“นริศ”ส.ส.พัทลุง ยื่นกระทู้ถาม นายกฯ เรื่องแก้ปัญหาบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์
หมวดหมู่ : การเมือง, พัทลุง,
โฟสเมื่อ : 1 มิ.ย. 2563, 20:02 น. อ่าน : 1,244 “นริศ ขำนุรักษ์” ส.ส.พัทลุง เขต 3 ยืนกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์แล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรายชื่อเป็นผู้ยากจน ยากไร้ บางส่วนยอมจะออกจากพื้นที่บุกรุก และและและบางส่วนไม่ออกอ้างทำกินมาตั้งแต่สมัยคนรุ่นก่อน
กรณีที่กลุ่มชาวบ้านเข้าไปไปถือครองที่ดิน “ควนท่าสำเภาสาธารณประโยชน์” จำนวน 3,727 ไร่เศษ เพื่อสร้างเป็นที่ทำกินมากกว่า 3,500 ไร่ มานานกว่า 10 ปี จนชาวบ้านร้องเรียนไปยัง พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธ์ ผวจ.พัทลุง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ทางอำเภอเมืองพัทลุง ฝ่ายปกครอง อปท. และผู้นำท้องถิ่น เร่งสำรวจผู้บุกรุกเข้าไปสร้างที่ทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอยู่อยู่นอกเหนือบัญชีผู้ยากจน ยากไร้ จำนวน 397 ครัวเรือน ในขณะที่ ร.ต.อนุกูล สุภาไชยกิจ อดีต สว.พัทลุง และอดีตประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา รวมทั้ง นายทวี ภูมิสิงหราช อดีต สว.พัทลุง ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มผู้บุกรุกที่ไม่ใช่ผู้ยากจน ยากไร้ ออกจากพื้นที่ดังกล่าว พร้อมฝากถึง ขรก.บางราย ผู้นำท้องถิ่นบางคน หากรู้ว่าตนเองเข้าไปบุกรุกที่ดินดังกล่าวให้รีบออกมาจากพื้นที่โดยเร็ว ส่วน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดค ส.ส.พัทลุง ออกมาแนะนำการแก้ปัญหาดังกล่าว 2 ประการ ซึ่งมีทั้งให้เช่าและยึดคืน ตามข่าวที่เสนอมาอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2563 ว่า ได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านใน ต.ชัยบุรี รายหนึ่ง เปิดเผยว่า หลังจากที่นายสุพัฒน์ มุลเมฆ อดีตกำนัน ต.ชัยบุรี อดีตนายก อบต.ชัยบุรี และผู้ทรงคุณวุฒิการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ซึ่งเป็นผู้ยื่นคำขอใช้ที่ดินดังกล่าวให้เป็นที่ทำกินของคนยากจน ยากไร้ จำนวน 397 ราย ตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย ในสมัยเป็นนายก อบต.ชัยบุรี ได้ประกาศไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับผู้ที่เข้ามาบุกรุกในที่ดินดังกล่าว ยกเว้นผู้ยากจน ยากไร้ พร้อมเดินหน้าประสานงานงานกับทุกฝ่ายในการแก้ปัญหาดังกล่าว รวมทั้งเข้ารื้อถอนเสาไฟฟ้า สายไฟฟ้า ที่ปักเสา เดินสาย เข้ามาในพื้นที่บุกรุกไปแล้วทุกต้น ทำให้ชาวบ้านผู้บุกรุกส่วนหนึ่งพร้อมที่จะออกจากพื้นที่ดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ในขณะที่ชาวบ้านผู้บุกรุกส่วนหนึ่งที่ไม่มีรายชื่ออยู่ในกลุ่มผู้ยากจน ยากไร้ ยังปฏิเสธที่จะออกจากพื้นที่โดยอ้างว่าพื้นที่ที่พวกตนทำกินนั้นได้มีการทำกินมาแล้วตั้งแต่สมัยคนรุ่นก่อน
นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง เขต 3 พรรค ปชป.เปิดเผยถึงกรณีนี้อีกว่า ปัญหาดังกล่าวนี้เป็นมาอย่างยาว นานและต่อเนื่อง ซึ่งหลายๆ รัฐบาลที่ผ่านมาได้มีความพยายามในการออกมาตรการต่างๆ เพื่อนำมาแก้ปัญหาแต่ก็ยังไม่มีมาตรการใดๆ ที่สามารถนำมาแก้ปัญหานี้ได้เท่าที่ควร ปัจจุบันจำนวนประชากรของประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่พื้นที่สำหรับการอยู่อาศัยและทำกินมีจำนวนจำกัด ทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่มีที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกิน ประกอบกับมีปัญหาการถือครองที่ดินโดยไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น ส่งผลให้ประชาชนส่วนหนึ่งที่มีฐานะยากจนมีการบุกรุกพื้นที่สาธารณะเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนาจนทำให้เกิดความขัดแย้งต่างๆตามมามากมาย ทั้งระหว่างประชาชนกับประชาชน ประชาชนกับรัฐ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อนำมาแก้ปัญหาดังกล่าวทั้งในจังหวัดพัทลุงและทั่วประเทศ ดังนั้นตนจึงได้ยื่นเรื่องถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อขอตั้งกระทู้ถามนายกัฐมนตรีว่ารัฐบาลจะมีมาตรการในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะเพื่อที่อยู่อาศัยและทำกินของปะชาชนอย่างไรบ้าง โดยขอให้นายกรัฐมนตรีตอบในที่ประชุมด้วย
ด้าน ร้อยตรี อนุกูล สุภาไชยกิจ อดีต สว.พัทลุง และอดีตประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา และ นายทวี ภูมิสิงหราช อดีต สว.พัทลุง ให้สัมภาษณ์ว่า เห็นด้วยกับแนวทางของ นายสุพัฒน์ มุลเมฆ อดีตนายก อบต.ชัยบุรี ที่จะใช้ที่ดินดังกล่าวบางส่วนเป็นที่ทำกินของครอบครัวผู้ยากจนฯทั้ง 397 ราย แต่ไม่เห็นด้วยกับผู้มีที่ดินทำกิน มีเอกสิทธิ์ถือครอง เข้าไปต่อยอดความร่ำรวย ความมั่นคงทางฐานะการเงินให้กับตนเองและครอบครัว ในที่ดินสาธารณะประโยชน์ ล่าสุดได้รับการายงานจากชาวบ้านรายหนึ่งว่า มีผู้นำท้องถิ่นบางรายเข้าไปถือครองในที่ดินดังกล่าวด้วย จึงขอเรียกร้องให้ทางอำเภอได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว พร้อมกันนั้นขอให้กลุ่มองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใน จ.พัทลุง ซึ่งมีอยู่หลายองค์กร (NGO) เข้ามามีบาทที่สำคัญในการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย.