“นายกชา”ชูนโยบายเปิดประตูปากนครสู่เมืองท่องเที่ยว
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, นครศรีธรรมราช,
โฟสเมื่อ : 21 มิ.ย. 2564, 16:00 น. อ่าน : 811นครศรีธรรมราช- “ปรีชา แก้วกระจ่าง”หรือ“นายกชา”แถลงนโยบายต่อสภาเทศบาลตำบลปากนคร จับมือทุกฝ่ายเร่งทำงานเชิงรุกแก้ปัญหาประชาชน โดยเปิด 2 โครงการขุดลอกร่องน้ำคลองปากนคร และก่อสร้างสะพานข้าม 2 ฝั่งคลองปากนคร เพื่อเปิดเมืองสู่การท่องเที่ยวสมบูรณ์แบบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้า วันที่ 21 มิ.ย.2564 สภาเทศบาลตำบลปากนคร ได้เปิดประชุมสภาสมัยสามัญ สมัยแรก ประจำปี พ.ศ. 2564 ที่ห้องประขุมสภาเทศบาลตำบลปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยในการประชุม มีญัตติที่สำคัญเสนอในที่ประชุมสภาฯ ได้แก่ญัตติการแถลงนโยบายของนายปรีชา แก้วกระจ่าง นายกเทศมนตรี ซึ่งเข้าแถลงต่อสภาเทศบาลตำบลปากนคร มีทีมบริหาร สมาชิกสภา หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมรับฟังพร้อมหน้า
นายปรีชา เปิดเผยหลังการแถลงนโยบายว่า ตนได้แถลงนโยบายต่อสภาฯ มีนโยบายที่ครอบคลุมในทุก ๆ ด้านรวม 8 ด้าน นอกจากนี้มีนโยบายเร่งด่วนที่ตนและทีมบริหาร หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งดำเนินการ โดยมีผลประโยชน์ของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด ตนได้คุยกับสมาชิกสภา และเจ้าหน้าทุกคนว่าเรื่องการเมืองถือว่าจบไปเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราไม่มีฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน แต่เรามีฝ่ายเดียวกัน พวกเดียวกัน เพราะผู้บริหาร สมาชิกสภา แม้ตอนเลือกตั้งจะอยู่คนละฝ่ายกัน แต่ทุกคนเป็นลูกหลานชาวปากนคร มีความตั้งใจที่จะเข้ามาร่วมพัฒนาปากนคร เมื่อได้รับการเลือกตั้งเข้ามาถือว่าเป็นมติจากประชาชนชาวปากนครที่จะต้องช่วยกันทำงานในเชิงรุกเพื่อแก้ไขปัญหาที่คั่งค้าง หมักหมมมายาวนานหลายปี ประชาชนเลือกทุกคนมาเป็นตัวแทนเข้ามาร่วมทำงานตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง หลังจากนี้ให้ประชาชนได้จับตาและติดตามความเคลื่อนในการทำงานพัฒนาปากนครทั้งสองฝั่ง สิ่งสาธารณูปโภคที่เรายังขาดเราจะต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน
“นโยบายสำคัญเร่งด่วนที่สุดคือปากน้ำปากนครตื้นเขินจนเรือประมงพาณิชย์ และเรือประมงพื้นบ้านขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ที่เคยว่างเข้าออกได้ไม่สามารถวิ่งเข้าออกได้ ยกเว้นเรือประมงขนาดเล็กหรือเรือหางยาว ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพประมงของชาวปากนครและใกล้เคียงเป็นอย่างมาก เดิมลึก 4-5 เมตร กว้าง 50 เมตร แต่ทุกวันนี้ในช่วงน้ำลงปากอ่าวปากนครจะตื้นเขินจนเรือทุกชนิดไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ต้องเปลี่ยนไปใช้ร่องน้ำนอกพื้นที่แทนคือร่องน้ำของ อ.ท่าศาลา ทั้ง ประกอบอาชีพประมงหรือเรือโดยสาร สามารถวิ่งผ่านได้เหมือนในอดีตที่ปากนครเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก” นายปรีชากล่าว
นายปรีชากล่าวอีกว่า เมืองนครศรีธรรมราชรับน้ำมาจากเทือกเขาหลวงไหลผ่านตัวเมืองโดยคลอง 5 สายแต่ทุกสายจะไหลมารวมกันและออกสู่ทะเลที่อ่าวปากนคร นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพประมงแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านบนจนถึงตัวเมืองนครศรีธรรมราชที่ประสบอุทกภัยภัยรุนแรง เพราะน้ำไหลออกสู่ทะเลได้ยากลำบาก หากขุดลอกร่องน้ำอ่าวปากนคร ปัญหาต่าง ๆ จะหมดไปทันที ปากนครจะกลับกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่อยู่โดดเด่นอยู่ใกล้ตัวเมืองนครศรีธรรมราชแค่ 10 กม. เท่านั้น
นอกจากนี้โครงการเร่งด่วนอีกโครงการหนึ่งคือการก่อสร้างสะพานข้ามคลองปากนครเพื่อเชื่อมต่อเขตเทศบาลทั้งสองฝั่งคือฝั่งหมู่ 1 หมู่ 6 ต.ปากนครกับฝั่งหมู่ 4 ต.ท่าไร่ ให้สามารถเดินทางไปมาได้สะดวกรวดเร็ว ในปัจจุบันต้องใช้เรือหางยาวโดยสารข้ามไปมา หากจะเดินทางในเสนทางรถยนต์จะต้องขับรถอ้อมไปกว่า 10 ก.ม. พวกเราทุกคนจะมุ่งมั่น รักสามัคคี ร่วมกันพัฒนาปากนครของพวกเราให้กับมายิ่งใหญ่อีกครั้งเหมือนในอดีต
จากนั้นนายปรีชา ได้นำคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบจุดร่องน้ำที่ตื้นเขินรวมทั้งจุดที่จะมีการก่อสร้างสะพานข้ามคลองปากนครเชื่อมการสัญจร 2 ฝั่ง โดยพบว่ามีทัศนียภาพที่สวยงามเป็นอย่างมาก มองเห็นแหลมตะลุมพุกฝั่ง ต.แหบมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช อย่างชัดเจนเหมาะในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและต่อยอดไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ การประกอบอาชีพประมงพาณิชย์ ประมงชายฝั่งหรือประมงพื้นบ้าน การนั่งเรือหางยาวนำเที่ยวชมวิวทิศทัศน์ ร้านอาหารซีฟู้ดสดจากทะเล ร้านขายของที่ระลึก โรงแรม ที่พัก เป็นต้น ส่งผลด้านเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม.