“นริศ” ส.ส.พัทลุง เดือดจัด เรียกร้องให้ ผวจ.พัทลุง ตรวจสอบผู้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ทั้งจังหวัด

            “นริศ ขำนุรักษ์” ส.ส.พัทลุง เดือดจัด เห็นคนบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์กว่า 3 พันไร่ เรียกร้องให้ ผวจ.พัทลุง พลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการสำรวจการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ทั่วจังหวัดเพื่อดำนินคดี และเตรียมนำเรื่องการบุกรุกที่ดินใน ต.ชัยบุรี เข้าอภิปรายในรัฐสภา

            ความคืบหน้ากรณี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบหมายให้ พ.อ.พิชิต โชติแก้ว รอง ผอ. รมน.จ.พัทลุง และจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ไปตรวจสอบชาวบ้านในท้องที่ ม.2, 4, 5, 7 ต.ชัยบุรี และท้องที่ ม.8, 11 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง ประมาณ 2,000 ครัวเรือน เข้าไปถือครองที่ดิน “ควนท่าสำเภาสาธารณประโยชน์” จำนวน 3,727 ไร่เศษ ซึ่งอยู่ในความดูแลทางปกครองของกระทรวงมหาดไทย เพื่อสร้างเป็นที่ทำกินมากกว่า 3,500 ไร่ มานานกว่า 10 ปี ล่าสุด นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง ได้ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ดังกล่าวด้วยตนเองโดยไม่บอกให้ท้องถิ่นได้รับทราบ และตกใจที่เห็นการบุกรุกในพื้นที่มากมาย จึงสั่งให้นำปัญหาการบุกรุกดังกล่าวเข้าที่ประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายปกครอง และท้องถิ่น ฯลฯ ในวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.2563 นี้ เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้บุกรุกต่อไป

            เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2563 นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนและตกใจกับเหตุการณ์การบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์มากกว่า 3,500 ไร่ในครั้งนี้ ต้องชื่นชม แม่ทัพภาคที่ 4 ที่มอบหมายให้ กอ.รมน.จ.พัทลุง เข้าไปตรวจสอบการบุกรุกที่ดินตามการร้องเรียนของชาวบ้าน ตนคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการมอบหมายให้ จนท.กอ.รมน.จ.พัทลุง ที่ชาวบ้านยอมรับ และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ได้สำรวจตรวจสอบที่ดินสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ จ.พัทลุง ที่ถูกชาวบ้าน หรือกลุ่มนายทุนบุกรุกเข้าไปถือครองสร้างที่ทำกิน โดยดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบกฎหมายที่เด็ดขาด เพื่อนำที่ดินสาธารณประโยชน์เหล่านี้กลับมาเป็นของรัฐต่อไป

            นายนริศ กล่าวอีกว่า สำหรับที่ดินดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงมหาดไทย นายกู้เกียรติ ผวจ.พัทลุง สามารถสั่งการให้ทางอำเภอ ท้องถิ่น เข้าไปดำเนินการสำรวจการถือครองเป็นแปลงๆ และเป็นรายบุคคลได้ รวมทั้งการสำรวจกลุ่มนายทุนที่เข้ามาถือครองในที่ดินดังกล่าว หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างใดอย่างหนึ่งได้ทันที โดยเฉพาะการบุกรุกเข้าไปสร้างสวนยางพารา ปลูกปาล์มน้ำมัน สวนมะพร้าว การสร้างที่ทำกินโดยปักแนวเขตที่มั่นคง ฯลฯ ทางจังหวัดสามารถดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดได้เลย เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดที่ชัดเจนโดยไม่ต้องเกรงกลัวอำนาฐรัฐแต่อย่างใด พร้อมกันนั้นตนอยากให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดพัทลุง ได้เข้าไปตรวจสอบกลุ่มชาวบ้านที่ยื่นขอติดตั้งไฟฟ้าเพื่อการเกษตรในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ แต่กลับดึงสายไฟฟ้าเข้าไปใช้ในพื้นที่บุกรุกว่าเป็นการกระทำที่ผิดจุดประสงค์ในการของติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าหรือไม่  

            “ขณะนี้ผมได้รวบรวมภาพถ่ายจากสื่อต่างๆ ภาพถ่ายที่ได้มาจากให้ทีมงานของผมเข้าไปถ่ายภาพพื้นที่การบุกรุกได้มาจำนวนหนึ่งแล้ว และหลังจากนี้ผมจะนำภาพถ่ายต่างๆ ภาพถ่ายทางอากาศและปัญหาการบุกรุกที่ดินควนท่าสำเภาสาธารณประโยชน์ จำนวน 3,727 ไร่เศษ เข้าไปอภิปรายในรัฐสภา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหาการบุกรุกในที่ดินสาธารณประโยชน์ในจังหวัดพัทลุงและตามจังหวัดต่างๆ ต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมานั้นปัญหาดังกล่าวได้ถูกผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ได้ปล่อยปละละเลยนานานแล้ว บางพื้นที่มีผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง พร้อมกันนั้นจะขอ จนท.กอ.รมน. และ จนท.รัฐที่เกี่ยวข้อง ได้ใช้จังหวัดพัทลุงเป็นพื้นที่นำร่องในการแก้ปัญหาการบุกรุกเข้าไปถือครองสร้างที่ทำกินในที่ดินสาธารณประโยชน์ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาการแก้ปัญหาดังกล่าวยังไม่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด” นายนริศ กล่าวย้ำอย่างเคร่งขรึม.