นราฯอ่วมฝนถล่ม 4 วัน น้ำบ่าไหลท่วม-ดินสไลด์ถล่มบ้านพัง

นราธิวาส-ฝนตกหนักติดต่อกัน 4 วัน นราธิวาสอ่วมหนัก น้ำท่วมระลอกแรกแล้วที่ อ.ระแงะ จากป่าที่สูงไหลบ่าลงลำคลองล้นตลิ่งและพื้นที่รายลุ่มไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และยังมีดินสไลด์ถล่มใส่บ้านพัง ต้นไม้โค่นล้มปิดกั้นถนน เจ้าหน้าที่ทหารพรานระดมช่วยเหลือชาวบ้านปลอดภัย

     ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเช้าวันที่ 21 พ.ย.66 ว่า บรรยากาศโดยทั่วไป จ.นราธิวาส มีฝนตกลมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 วันติดต่อกัน และมีการทิ้งช่วงเป็นระยะๆ ส่งผลทำให้มวลน้ำที่ตกสะสมเป็นเวลาหลายวัน ได้อิ่มตัวไหลบ่าจากพื้นที่สูง เพื่อระบายลงพื้นที่ราบลุ่มและลำคลองในหมู่บ้านบาโงสลายอ ม.6 ต.บองอ อ.ระแงะ เกิดล้นตลิ่งและได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน 13 ครัวเรือน ที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มใกล้กับลำคลองซึ่งเป็นทางน้ำไหลผ่านโดยมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 30 ถึง 40 ซ.ม. 

     เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4510 กรมทหารพรานที่ 45 และทหารพรานหญิง ได้ระดมกำลังพลออกให้การช่วยเหลือชาวบ้าน ด้วยการชนย้ายสิ่งของสัมภาระขึ้นที่สูงเพื่อหนีระดับน้ำท่วมขัง เนื่องจากคาดว่าหากสภาวะฝนยังไม่หยุดตก มวลน้ำจากหมู่บ้านข้างเคียงจะไหลบ่าทะลักลงลำคลองดังกล่าว จะส่งผลทำให้มีปริมาณน้ำท่วมขังสูงและขยายวงกว้างไปยังบ้านเรือนของประชาชน ที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มเขตรอยต่อ

     นอกจากนี้จากสภาวะฝนที่ตกสะสมในครั้งนี้ ยังส่งผลทำให้ต้นไม้ใหญ่ริมถนนในหมู่บ้านโคกกาด ม.3 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ ได้โคนล้มขวางถนน ประชาชนจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 45 และเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัย ได้นำเลื่อยยนต์มาตัดเคลื่อนย้ายออกจากผิวถนน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ยานพาหนะสัญจรไปมาได้ดังเดิม

     รายงานแจ้งว่า ผลจากสภาวะฝนที่ตกลงมา เมื่อช่วงดึกของวันที่ 20 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา มีเหตุดินสไลด์จากเนินดินริมถนนในพื้นที่ ม.5 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ ลงมาทับบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายบางส่วน 1 หลังแต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย ซึ่งล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปให้การช่วยเหลือแล้ว

     ส่วนกรณีแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนราและแม่น้ำโก-ลก นั้น มีปริมาณน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแม่น้ำสายบุรีซึ่งมีระดับสูง 17.90 เมตร มีปริมาณน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 4.34 เมตร แม่น้ำบางนรา มีระดับสูง 14.95 เมตร ล่าสุดมีปริมาณน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.05 เมตร และแม่น้ำสุไหงโก-ลก มีความสูง 7.07 เมตร มีปริมาณน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.23 เมตร ส่งผลให้สถานการณ์ของแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สายมีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางจังหวัดนราธิวาส ได้ประชาสัมพันธ์ประกาศเตือนผ่านไปยังนายอำเภอทั้ง 13 อำเภอ ให้เฝ้าระวังหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินให้สามารถออกให้การช่วยประชาชนได้ทันท่วงทีแล้ว.