ตร.ไซเบอร์ฯ บุกจับ 2 พี่น้อง “เจ้าทศกัณฐ์ เงินกู้” เก็บดอกเบี้ยโหด

หมวดหมู่ : ตรัง,

อ่าน : 293
ตร.ไซเบอร์ฯ บุกจับ 2 พี่น้อง “เจ้าทศกัณฐ์ เงินกู้” เก็บดอกเบี้ยโหด


เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2567 เวลา 16.30 น.

พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ธีระ เชื้อสุวรรณ ผกก.4 บก.สอท.5 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.กฤตภพแก้วรอด สว.กก.4 บก.สอท.5 (ชป.ตรัง) และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ สภ.เขาวิเศษ นำหมายค้นศาลจังหวัดตรัง ที่ ค.351/2567 ลงวันที่ 4 ก.ย. 2567 เข้าแสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่เลขที่ 92 หมู่ 12 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ก่อนร่วมกันจับกุมตัว นายพลเชษฐ์ แก้วยัง อายุ 45 ปี อยู่เลขที่ 92 หมู่ 12 ต.เขาวิเศษอ.วังวิเศษ จ.ตรัง และ นายสุพัฒน์ แก้วยัง อายุ 38 ปี ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน ฉายา “เจ้าทศกัณฐ์ เงินกู้”


พร้อมยึดของกลาง จำนวน 10 รายการ ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ, สมุดจดใช้จดบันทึกรายชื่อลูกค้าเงินกู้,เอกสารหนังสือสัญญากู้ยืมเงินตามกฎหมายใหม่ พร้อมสำเนาบัตรผู้กู้และเอกสารที่เกี่ยวข้อง , กระดาษบันทึกภาพถ่ายหน้าจอโทรศัพท์มือถือแชทสนทนาปล่อยเงินกู้กับลูกค้า , อาวุธปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ ขนาด .38 ยี่ห้อ LUGER ชนิดรมดำ พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 บรรจุอยู่ในลูกโม่ จำนวน 6 นัด


พฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าหน้าที่ ตร.กก.4 บก.สอท.5 (ชป.ตรัง) ชุด Cyber Guard (ชุดปฏิบัติการที่ 1 จ.ตรัง) ได้ทำการสืบสวนหาข่าวผ่านช่องทางสื่อโซเชียล เฟซบุ๊ก ไลน์ และสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ พบเพจเฟซบุ๊กของผู้ถูกจับกุมร่วมกันลักลอบให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงิน เรียกรับดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ก่อนทำการสืบสวนหาข่าวเพื่อทราบตัวตนและสถานที่พักอาศัยของเจ้าของเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวเพื่อจับกุม ก่อนทราบตัวตนและสถานที่พักอาศัยเจ้าของบัญชีเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นที่แน่ชัดแล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดจับกุมได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจ.ตรัง ออกหมายค้น เพื่อเข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว 


ต่อมาวันที่ 5 ก.ย. เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันนำหมายค้น เดินทางไปบ้านดังกล่าว เมื่อไปถึงที่บริเวณหน้าต่างห้องนอนของนายพลเชษฐ์ ซึ่งขณะนั้นเปิดอยู่สังเกตเห็นนายพลเชษฐ์ นั่งอยู่ที่ริมหน้าต่างกำลังเปิดแชทเฟซบุ๊ก ดูข้อลูกค้าเงินกู้และนำบันทึกรายการลูกเงินกู้ลงในสมุดบันทึก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัว โดยนายพลเชษฐ์ รับว่าตนเองกำลังทำการบันทึกรายการลูกค้าเงินกู้จริง จึงได้ตรวจยึดของกลาง จากนั้นชุดตรวจค้นจับกุม จึงได้ขอทำการเข้าตรวจค้นที่ภายในห้องนอน ปรากฏพบของกลางหลายรายการ และรับว่าเป็นของตน ขณะเจ้าหน้าที่อยู่ภายในบ้านดังกล่าวนายสุพัฒน์น้องชายได้เดินออกมาจากห้องนอน เมื่อสอบถามนายสุพัฒน์ รับว่าตนเองและพี่ชาย คือนายพลเชษฐ์ ได้ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจริง


จากการสอบถามทั้งสองให้รับสารภาพว่า ได้ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราจริง โดยเริ่มทำมาประมาณช่วงต้นปีที่ผ่านมา และรับว่าของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้เป็นของพวกตนเองจริง โดยในส่วนของการปล่อยเงินกู้ให้ลูกค้า จากการสอบถามทั้งสองให้การว่าในการปล่อยเงินกู้ให้ลูกค้าพวกตนเองจะเรียกเก็บดอกเบี้ยจากลูกค้าเป็นราย 10 วัน/ครั้ง เช่น กรณีมีลูกค้าขอกู้ยืมเงิน จำนวน 1,000 บาท พวกตนเองจะให้ลูกค้าเงินกู้ชำระเงินดอกเบี้ยเป็นราย 10 วัน/ครั้ง จนกว่าจะคืนเงินต้นตามจำนวน ซึ่งคิดเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 30 บาท/เดือน (โดยประมาณ) วงเงินหมุนเวียนประมาณ 2 ล้านบาท/เดือน เบื้องต้นมีผู้เสียหายหรือลูกหนี้กว่า 100 คน


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา 1.ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงิน หรือกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางให้กู้ยืมเงิน โดยมีลักษณะเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด(ตาม พรบ.ห้ามเรียกรับดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 มาตรา 4 (1)2. ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยการจัดมาซึ่งเงินทุน แล้วให้ผู้อื่นกู้ยืมโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ข้อ 5 (7) และข้อ 16) และ 3. ผู้ถูกจับที่ 1 โดยกล่าวหาว่ามีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ก่อนนำตัวผู้ถูกจับพร้อมด้วยของกลางมาที่ สภ.เขาวิเศษ เพื่อทำการสืบสวนขยายผล และทำบันทึกจับกุม และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.