นักท่องเที่ยวพบเต่าตะนุหนัก 130 ก.ก.เกยตื้น แจ้งจนท.ช่วยยื้อชีวิต

ตรัง-นักท่องเที่ยวพบเต่าตนุเพศเมีย หนัก 130 กก. นอนเกยตื้นหายใจรวยรินริมชายหาด แจ้ง จนท.เร่งลำเลียงนำส่งรพ.สัตว์น้ำราชมงคล ช่วยยื้อชีวิต

      เมื่อวันที่ 18 ม.ค.68 เวลา 09.00 น. นายจรูญ ใจตรง หน.หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ จม.2 (หยงหลิง) อุทยานแหงชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวพบเต่าตนุตัวใหญ่สภาพนอนเกยตื้น ระหว่างเขตหาดยาวกับหาดหยงหลิง ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฯ จึงรุดเดินทางเข้าพื้นที่ไปตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าน่าแม่เต่าตะนุน่าจะขึ้นมาเกยตื้นเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ดูสภาพค่อนข้างอ่อนแอ ว่ายลงทะเลไม่ไหว 

       จากการตรวจสอบพบว่า เป็นเต่าตนุเพศเมีย วัดขนาดความกว้างของลำตัว 93 ซม. และความยาวของลำตัว103 ซม. น้ำหนักประมาณ 130 กก. และได้ดำเนินการแจ้งโรงพยาบาลสัตว์น้ำ สถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง มารับตัวเพื่อตรวจสุขภาพนำกลับไปปล่อยสู่ท้องทะเล

        ด้าน ผศ.ดร.ประเสริฐ ทองหนูนุ้ย ผอ.สถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าโรงพยาบาลสัตว์น้ำราชมงคลตรัง ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล เพื่ออนุบาลเต่าตัวดังกล่าวจากที่พบเห็นเต่ามีอาการอ่อนแรงซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย แต่ไม่พบบาดแผลภายนอก  จึงได้ดูแลอาการในเบื้องต้นและจะทำการประเมินตรวจร่างกายอีกครั้งโดยคณะทีมสัตวแพทย์ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการรักษาตัวระยะหนึ่งเพื่อเฝ้าสังเกตอาการและประเมินพฤติกรรม 

        ผศ.ดร.ประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า บางตัวอาจจะใช้เวลาไม่กี่เดือน บางตัวอาจจะใช้เวลาเป็นปีๆ ขึ้นอยู่กับการประเมินอาการจากคุณหมอผู้ดูแล ซึ่งภายในโรงพยาบาลสัตว์น้ำราชมงคลตรัง ปัจจุบันได้ทำการอนุสัตว์น้ำหลายชนิดทั้งเต่า และตะพาบน้ำ ซึ่งบางตัวมีบาดแผลภายนอก ทำให้พิการ ไม่สามารถปล่อยคือสู่ธรรมชาติได้ จึงต้องอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลสัตว์น้ำราชมงคลตรัง โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความดูแล และคอยให้อาหาร ซึ่งจะให้เป็นปลาข้างเหลือง และพวกสาหร่าย โดยก่อนหน้านี้ได้ทำการปล่อยเต่าที่อนุบาลไว้คืนสู่ธรรมชาติแล้ว จำนวน 5 ตัวเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา.