บรรยากาศงานประเพณีลอยกระทง จ.สงขลา ประจำปี 2563
หมวดหมู่ : สงขลา, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 1 พ.ย. 2563, 01:30 น. อ่าน : 1,506 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ที่บริเวณสระบัว
แหลมสมิหลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เทศบาลนครสงขลา
กำหนดจัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2563 โดยมี นายวงศกร นุ่นชูคันธ์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย ดร.สมศักดิ์
ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ คณะผู้บริหาร
สมาชิกสภาเทศบาล ประชาชนชาวสงขลาและพื้นที่ใกล้เคียง
รวมทั้งนักท่องเที่ยวมาร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงในปีนี้เป็นจำนวนมาก
ซึ่งกระทงที่นำมาลอยจะทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง หยวกกล้วย กลีบดอกไม้ ใบไม้
ขนมปังสีสันสวยงามหลากหลายรูปแบบ โดยภายในงานมีการแสดงบนเวที
การประกวดหนูน้อยนพมาศ ซึ่งผลการประกวดหนูน้อยนพมาศ ประจำปี 2563 ได้แก่
เด็กหญิงไปรยา คีรีวรรณ
นอกจากนี้ยังมีการประดับไฟเพิ่มแสงสว่างและตกแต่งอย่างสวยงาม
ดร.สมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา กล่าวว่า การจัดงานฯ ครั้งนี้
จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์และสืบสานประเพณีลอยกระทง
และเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนให้มีความตระหนักในการมีส่วนร่วมสืบสานประเพณีของไทย
โดยเทศบาลนครสงขลาได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับให้ประชาชนได้ร่วมลอยกระทง จัดให้มีการแสดงดนตรีจากนักเรียนโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครสงขลา
การแสดงจากชมรมไลน์แดนซ์ และในปีนี้จัดให้มีการประกวดหนูน้อยนพมาศขึ้นเป็นปีแรก
เพื่อเป็นการสร้างสีสันและมอบความสุขให้กับประชาชนที่มาร่วมสืบสานประเพณี
นอกจากนี้ เทศบาลนครสงขลาได้ขอความร่วมมือจากประชาชนในการรณรงค์และให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมพร้อมกับการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
โดยรณรงค์ให้ใช้วัสดุพื้นบ้านหรือวัสดุจากธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ง่ายในการทำกระทง
เช่น ใบตอง หยวกกล้วย หรือขนมปัง ที่สามารถเป็นอาหารของปลาและสัตว์น้ำอื่นได้
แทนการใช้โฟมซึ่งย่อยสลายได้ยาก เป็นเหตุให้แม่น้ำลำคลองสกปรกเน่าเหม็น
เกิดภาวะเป็นพิษ รวมถึงรณรงค์การจุดดอกไม้ไฟ ประทัด พลุหรือปล่อยโคมลอย
ไม่ควรจุดในที่ชุมชนที่มีประชาชนและยวดยานพาหนะสัญจรไปมา
ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สินของประชาชนได้
วันลอยกระทง ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 เป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณโดยมีความเชื่อว่าเป็นพิธีรับเสด็จพระพุทธองค์กลับลงมาจากสวรรค์หลังเสด็จไปโปรดพุทธมารดา บูชารอยพระพุทธบาท บูชาพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ บางก็เชื่อว่าบูชาพระอุปคุตเถระ หรือเป็นการบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อ แต่ปัจจุบันนิยมทำเพื่อขอขมา และระลึกถึงคุณพระแม่คงคา ที่ได้อำนวยประโยชน์ต่างๆ แก่มนุษย์ โดยประเพณีลอยกระทงมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยประมาณ 700 ปีมาแล้ว ในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง โดยมีนางนพมาศ หรือ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พระสนมเอกในพระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัย เป็นผู้ประดิษฐ์กระทงขึ้นครั้งแรก โดยแต่เดิมเรียกว่า “พิธีจองเปรียง” ที่ลอยเทียนประทีป และนางนพมาศได้นำดอกโคทม ซึ่งเป็นดอกบัวที่บานเฉพาะวันเพ็ญเดือนสิบสองมาใช้ใส่เทียนประทีป ประเพณีลอยกระทงได้เข้าสู่ประเทศไทยในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีประมาณ พ.ศ.1800 ดังปรากฏในหนังสือนางนพมาศ แม้เวลาจะล่วงเลยมานานแต่ประเพณีลอยกระทงก็ยังยึดมั่นอยู่กับคนไทย เพราะนอกจากเป็นการสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของไทยไว้แล้วยังเป็นการระลึกถึงคุณค่าของแม่น้ำ อีกทั้งเป็นการขอขมาพระแม่คงคาที่ได้ทิ้งและถ่ายสิ่งปฏิกูลลงไปในแหล่งน้ำต่างๆ พร้อมลอยทุกข์โศกโรคภัยและสิ่งไม่ดี คล้ายกับพิธีลอยบาปของพราหมณ์.