ททท.จับมือกระทรวงท่องเที่ยวมาเลย์ บูมกลุ่ม ขับรถเที่ยวข้ามแดน
หมวดหมู่ : สตูล,
โฟสเมื่อ : 26 ต.ค. 2567, 17:08 น. อ่าน : 244เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดย นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ และ กระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรมแห่งมาเลเซีย โดย ดร. ยัสมิน บินติ ยาซิม รองเลขาธิการใหญ่ ร่วมกันแถลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เชื่อมโยงระหว่างกัน ด้วยการท่องเที่ยวรูปแบบขับรถข้ามชายแดนไทย-มาเลเซีย (Cross-border Tourism) พร้อมร่วมปล่อยขบวนคาราวานThailand-Malaysia Self-Drive Tourism กว่า 60 คัน ณ ลานจอดรถ The Zon Duty Free Complex ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างด่านสะเดา จังหวัดสงขลา ราชอาณาจักรไทย และด่าน
บูกิตกายูฮิตัม สหพันธรัฐมาเลเซีย ซึ่งมีนักขับรถและผู้ร่วมคาราวานเข้าร่วมงานกว่า 100 คน เดินทางสัมผัสประสบการณ์ การท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมของทั้ง 2ประเทศ
นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. เปิดเผยว่า ตามที่ รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนนโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการ ท่องเที่ยวระดับโลก และเป็นศูนย์กลางในการเดินทางของภูมิภาคอาเซียน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. ได้เร่งดาเนินการมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวข้ามแดนระหว่างประเทศเพื่อนบ้านภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน(ASEAN)
สำหรับประเทศไทยและมาเลเซียนั้น เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมาหาสู่กันอยู่ เสมอสามารถเชื่อมโยงกันได้ทั้งทางอากาศ ทางบก (ทางถนนและทางราง) และทางน้า ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยว มาเลเซียติดอันดับ Top 3 ตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเยือนไทยมากที่สุด โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 23 ตุลาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเยือนไทยแล้วมากกว่า 4 ล้านคน โดยร้อยละ 49 เลือกเดินทางเข้าประเทศไทยผ่าน ชายแดนด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา
จากปัจจัยสนับสนุนของมาตรการรัฐบาลในการขยายเวลาการ ยกเว้นการยื่นรายการตามแบบ ตม.6 ของ 4 ด่านชายแดนทางบกระหว่างประเทศไทยและมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2567 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 จึงเป็นโอกาสอันดีที่ไทยและมาเลเซียจะร่วมกันส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวทั้ง สองประเทศเดินทางระหว่างกันในรูปแบบการท่องเที่ยวขับรถข้ามแดน (Cross-border Tourism) ทั้งนี้ ในปี 2567 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมาเยือนไทยรวมทั้งหมดไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน ในขณะเดียวกันจะมีคน ไทยเดินทางไปเยือนมาเลเซียในปีนี้ ไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน รวมแล้วคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางระหว่าง กันไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน
ดร. ยัสมิน บินติ ยาซิม รองเลขาธิการใหญ่ กระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม แห่งมาเลเซีย กล่าวว่ามาเลเซียมีความยินดียิ่งที่ได้มีความร่วมมือกับประเทศไทยในการส่งเสริมการท่องเที่ยวข้ามชายแดน โดยจะมุ่ง ส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของสองประเทศ และมาเลเซียได้เตรียมการประกาศให้ปี 2569 เป็นปีท่องเที่ยวมาเลเซีย (Visit Malaysia 2026) ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกไม่น้อยกว่า 35.6 ล้านคน และเชื่อว่าการท่องเที่ยวข้ามชายแดน จะมีบทบาทสาคัญในการเพิ่มจานวนนักท่องเที่ยวระหว่างไทยและมาเลเซียได้อย่างมาก สอดคล้องกับความตั้งใจของมาเลเซียที่จะส่งเสริมให้มีการอานวยความสะดวกสาหรับการเดินทางข้ามชายแดนอย่างไร้รอยต่อ และเสริมสร้างความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับไทยและประเทศ
การแถลงความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีในการต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ โดยททท. และกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม แห่งมาเลเซีย ได้ร่วมกันเปิดตัวคู่มือแผนที่เส้นทาง ท่องเที่ยวSelf-Drive เชื่อมโยงชายแดนไทยและมาเลเซีย ซง่ึ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และสิ่งอานวยความสะดวกต่าง ๆ ในเส้นทาง โดยนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถรับข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล พร้อมทั้งค้นหาคู่มือเส้นทาง ท่องเที่ยวเชื่อมโยงประเทศไทยและมาเลเซีย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ได้ที่เว็บไซต์https://tourismproduct.tourismthailand.org
ททท. มีแผนจะพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยว โดยเฉพาะ การท่องเที่ยวขับรถข้ามแดนร่วมกับมาเลเซียเพิ่มเติม อีกทั้งพิจารณาการพัฒนาสินค้าและบริการการท่องเที่ยวที่ สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงการจัดกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยว และเพิ่มโอกาสให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียได้ขยายการ เดินทางไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ของไทย นอกเหนือจากภูมิภาคภาคใต้ด้วย เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงกัน โดยสะดวก
นอกจากนี้ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็น ASEAN Hub ททท. มีนโยบายที่จะกระตุ้นการเดินทางเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางคมนาคมที่หลากหลาย สาหรับประเทศไทยและมาเลเซียนั้นถือว่ามีข้อได้เปรียบท่ีสามารถเชื่อมโยงกันได้ทั้งทางอากาศ ทางบก (ทางถนนและทางราง) และทางน้า จึงเป็นโอกาสอันดีในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศไปพร้อมกัน ส่วนการเชื่อมโยงทางอากาศมีความร่วมมือในการเปิดเส้นทางการบินใหม่ ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง อาทิ เส้นทางบินกัวลาลัมเปอร์-เชียงใหม่ของ Malaysia Airline
ด้านการเดินทางทางราง เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ได้ริเริ่มผลักดันการเดินทาง ท่องเที่ยวโดยรถไฟจากกัวลาลัมเปอร์ ตรงไปยังสถานีหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ภายใต้การบูรณาการความร่วมมือกัน ระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับการรถไฟมาลายา หรือ KTMB (Keretapi Tanah Melayu Berhad) ให้บริการขนส่งนักท่องเที่ยวโดยรถไฟ KTM Electric Train Service (ETS) ซึ่งให้บริการจากสถานี KL Sentral ไปยัง สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส ก่อนจะเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทั้งยังจัด Charter train ชื่อ My Sawasdee ในเส้นทางกัวลาลัมเปอร์-ปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ รองรับผู้โดยสารได้ถึงเที่ยวละ 400 คน โดยจะเปิดให้บริการเพียงช่วงวันหยุดยาว หรือเทศกาลเฉลิมฉลองพิเศษ ซึ่ง ททท. มีแผนที่จะส่งเสริมเส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางที่เปิดให้บริการเป็นประจาเพิ่มขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ ททท. คาดว่า การเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการนาเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวผ่านช่องทางคมนาคมที่หลากหลายระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้านนั้น จะทำให้ ททท. ดำเนินกิจกรรมด้านการตลาด ได้บรรลุตามเป้าของรัฐบาล ซึ่งตั้งเป้ารายได้จาก การท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และเพิ่มเป้าหมายจ านวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 36.7 ล้านคนภายในปี 2567 นี้.