ทวงคืนพระลากไม้อายุ 100 ปี สนง.ศิลปากรที่ 12 ยึกยักเก็บไว้

หมวดหมู่ : นครศรีธรรมราช, ทั่วไป,

อ่าน : 869
วัดเมืองคอน ทวงคืนพระพุทธรูปเก่า สนง.ศิลปากรที่ 12 พระลากไม้อายุกว่า 100 ปี
ทวงคืนพระลากไม้อายุ 100 ปี สนง.ศิลปากรที่ 12  ยึกยักเก็บไว้

นครศรีธรรมราช-พระชาวบ้านวัดเมืองคอนทวงคืนพระลากไม้อายุกว่า 100 ปี จาก สนง.ศิลปากรที่ 12 หลังถูกคนร้ายลักหายไปจากวัดแล้วมีคนพบนำส่งสนง.ศิลปากรฯ รักษากว่า 10ปี ชาวบ้านมั่นใจเป็นพระลากของวัดแน่นอน จะเดินทางหน้าทวงคืนจนถึงที่สุด


การทวงคืนพระพุทธรูปเก่านี้ พระสมุห์นันธพัทธ์  ญาณวชิโร เลขานุการเจ้าอาวาสวัดมัชฌิมภูมิ หรือวัดเกาะหัวบ้าน หมู่ 1 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายอาคม   สุวรรณปากแพรก อายุ 51 ปี อดีตรองนายกอบต.บางจาก และอดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บางจาก ได้ร่วมกันเปิดเผยเรื่องราวของพระลากไม้ ปางยืนอุ้มบาตรสูง130ซม. อายุกว่า 100 ปี ของวัด ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในหมู่บ้านมายาวนาน ที่ถูกขโมยไปและมีการพบแต่ยังไม่ได่รับคืนกลีบมาที่วัด


สำหรับเหตุการณ์ขโมยพระพุทธรูปดังกล่าวคนร้ายใจบาปได้เข้าไปลักพระลากไม้ดังกล่าวของวัดสูญหายไปจากวัดตั้งแต่ประมาณปี 2554 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2556 มีชาวบ้านพบพระพุทธรูปปางไม้ปางอุ้มบาตรบริเวณริมคลองห้วย ท้องที่ชุมชนต้นหว้า ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทางตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้นำพระลากไม้ดังกล่าวไปมอบให้กับสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช ก่อนที่สำนักกรมศิลปากรที่ 12 จะนำพระพุทธรูปดังกล่าวไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณธ์สถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช จนปัจจุบันยังไม่ได้ส่งคืนกลับให้ทางวัด


นายอาคม กล่าวต่อไปอีกว่า หลังจากทราบข่าวว่ามีการพบพระลากไม้ดังกล่าว ทางพระวัดมัชฌิมภูมิ และชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บางจาก จึงได้เดินทางไปยัง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช และพบกับ จนท.สำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช เพื่อขอดูและตรวจสอบพระลากไม้ดังกล่าวว่าเป็นพระลากไม้ของวัดที่สูญหายไปเมื่อปี2554หรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยการนำหลักฐานจากภาพถ่ายและพยานบุคคลอีกหลายปากไปแสดงต่อคณะกรรมการพิจารณาสิทธิการครอบครองพระพุทธรูป ทางพระและชาวบ้านต่างมั่นใจพระลากไม้ที่พบนั้นเป็นของวัดมัชฌิมภูมิอย่างแน่นอน เพราะจำลักษณะสีทองเหลืองของพระลากไม้ได้ย่างแม่นยำ ถึง 95% ทางวัดจึงดำเนินการยื่นเรื่องเพื่อขอรับพระลากดังกล่าวกลับคืนวัดทันที  แม้ว่าจะมีวัดแห่งหนึ่งมาติดต่อขอดูพระลากที่สูญหายไปด้วยเช่นกันแต่ต่อมาวัดดังกล่าวได้ถอนตัวไปเพราะไม่ใช่พระลากของวัดที่หายไป


ล่าสุดทางสำนักกรมศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช มีกำหนดจะส่งมอบพระลากไม้ให้กับทางวัดในวันที่ 3 เมษายน 2565  แม้ทางคณะกรรมการฯจะสงสัยความแตกต่างกันบริเวณฐานของพระพุทธรูป แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายังไม่มีวัดใดมากล่าวอ้างสิทธิครอบครองนอกจากวัดมัชฌิมภูมิ ทางคณะกก.จึงมีมติเห็นชอบส่งมอบพระพุทธรูปไม้หรือพระลากคืนแก่วัดมัชฌิมภูมิเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนได้ศรัทธาต่อไป แต่มีข้อตกลงกันว่าเมื่อนำพระลากกลับมาไว้ที่วัดแล้วภายใน 1 ปี หากไม่มีวัดไหนมายื่นเรื่องคัดค้านก็จะยกพระลากเป็นสมบัติของวัดมัชฌิมภูมิต่อไป จนสร้างความดีใจให้ชาวบ้านและพระของวัดเป็นอย่างมากและได้มีการเตรียมสถานที่ติดตั้งห้องแก้วในศาลาการเปรียญของวัดไว้เพื่อเตรียมประดิษฐานพระลากไว้พร้อม และเตรียมจัดงานฉลองให้กับพระลาก


ปรากฏว่าจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่ได้มีการส่งคืนพระลากให้กับทางวัด โดยทางสำนักกรมศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราชแจ้งกับทางวัดว่า ทาง ผวจ.นครศรีธรรมราชไม่ลงนามอนุมัติ โดยให้เหตุผลให้สำนักกรมศิลปากรที่12 นครศรีธรรมราช ไปหาข้อกฎหมายที่รองรับที่จะส่งคืนพระลากไม้ให้กับทางวัดมัชฌิมภูมิ แต่ทางสำนักกรมศิลปากรที่ 12 ไม่สามารถหาข้อกฎหมายมารองรับได้ ทำให้พระและชาวบ้านต่างก็เสียความรู้สึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปตามๆกัน อยากให้ทาง ผวจ.นครศรีธรรมราชได้เห็นใจชาวบ้านที่ต้องการนำเอาพระลากกลับคืนวัดโดยเร็วที่สุดแต่กลับมาล่าช้า เพราะเรื่องนิดเดียว พร้อมยืนยันจะทวงคืนจนถึงที่สุด นายอาคมและพระสมุห์นันทพัทธ์ ญาณวชิโรกล่าวกับผู้สื่อข่าวในที่สุด.