให้ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพัทลุง เป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้เนื่องจากผู้กระทำความผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐในระดับธรรมดา แต่หากเป็นจนท.รัฐที่ถูกจับกุมอยู่ในระดับสูง ทาง ป.ป.ช.ส่วนกลางน่าจะรับไว้ดำเนินการเอง หรือมอบหมายให้ ป.ป.ช.จังหวัดเป็นผู้ดำเนินการเองก็ได้ เนื่องจาก จนท.รัฐที่กระทำความผิดนั้นมีอัตราโทษที่สูงกว่าบุคคลธรรมดา
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของเครือข่ายขบวนการขโมยรังนกว่า จากการที่ตำรวจเดินหน้าสืบสวนสอบสวนอย่างจริงจังและไม่เปิดโอกาสให้เครือข่ายขบวนฯเข้าติดต่อเพื่อเคลียร์คดี ทำให้กลุ่มบงการที่มีทั้งนักการเมืองและอดีต สจ.ในภาคใต้ รวมทั้งกลุ่มสั่งการที่มีข้าราชการใน จ.พัทลุง และหล้งบ้านข้าราชการต่างร้อนรน พยายามทุกวิถีทางที่จะหาทางตัดตอนไม่ให้มีการสาวไปถึงกลุ่มตนเอง นอกจากจะสั่งปิดปากไม่ให้เปิดเผยถึงและสั่งให้หลบหนีบ้างแล้ว ยังติดต่อกับญาติของผู้ร่วมขบวนการ ให้กำชับย้ำกับผู้ที่ร่วมขบวนการซึ่งคาดว่าจะถูกจับไม่ให้แพร่งพรายไปถึงด้วย ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.