นักวิจัย มวล. คิดค้นระบบผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียในโรงงานอุตสาหกรรม ลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
หมวดหมู่ : นครศรีธรรมราช, ทั่วไป, การศึกษา,
โฟสเมื่อ : 4 ก.พ. 2565, 15:03 น. อ่าน : 776 นครศรีธรรมราช - นักวิจัย มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ คิดค้นระบบผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียอินทรีย์ในโรงงานอุตสาหกรรมแบบใหม่
3 ขั้นตอน (3S-ASBR) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสีย
ได้ปริมาณก๊าซเพิ่มขึ้นจากระบบเดิมกว่า 98% ช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้สูงถึง
90% พร้อมตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติด้านพลังงานแล้ว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.เกศรา เสนีย์ศรีสกุล รักษาการแทนหัวหน้าสาขาวิชาปิโตรเคมีและพอลิเมอร์
สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ม.วลัยลักษณ์ (มวล.) เปิดเผยว่า
ตนได้ร่วมกับทีมนักวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ออกแบบและทดสอบระบบบำบัดน้ำเสียแบบใหม่ ASBR 3
ขั้นตอน (A new three-step anaerobic sequencing batch reactor) เพื่อผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียอินทรีย์ของโรงงานอุตสาหกรรม เช่น
โรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน โรงงานผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง โรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลัง
เป็นต้น ซึ่งผลการทดสอบระบบดังกล่าวโดยการวัดค่า COD (Chemical Oxygen
Demand) หรือค่าที่บอกคุณภาพของน้ำ แสดงความสกปรกของน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
พบว่า สามารถลดมลพิษในน้ำได้กว่า 90%
มากกว่าระบบบำบัดนำเสียแบบเดิมที่เป็นขั้นตอนเดียวหรือ 2 ขั้นตอนซึ่งลดค่า COD
ได้ประมาณ 60-80%
ที่สำคัญยังได้ปริมาณก๊าซเพิ่มขึ้น 98% มากกว่าระบบเดิมที่ได้ประมาณ 60%
และระบบ ASBR 3 ขั้นตอน
ถือเป็นระบบบำบัดน้ำเสียระบบใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพดีที่สุดในการกำจัดของเสีย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.เกศรา กล่าวต่อไปอีกว่า กระบวนการทำงานของระบบ ASBR แบบ
3 ขั้นตอนนี้จะแยกชนิดจุลินทรีย์ออกเป็น 3 ถังตามสภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
ทั้งอุณหภูมิ ค่าความเป็นกรด เวลาและขนาดถัง ได้แก่ กลุ่มที่ 1
ไฮโดรไลซิสแบคทีเรียและแอซิโดเจน ทำหน้าที่ย่อยสารอินทรีย์โมเลกุลใหญ่ในน้ำเสียให้เป็นกรดไขมันระเหยง่าย
กลุ่มที่ 2 อะซิโตเจน
ทำหน้าที่เปลี่ยนกรดไขมันระเหยง่ายไปเป็นสารโมเลกุลเล็กลงและกลุ่มที่ 3 เมทาโนเจน
ทำหน้าที่เปลี่ยนโมเลกุลสุดท้ายให้เป็นก๊าซชีวภาพ
อีกทั้งระบบนี้ยังช่วยรักษาระดับของสารไมโครนิวเทรียนท์
ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของจุลินทรีย์ทั้ง 3
กลุ่มให้คงอยู่ในระบบค่อนข้างมากเมื่อเทียบกัยระบบเดิมทีมักจะเกิดการตกตะกอนของสารอาหารชนิดนี้
และจากผลการวิจัยยังพบว่า อัตราส่วนโดยปริมาตรของถังที่ 1:2:3 เท่ากับ 1:1.5:5
ให้ประสิทธิภาพดีที่สุดในการกำจัดของเสีย
“ระบบ ASBR ยังสามารถใช้เป็นต้นแบบในการผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียของโรงงานซึ่งนอกจากจะให้ปริมาณก๊าซที่สูงขึ้นแล้ว ยังช่วยบำบัดน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำก๊าซชีวภาพกลับมาใช้เป็นเชื้อเพลิงหมุนเวียนภายในโรงงาน ลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงหรือนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในโรงงานหรือส่งออกขายสร้างรายได้อีกทาง ขณะเดียวกันยังช่วยลดมลพิษที่เกิดจากการปล่อยน้ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรมที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี”ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เกศรา กล่าว
อย่างไรก็ตาม
งานวิจัยดังกล่าวถือเป็นองค์ความรู้ใหม่และได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Energy
ซึ่งเป็นวารสารระดับนานาชาติด้านพลังงานในฐานข้อมูล Scopus โดยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
https://engineer.wu.ac.th/ หรืออ่านงานวิจัยเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sciencedirect.com/science/article/abs.