นักกำหนดอาหาร แนะวิธีเลือกซื้อเนื้อสัตว์อย่างปลอดภัยช่วงเทศกาลตรุษจีน
หมวดหมู่ : ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 13 ม.ค. 2566, 19:00 น. อ่าน : 567 กรุงเทพฯ - นักกำหนดอาหาร รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล แนะวิธีเลือกซื้อ-การจัดเก็บ
เนื้อสัตว์ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนให้มีคุณภาพปลอดภัย ก่อนซื้อสังเกตตราสัญลักษณ์
“ปศุสัตว์ OK” และฉลากรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัย
เน้นปรุงสุก-อุ่นร้อน ก่อนรับประทาน
ดร.วนะพร ทองโฉม
นักกำหนดอาหาร งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ตรุษจีน
เป็นเทศกาลที่คนไทยเชื้อสายจีนจัดพิธีไหว้เจ้าและเคารพบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
โดยหนึ่งในเครื่องไหว้ที่สำคัญและขาดไม่ได้เลย คือ อาหารกลุ่มเนื้อสัตว์ อย่างเช่น
หมู ไก่ เป็ด หรืออาหารทะเล อาทิ กุ้ง ปลา
ดังนั้นวิธีการเลือกซื้อจึงต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ นอกจากความสด สะอาด
สิ่งแรกให้สังเกตตราสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” จากกรมปศุสัตว์
และ ฉลากรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัย
ซึ่งถือเป็นการการันตีความเชื่อมั่นในการเลือกซื้อเนื้อสัตว์
นอกจากนี้ให้สังเกตจากคุณลักษณะของเนื้อสัตว์
อย่าง เนื้อหมู สีจะต้องไม่แดงจัด เป็นสีอมชมพู ไม่มีเม็ดสาคู
ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นไข่ของพยาธิตัวตืดต่างๆ สำหรับเป็ดหรือไก่
ปกติจะไหว้เป็นตัว ให้เลือกขนาดตัวอ้วน ตัวใหญ่ เนื้อหน้าอกแน่น หนังเป็นมัน
บริเวณปีกหรือใต้ปีกไม่มีสีคล้ำ ไม่มีกลิ่นเหม็น ในขณะที่ เนื้อปลา
ต้องเลือกเหงือกที่มีสีแดง หนังปลาเป็นมันเงา เนื้อปลาเมื่อกดลงไปจะไม่ยุบตามแรงกด
แสดงถึงความสดของเนื้อปลา ส่วนกุ้ง แนะนำให้เลือกกุ้งที่มีหัวกับตัวติดกัน
เป็นลักษณะของกุ้งที่สด เปลือกมีความเงา แข็ง ไม่มีกลิ่น หากเลือกซื้อเนื้อสัตว์อยู่ในบรรจุภัณฑ์
ให้สังเกตตราสัญลักษณ์รับรองมาตรฐานว่าผ่านเกณฑ์อาหารปลอดภัย
ดูวันผลิตและวันหมดอายุ และที่สำคัญควรจัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม คือ ต่ำกว่า 5
องศาเซลเซียส
ดร.วนะพร แนะนำว่า
เมื่อซื้อเนื้อสัตว์สดกลับมาที่บ้านแล้ว ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการจัดเก็บเนื้อสัตว์
เนื่องจากเป็นอาหารสดที่เน่าเสียได้ง่าย
หากยังไม่นำมาใช้ต้องเก็บในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส
โดยการแช่เย็นหรือแช่แข็งในตู้เย็น
โดยสังเกตตู้เย็นว่าจัดเก็บของไว้หนาแน่นหรือไม่ ถึงแม้อุณหภูมิจะต่ำกว่า 5
องศาเซลเซียส
หากตู้เย็นแน่นเกินไปจะส่งผลกับอุณหภูมิที่มาถึงเนื้อสัตว์ที่ไม่ต่ำพอจะป้องกันการเน่าเสียได้
ขณะเดียวกัน ควรแบ่งประเภทของเนื้อสัตว์
และมีช่องว่างในการแช่เพื่อให้อุณภูมิเข้าถึง
ช่วยยืดอายุของการเก็บรักษาได้นานยิ่งขึ้น
“เทศกาลตรุษจีน
ลูกหลานนิยมนำอาหารมาไหว้บรรพบุรุษจำนวนมาก
ทำให้อาหารหลังการไหว้มีปริมาณมากและอาจรับประทานไม่ทัน
ลำดับแรกควรแจกจ่ายแบ่งปันอาหารให้กับคนใกล้ชิด
หรือหากสามารถจัดการได้ภายในครอบครัว ควรมีวิธีการปรุงที่เหมาะสม เช่น เป็ด ไก่
หมูที่ไหว้แล้ว ให้นำมารวน เพื่อลดปริมาณน้ำในเนื้ออาหารเพราะการรวนจะทำให้มีความแห้ง
สามารถจัดเก็บอาหารได้นานขึ้น” ดร.วนะพร กล่าว
สำหรับวิธีการปรุงอาหารหลังจากการไหว้ สามารถนำมาดัดแปลงเป็นเมนูอาหารได้หลากหลาย เช่น พะโล้ ผัดพริกแกง และที่สำคัญควรปรุงอาหารให้สุกอย่างทั่วถึง อุณหภูมิที่เหมาะสมคือตั้งแต่ 74 องศาเซลเซียสขึ้นไป จะช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคที่อาจปนเปื้อนมากับอาหารได้ ทั้งนี้ ของไหว้ส่วนใหญ่จะจัดเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เมื่อรวมกับระยะเวลาไหว้ อาหารจะอยู่ในอุณหภูมิห้องเกิน 2 ชั่วโมง อาจทำให้เกิดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อโรคได้ ดังนั้น ไม่ควรนำมารับประทานทันที ต้องนำอาหารไปอุ่นร้อนก่อน ด้วยอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 74 องศาเซลเซียส
“ที่สำคัญ
ต้องระมัดระวังเรื่องความเค็ม ไม่ควรเติมเครื่องปรุงรสมากจนเกินไป
หรือเลือกใช้เครื่องปรุงที่ลดโซเดียม สำหรับเนื้อสัตว์ที่ติดหนัง ติดมัน
กระบวนการต้องไม่ใช้น้ำมันมาก ไม่นำไปทอด เปลี่ยนเป็นการอบ ตุ๋น นึ่ง ยำ
และควรเพิ่มใยอาหารด้วยการเติมผักลงไป
เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วนมากขึ้นและดีต่อสุขภาพ” ดร.วนะพร กล่าวทิ้งท้าย.